ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา อาหาร ยา และเครื่องสำอางค์ รวมถึงสมุนไพรทุกชนิด ไม่ว่าจะมี อย. หรือไม่  เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

ประยุทธ มหากิจศิริ สร้างอาณาจักร พีเอ็ม กรุ๊ป บุกพลังงาน-อสังหาฯ

เริ่มโดย mrtnews, ก.ค 06, 13, 17:36:25 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

"ประยุทธ มหากิจศิริ" มหาเศรษฐีอันดับ 16 ของเมืองไทย ประจำปี 2555 ที่ได้รับฉายาว่า "เจ้าพ่อเนสกาแฟ"ทั้งที่ไม่ใช่เจ้าของผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ ด้วยเพราะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงงานผลิตเนสกาแฟ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในพอร์ตลงทุนของตระกูลมหากิจศิริ ในนาม "บริษัทพีเอ็ม กรุ๊ป" มีทั้งธุรกิจผลิตเหล็ก สนามกอล์ฟ อุตสาหกรรมพลังงาน มูลค่ารวมหลายหมื่นล้านบาท


นอกจากนี้ "ประยุทธ" ยังเคยเข้าสู่ถนนการเมืองในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แม้วันนี้จะบอกว่าตัวเองไม่เหมาะกับการเมือง แต่ยังคงสลัดไม่พ้นธุรกิจการเมือง โอกาสนี้ "ประชาชาติธุรกิจ" สัมภาษณ์พิเศษ บิ๊กบอส "พีเอ็ม กรุ๊ป" ถ่ายทอดเรื่องราวบนถนนธุรกิจ (การเมือง) และการสร้างอาณาจักร "พีเอ็ม กรุ๊ป" ก่อนส่งไม้ต่อให้ลูก ๆ ทั้ง 3 คน

- พอร์ตธุรกิจของตระกูลมหากิจศิริมีอะไรบ้าง

ที่ทำอยู่มีโรงงานผลิตกาแฟสำเร็จรูปสินค้าภายใต้ยี่ห้อเนสกาแฟบริษัทผลิตฟิล์ม (บมจ.ไทยฟิล์มอินดัสตรี่ หรือ TFI), ธุรกิจเหล็กไร้สนิม (บมจ.โพสโค-ไทยน๊อคซ์ หรือ INOX) ที่ผ่านมาขายหุ้นส่วนใหญ่ไปแล้วตอนนี้เหลือกว่า 10% ช่วงที่ขายได้เงินมากว่า 1 หมื่นล้านบาท นำไปขยายธุรกิจอื่น ๆ

ยอมรับว่าเพราะความผูกพันกับธุรกิจ ช่วงแรกไม่ยอมขายทำให้เงินหายไป 5-6 พันล้านบาท ถ้ายังไม่ขายเก็บถึงวันนี้เงินจะหายเพิ่มอีก 4 พันล้านบาท นอกจากนี้มีธุรกิจที่ดิน สนามกอล์ฟ 2 แห่ง คือ เลควูด และเมาน์เท่น ครีก รวมทั้งธุรกิจใหม่ที่ลูกชาย คุณกึ้ง (เฉลิมชัย มหากิจศิริ) ไปลงทุนใน บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และเข้าไปร่วมบริหาร มีทั้งเหมืองถ่านหิน เรือเดินสมุทรเกือบ 20 ลำ ที่บริษัทลูกเมอร์เมด มาริไทม์ ทำธุรกิจให้บริการแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล

- ภาพธุรกิจของมหากิจศิริกำลังเปลี่ยนไป

ใน อดีตผมสร้างชื่อและธุรกิจมากับเนสกาแฟ แต่ข้อเท็จจริงเนสกาแฟไม่ได้เป็นของผม แต่เป็นของเนสท์เล่ สวิตเซอร์แลนด์ นี่เป็นจุดหนึ่งที่ลูกชายบอกว่าที่ทำมาสร้างชื่อเนสกาแฟ แต่ยังไม่ได้สร้างแบรนด์ของตัวเอง ขณะที่คุณเจริญ (เจริญ สิริวัฒนภักดี) สร้างเบียร์ช้างเป็นของตัวเอง ซึ่งถูกต้องกว่า หรือคุณธนินท์ (ธนินท์ เจียรวนนท์) ก็สร้างแบรนด์ซีพี แต่ผมไม่ได้สร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง ที่สร้างมา 40 กว่าปี ถือว่าประสบผลสำเร็จน่าพอใจ แต่เนสกาแฟไม่เกี่ยวโยงกับธุรกิจอื่นทั้งสนามกอล์ฟ การพัฒนาที่ดิน

ดังนั้น เวลานี้ลูก ๆ กำลังสร้างอาณาจักรของเขาในอีกรูปแบบหนึ่ง จะสามารถเติบโตได้ภายใต้ "พีเอ็ม กรุ๊ป"

- วางแผนให้อาณาจักร "พีเอ็ม กรุ๊ป" เป็นอย่างไร

เป็น อินเวสต์เมนต์อาร์ม พร้อมเข้าสู่ธุรกิจที่มีโอกาส เวลานี้สนใจธุรกิจพลังงาน และอสังหาริมทรัพย์ เพราะ TTA ทำแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล ดูโอกาสขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้น ปัจจุบันให้บริการกลุ่มบริษัทพลังงานระดับโลก เช่น เชฟรอน และ Aramco เป็นต้น มีธุรกิจให้บริการอยู่ทั้งใน มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และซาอุดีอาระเบีย และหลังให้บริการต่างชาติเป็นที่ยอมรับก็จะย้อนกลับมาบริการบริษัทขุดเจาะน้ำมันในไทย เช่น ปตท.สผ. นั่นคือสิ่งที่คาดหวัง

