ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

พีเออีดี๊ด๊ารับทุนสิงคโปร์500ล้าน ลุยประมูลโปรเจ็กต์ออยล์-ก๊าซหวัง3ปีแก้ขาดทุน

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 14, 13, 06:46:10 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

นายรัตนพล วงศ์นภาจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.พีเออี (ประเทศไทย) (PAE) เปิดเผยว่า ภายหลังวันที่ 27 ก.พ. 56 ที่ผ่านมา สํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติให้กองทุน Advance Opportunities Fund (AO Fund) ใส่เงินเข้ามาร่วมทุนผ่านการซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 500 ล้านบาทนั้น จะส่งผลให้กองทุนดังกล่าวจะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนราว 9% ขณะที่สัดส่วนหุ้นของตนจะลดลงจากราว 11% มาอยู่ที่ประมาณกว่า 9% แต่ก็ยังคงสถานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 อยู่เช่นเดิม


ทั้งนี้เงินทุนที่ได้จาก AO Fund จะสามารถเบิกจ่ายได้ทันที เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในรองรับการเข้าประมูลงานโครงการรับเหมาก่อสร้างใหม่ ๆ ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับงานใหม่ได้มูลค่า 2-3 พันล้านบาท ถือว่าเพียงพอกับแผนรับงานประมูลในปีนี้

"ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการประมูลงานมูลค่า 8.5 พันล้านบาท แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสามารถชนะงานประมูลใหม่ได้มูลค่าเท่าใด แต่มีโอกาสที่จะได้งานใหม่เพิ่ม อันเป็นผลจากคุณภาพงานในอดีต จึงมั่นใจว่าบริษัทมีคุณสมบัติจะผ่านการคัดเลือกได้รับงานเพิ่ม บวกกับขณะนี้มีผู้ประกอบการจำนวนไม่มากที่รับงานได้ และหากบริษัทสามารถชนะประมูลโครงการที่มีมูลค่าสูงจนเงินทุนที่มีอยู่ไม่มีเพียงพอ AO Fund ก็พร้อมใส่เงินทุนเพิ่มเติมเพราะบริษัทมีพื้นฐานดีและมีศักยภาพที่จะเติบโต"

ด้านแผนการรับงานในปีนี้ นายรัตนพลกล่าวว่า บริษัทจะเน้นการเติบโตของกำไรโดยเพิ่มสัดส่วนงานโครงการธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ (Oil & Gas) ขึ้นเป็น 70% ของรายได้รวม จากปีที่ผ่านมาอยู่ในอัตรา 50% เนื่องจากเป็นงานที่เชี่ยวชาญและมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) สูงอยู่ที่ประมาณ 25-30% พร้อมกับลดสัดส่วนงานรับเหมาก่อสร้างทั่วไปลงเหลือราว 25-30% เพราะมีอัตรากำไรสุทธิต่ำเพียง 3%

ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) มูลค่า 4 พันล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ แบ่งเป็นงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของโครงการแท่นขุดเจาะน้ำมัน S1 ของ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) มูลค่า 900 ล้านบาท และยังมีลักษณะเดียวกันของเชฟรอนอีกมูลค่า 200 ล้านบาท ซึ่งในกรณีโครงการของ ปตท.สผ. มีมูลค่ารวมสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นแผนลงทุนต่อเนื่อง ดังนั้นหากบริษัทชนะประมูลได้ก็มีโอกาสจะได้งานดังกล่าวเพิ่มอีก

นายรัตนพลกล่าวว่า บริษัทยังอยู่ในระหว่างปรับปรุงเป้าหมายการเติบโตสำหรับปีนี้ใหม่ หลังจากได้ปรับทิศทางและโครงสร้างการรับงานใหม่ รวมถึงมีแผนเตรียมยื่นประมูลงานอีกหลายโครงการ ทั้งของกลุ่ม ปตท. และหน่วยงานการไฟฟ้า ประกอบกับเป็นช่วงที่เงินทุนใหม่จาก AO Fund เพิ่งเข้ามา อย่างไรก็ตามผลจากการปรับนโยบายมาเน้นงานที่มีอัตรากำไรสูงและกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่กล่าวมา คาดว่าน่าจะช่วยให้บริษัทสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า จากข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 3/55 บริษัทมีขาดทุนสะสมอยู่ 752 ล้านบาท

ด้านนายตัน ชุน วี กรรมการผู้จัดการกองทุน Advance Opportunities Fund (AO Fund) กล่าวว่า การลงทุนในหุ้น PAE มองโอกาสจากพื้นฐานในโครงการของบริษัทที่มีอยู่ในมือจำนวนมากช่วยหนุนการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ซึ่งสามารถนำเงินทุนที่ได้ไปรับงานโครงการที่สร้างกำไรได้ โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนในระยะสั้นถึงกลางซึ่งหมายถึงระยะเวลาสูงสุด 3 ปีได้มีเซ็นสัญญาในกรอบดังกล่าวกับ PAE

ที่มา -