ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

ไทยรับมือ ‘พม่า’ ปิดท่อก๊าซ ‘บิ๊ก ปตท.’ชี้เป็นปัญหาใหญ่ เตือนระวังไฟดับ-NGVขาด

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 10, 13, 19:59:26 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

กระทรวงพลังงาน ประชุมสัปดาห์หน้า รับมือพม่าหยุดส่งก๊าซ 4 เม.ย.นี้ ในเบื้องต้นเตรียมเจรจาขอให้เลื่อนออกไปก่อน ขณะที่ผู้บริหาร ปตท.ชี้เป็นไปได้ยาก ห่วงการขาดแคลนก๊าซฯที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นปัญหาใหญ่ แนะโรงไฟฟ้าเตรียมแผนรับมือให้ดี ห่วงกระทบกำลังการผลิต


นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเตรียมเรียกประชุมด่วนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านก๊าซธรรมชาติในสัปดาห์หน้าเพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาวิกฤติก๊าซฯขาดแคลนในไทยช่วงเดือนเมษายน 2556 หลังจากประเทศพม่าแจ้งว่าจะทำการปิดซ่อมบำรุงท่อก๊าซฯ ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2556 เป็นเวลากว่า10 วัน จะส่งผลกระทบต่อโรงไฟฟ้าฝั่งตะวันตกของประเทศไทย และกระทบต่อปริมาณก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์(เอ็นจีวี) ฝั่งตะวันตกของไทยเช่นกัน

ในเบื้องต้น กระทรวงพลังงาน จะเจรจาให้พม่าเลื่อนการปิดซ่อมบำรุงออกไป 1 สัปดาห์เพื่อให้ไปตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ของไทยเนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาว และมีการใช้ไฟฟ้าน้อย จะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าลงได้ส่วนหนึ่ง

พร้อมกันนี้จะเตรียมแผนรณรงค์ทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อขอให้ช่วยกันประหยัดการใช้ไฟฟ้าและพลังงานลงอีกส่วนหนึ่งด้วย ส่วนแนวทางแก้ปัญหาอื่นๆ นั้นกระทรวงพลังงานจะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เป็นต้น เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาต่อไป

ด้านนายพงษ์ดิษฐ พจนา โฆษก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า โรงไฟฟ้าที่จะได้รับผลกระทบ หากก๊าซฯพม่าหยุดส่งมาไทย จะเป็นโรงไฟฟ้าที่อยู่ฝั่งตะวันตกของประเทศ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าราชบุรี และโรงไฟฟ้าพระนครใต้ซึ่งพม่าจะปิดซ่อมบำรุงท่อก๊าซฯเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็ส่งผลกระทบต่อโรงไฟฟ้าฝั่งตะวันตกอยู่บ่อยครั้ง แต่ กฟผ.ได้เดินเครื่องโรงไฟฟ้าด้วยน้ำมันเตาทดแทนก๊าซฯที่หายไป และในปี 2556 นี้ ทาง กฟผ.จะต้องเดินเครื่องโรงไฟฟ้าด้วยน้ำมันเตาเช่นกัน และพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าในส่วนอื่นๆมาสำรองเท่าที่ทำได้

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า พม่าจะปิดซ่อมเพื่อเปลี่ยนท่อแฟร์ก๊าซที่ชำรุด โดยใช้ระยะเวลาประมาณกว่า 10 วัน อยู่ในช่วงที่พม่าปิดซ่อมบำรุงประจำปี แต่ปีนี้จะปิดซ่อมบำรุงกินเวลายาวนานกว่าปีที่ผ่านๆ มาประมาณวันที่ 4-12 เมษายน 2556 และจะส่งผลกระทบต่อโรงไฟฟ้าและผู้ใช้ก๊าซเอ็นจีวีในฝั่งตะวันตกของประเทศอย่างมาก เนื่องจากปริมาณก๊าซฯจะหายไปจากระบบในไทยประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือประมาณ 1 ใน 4 ของปริมาณก๊าซฯทั้งประเทศ

ทั้งนี้ ปตท.ได้เตรียมแผนรองรับปัญหาดังกล่าว ด้วยการนำก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) ซึ่งเป็นก๊าซฯที่ซื้อจากต่างประเทศมาเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน โดยปัจจุบันมีอยู่ 5 ล้านตัน และจะนำมาใช้ทดแทนก๊าซฯจากพม่าทั้งหมดหรือประมาณ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แต่เชื่อว่าจะไม่เพียงพอต่อปริมาณก๊าซฯที่หายไป อีกทั้งการนำแอลเอ็นจีมาผลิตเป็นเอ็นจีวีสำหรับรถยนต์จะมีความยุ่งยาก เพราะต้องเติมคาร์บอนไดออกไซด์ให้มีคุณสมบัติเป็นก๊าซเอ็นจีวีที่เหมือนกับก๊าซฯฝั่งตะวันออก ของประเทศก่อนเพื่อให้รถยนต์ทั่วไปสามารถใช้ได้และไม่เกิดอาการเครื่องยนต์น็อก โดยปตท.เชื่อว่าทั้งปัญหาคุณภาพแอลเอ็นจีที่นำมาใช้และโครงข่ายการส่งก๊าซฯ ไปป้อนให้กับฝั่งตะวันตกของประเทศที่จะขาดแคลนนั้นจะไม่สะดวกเพียงพอ ดังนั้น โรงไฟฟ้าและปั๊มเอ็นจีวี ในฝั่งตะวันตกจะประสบปัญหาขาดแคลนก๊าซฯอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ส่วนการเจรจาให้พม่าเลื่อนการซ่อมบำรุงท่อก๊าซฯออกไปอีก 1 สัปดาห์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ยาก เนื่องจากการเลื่อนซ่อมไปหลังจากที่กำหนดไว้นั้น ทางพม่าหวั่นเกรงว่าจะไปตรงกับช่วงฤดูมรสุมที่จะทำการซ่อมบำรุงไม่ได้ ดังนั้นปัญหาขาดแคลนก๊าซฯที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่โรงไฟฟ้าจะต้องเตรียมแผนรับมือให้ดีและปตท.ได้เร่งแจ้งเตือน กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับปัญหาดังกล่าวแล้ว

ที่มา -