ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

PSL รับค่าระวางปีนี้อาจพลาดเป้าที่คาดสูงกว่าตลาด 10% หลังเจอปัญหาหลายด้าน

เริ่มโดย mrtnews, พ.ย 05, 14, 19:33:42 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 - นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ บมจ. พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทไม่มั่นใจว่าค่าระหว่างเรือ (BDI) จะสามารถเติบโตได้เกิน 10% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่มากกว่าอุตสาหกรรมตามที่บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ เนื่องจากในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการส่งแร่เหล็กของบราซิล และถ่านหิน รวมไปถึงพืชผลทางการเกษตรที่มีราคาตกต่ำทำให้มีการชะลอการส่งสินค้าไป เป็นผลกระทบต่อค่าระวางเรือในไตรมาส 3/57 ที่ผ่านมา


สำหรับในไตรมาส 4/57 คาดว่า BDI จะปรับตัวดีขึ้น ตามอุตสาหกรรมเดินเรือที่จะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากบราซิลจะมีการขนส่งแร่เหล็กมากขึ้น และไตรมาส 4/57 คาดว่าความต้องการถ่านหินในจีนจะมากขึ้นจากก่อนหน้านี้ความต้องการถ่านหินน้อยเนื่องจากปริมาณน้ำฝนมากสามารถมาใช้ทดแทนการใช้ถ่านหินในการผลิตไฟฟ้า แต่หลังจากปริมาณน้ำน้อยลงความต้องการใช้ถ่านหินก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย ในขณะที่อเมริกาใต้ ชะลอการขนส่งสินค้าเกษตร เนื่องจากต้องการรอให้ราคาสินค้าเกษตรมีราคาที่สูงขึ้นก่อน แต่อย่างไรก็ตามสินค้าเกษตรไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน จึงเชื่อว่าไตรมาส 4/57 จะขนส่งสินค้าที่เก็บไว้ออกมาขาย

"ไตรมาส 4/57 BDI คงจะดีกว่าไตรมาส 3/57 เพราะหลายปัจจัยส่งผลดี ทั้งความต้องการถ่านหินในจีนที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงหน้าหนาว และฝนที่ลดลงทำให้บราซิลกลับมาขนส่งแร่เหล็กไปจีนได้มากขึ้น อีกทั้งอเมริกาใต้ ก็จะขนส่งสินค้าเกษตรออกมาขายมากขึ้นจากที่ชะลอไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมเดินเรือ ในไตรมาส 4/57-ไตรมาส 1/58" นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนจะใช้เงินซื้อเรือใหม่ในช่วง 2 ปีข้างหน้า (58-59) จำนวน 24 ลำ มูลค่า 656 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  แบ่งเป็นปี 58 และจะรับมอบเรือ ใหม่ 17 ลำ ซึ่งเป็นเรือที่มีเครื่องยนต์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่ปี 59 จะมีการรับมอบเรือใหม่อีก 7 ลำ ส่งผลให้ปี 59 บริษัทฯมีกองเรือของบริษัทฯ อยู่ที่ 48 ลำ และมีอายุเฉลี่ย 3.5 ปี ขนาดเฉลี่ย 50,000 เดทเวทตัน/ลำ โดยปัจจุบันบริษัทฯมีการจัดหาแหล่งเงินทุนมาแล้วกว่า 70% โดยปัจปัจจุบันบริษัทฯเหลือเพียงการหาแหล่งเงินกู้อีก 4 ลำ

ทั้งนี้หลังจากที่กู้เงินมาใช้ในการซื้อเรือแล้วจะส่งอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) มาอยู่ที่ระดับ 1-1.3 เท่า จากปัจจุบันที่มี D/E 0.79 เท่า

PSL เผยตอบลำบาก ค่าระวางเรือปีนี้มากกว่าอุตสาหกรรม10%หรือไม่ ขอดูภาวะศก.ประกอบ

สำนัก ข่าวหุ้นอินไซด์( 4 พฤศจิกายน 2557) - นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดค่าระวางเรือหรือ BDI ในปีนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ ขึ้นอยู่กับสถาวะเศรษฐกิจรอบโลก เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เศรษฐกิจยังคงตกต่ำ อาทิ การส่งออกปริมาณการผลิตแร่เหล็กของบราซิล ที่ลดลงอย่างมากในครึ่งปีแรก ประกอบกับ การนำเข้าถ่านหินที่ลดลงของจีนในปีนี้ หลังมีการผลิตกระแสไฟฟ้าจากน้ำทำได้ดี จากโครงการเขื่อนแห่งใหม่และปริมาณน้ำฝนที่เพียงพอ  ซึ่งการนำเจ้าถ่านหินของจีนถือเป็นรายใหญ่ที่สุุดของโลก การนำเข้าที่ลดลงเป็นผลมาจากกำลังการผลิตของอุตสาหกรรมที่อ่อนตัวลง การผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานน้ำที่เพิ่มขึ้น และการบังคับลดบริโภคถ่านหิน