ส่วน ในธุรกิจพัฒนาอสังหาฯเราพร้อมจะเปิดฉากได้ตลอดเวลา เพราะมีแลนด์แบงก์ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ถ้าได้พันธมิตรที่ดีก็อาจใช้แบรนด์ของเขาเลย แต่อีกด้านลูก ๆ ก็อาจต้องการสร้างแบรนด์เอง เช่น ตอนนี้เขาเริ่มชิมลางด้วยโครงการคอนโดมิเนียมเดอะ เนสท์ ตรงเพลินจิต ซึ่งประสบผลสำเร็จดี ถ้าจังหวะและโอกาสธุรกิจใหม่ผ่านเข้ามามีโอกาสจะเข้าไปมีส่วนร่วม โดยตอนนี้สินทรัพย์รวมก็หลายหมื่นล้านบาท

- แลนด์แบงก์ของมหากิจศิริ มีมากแค่ไหน

ใน กรุงเทพฯมีที่ดินแปลงสวย ๆ รวมหลายสิบไร่ หรือต่างจังหวัดที่สนามกอล์ฟเลควูดก็ยังมีโอกาสลงทุน เพราะมีที่ดินยังไม่ได้พัฒนาอีก 800 ไร่ มีที่ดินระดับนี้ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิภายใน 10 กม.ไม่ง่าย ส่วนสนามกอล์ฟเมาน์เท่น ครีก เขาใหญ่ สีคิ้ว ก็มีที่ดินกว่า 2,000 ไร่ อนาคตมีโอกาสพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยว มีโอกาสทำทั้งรีสอร์ต โรงแรมที่พัก เฮลท์แคร์ เป็นลองสเตย์ให้ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป และจีนที่มีโอกาสทะลักมาประเทศไทย

- เตรียมส่งไม้ต่อธุรกิจให้ลูก ๆ อย่างไร

ตอน นี้ยังต้องกำกับอยู่ การส่งงานผ่านต้องใช้เวลาหล่อหลอม ผมสอนลูกเสมอว่าทุกสิ่งขึ้นกับบุญกุศลที่สร้างมา เพราะคนเราเกิดมาชีวิตถูกกำหนดแล้วส่วนหนึ่ง อีกส่วนอยู่กับวิริยะอุตสาหะ

ลูก ทุกคนมีสายเลือดนักธุรกิจเต็มตัว มุ่งมั่นจะทำธุรกิจให้แข็งแกร่ง ตอนนี้ลูกสาวคนโต (อุษณีย์) ดูแลธุรกิจคริสปี้ ครีม ส่วนลูกชายดูพีเอ็ม กรุ๊ป โดยลูกสาวคนเล็ก (อุษณา) มาช่วย


- ภาวะที่ตลาดหุ้นผันผวนมีข้อแนะนำนักลงทุนอย่างไร

การ ลงทุนในตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่เมื่อมีเงินออมควรจะมี แต่ต้องรู้จังหวะ แนะนำให้แบ่งทรัพย์สิน 1 ใน 3 ลงทุนในตลาดหุ้น อีกส่วนเก็บเป็นเงินสดสำรอง และอีกส่วนให้ซื้อเป็นบ้านที่อยู่อาศัย ตลาดหุ้นลงก็ไม่เดือดร้อน เพราะตลาดหุ้นมีขึ้นมีลง แต่ถัวเฉลี่ยยังไงก็ต้องขึ้น สิ่งสำคัญคืออย่าไปกู้เงินมาเล่นเด็ดขาด เพราะหากผิดจังหวะแล้วเจอช่วงหุ้นขาลงจะเดือดร้อน

- ปัญหาเงินทุนต่างชาติที่ไหลออกจะกระทบแค่ไหน

เงิน เป็นของเหลวและเย้ายวนจะหาที่ลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง อย่าไปกังวลมาก เพราะเงินต่างชาติออกไปไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจไทยแย่ลง เพราะพื้นฐานบ้านเราดีอยู่แล้ว ที่รัฐบาลลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้าน เป็นเรื่องดี เพียงแต่ระหว่างทางอย่าให้มีการตกหล่น ต้องหาคนที่ดูแลจัดการให้ดี

- มองปัจจัยการเมืองอย่างไร

สิ่ง ที่เป็นห่วงคือการเมืองบ้านเราเล่นกันแรงจนไม่มีเหตุผล กลายเป็นจุดอ่อนของประเทศ ไม่ว่าใครถูกผิด แต่สิ่งที่หวังคือการลงเอยด้วยดีเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ

- ได้เข้าไปช่วยงานรัฐบาลบ้างหรือไม่

ผม ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลแล้ว การเมืองมันไม่เหมาะกับผมถือเป็นบทเรียน ส่วนลูกชายก็ถือว่าโชคดีที่ได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสรับรังสีอำมหิตของแวดวง การเมือง ในอนาคตเขาจะเข้าสู่การเมืองได้อย่างเปิดตาไม่ใช่แบบคนที่สำเร็จแล้วได้เข้า ไปแบบหลงใหลแบบปิดตา ผมสอนลูกเสมอ "ยาพิษกินไม่ได้ฉันใด การทำผิดกฎหมายทำไม่ได้ฉันนั้น"

ที่มา -