นายคาลิด   กล่าวเพิ่มเติมว่า  ขณะนี้บริษัทฯ มีเรือจำนวน 44 ลำในกองเรือของบริษัทฯ โดยมีการสั่งต่อเรือใหม่อีก 1 ลำ กำหนดรับมอบในเดือนพฤศจิกายนนี้  ลำเป็นเรือขนส่งซีเมนต์จะทำให้ในสิ้นปีนี้บริษัทฯ มีเรือจำนวน 45 ลำในกองเรือของบริษัทฯ  อีกทั้งบริษัทยังมีแผนที่จะขายเรือเก่าและเรืออายุน้อยที่ไม่เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อมทั้งหมดจำนวน 21 ลำ  และในปี2558 มีกำหนดรับมอบเรือสั่งต่อใหม่อีก 17 ลำซึ่งเป็นเรือขนาด 38,000 เวทตัน จำนวน 4 ลำ และเรือขนาด 64,000 เดทเวทตัน จำนวน 13 ลำ ส่วนในปี2559 มีกำหนดรับมอบเรือสั่งต่อใหม่อีก 7 ลำ ซึ่งเป็นเรือขนาด 38,000 เดทเวทตัน จำนวน 2 ลำ และเรือขนาด 64,000 เดทเวทตัน จำนวน 5 ลำ   ส่งผลให้กองเรือของบริษัทฯจะอยู่ที่ 48ลำ โดยมีอายุเฉลี่ย 3.5 ปี 

อย่าง ไรก็ตามแม้ค่าระวางเรือจะมีการปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาส3 แต่คาดว่าไตรมาส4 จะปรับตัวดีขึ้นหลังความต้องการใช้ปรับตัวเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากการที่คาดว่าการขนส่งแร่เหล็จากบราซิลกำลัง จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและความต้องการของจีนเริ่มอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยความต้องการบริโภคเหล็กในจีนจะยังคงขยายตัวได้ต่อไป แต่ยังคงต้องเฝ้าติดตามเรื่งต่างๆ กล่าวคือ การที่จีนมุ่งเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณการผลิต นโยบายการต่อต้านคอร์รับชั่น นโยบายการปล่อยสินเชื่อ จึงเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์อนาคตตลาดเรือเทกองและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

เขากล่าวต่อว่ายังมีเรื่องของการส่งออกพืชผลทางการเกษตรที่ปรับตัวลดลงก่อนหน้า นี้ เนื่องจากปริมาณการผลิตมากและความเปราะบางของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ จะฟื้นตัวขึ้นจากความต้องการที่มากขึ้น รวมทั้งรัฐบาลไทยได้เริ่มขายข้าวในสต็อคจากแผนการอุดหนุนของภาครัฐ

เขากล่าวเพิ่มเติมว่าแผนกลยุทธ์จากนี้บริษัทฯตั้งเป้าปลอดหนี้สินก่อนสิ้นปี 2561 และก่อนวันครบกำหนดตามสัญญาเงินกู้ระยาว โดยปัจจุบันบริษัทมีหนี้สิน จำนวน 370 ล้านบาท ขณะที่ อัตราหนี้สินต่อทุนหรือ D/E อยู่ที่ 0.79 % ซึ่งปีหน้า อาจจะเพิ่มขึ้นหลังการซื้อเรือเข้า คาดว่าจะอยู่ที่ 1-1.3%

สำหรับ ไตรมาสไตรมาส 3 ปี 2557 บริษัทฯขาดทุนสุทธิจำนวน 4.56 ล้านเหรียญสหรัฐ จากจำนวนเรือเฉลี่ยในไตรมาส3 ที่ 43 ลำ รายได้ต่อวันต่อลำเรืออยู่ที่ 6,575 เหรียญสหรัฐ ในไตรมาสนี้ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือต่อวันต่อลำเรือเฉลี่ยอยู่ที่ 4,547 เหรียญสหรัฐ หากจะประมาณตัวเลขสำหรับปีนี้ จะได้ประมาณ 4,600 เหรียญสหรัฐต่อวันต่อลำเรือ ซึ่งสูงกว่าประมาณที่บริษัทฯตั้งไว้ที่จำนวน 4,500 เหรียญสหรัฐต่อวันต่อลำเรือ

ผู้สื่อข่าว : เกศรินทร์ สำแดงภัย

ที่มา -