MarinerThai Webboard

กรุงเทพฯ 12 ส.ค. 56 - นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองไมอามี สหรัฐ ว่าตามโยบายของนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในการแสวงหาตลาดใหม่ในตลาดเดิมนั้น ธุรกิจท่องเที่ยวเรือสำราญเป็นแหล่งเงินหมุนเวียนสะพัด และมีการสร้างงานหลากหลายในเรือ ธุรกิจมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นปีละ 4.6% ทุกสายการเดินเรือจะนำเสนอนวัตกรรมใหม่ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้เรือทันสมัยและสะดวกสบาย มีบริการและจัดกิจกรรมบนเรือเพิ่มขึ้น


"เมื่อธุรกิจเรือสำราญของสหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี ดังนั้นจึงมีเงินหมุนเวียนมีเงินจำนวนมหาศาล บริษัทเดินเรือสำราญสามารถวางแผนขยายเส้นทางและจำนวนเรือ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในระยะ 5 ปี ในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน อินเดียและไทย ในปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทยผ่านบริษัท Royal Caribbean และ Princess Cruise (Carnival) หนาแน่นที่สุดในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม (เฉลี่ยผู้โดยสารบนเรือ 3,000 คน ต่อลำ) มีค่าใช้จ่ายประมาณวันละ 6,000 บาท/คน โดยอยู่ครั้งละ 3 - 4 วัน ไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวทางเรือประมาณ 2,200 ล้านบาท/ ปี"นางศรีรัตน์ กล่าว

ทั้งนี้ไทยมีโอกาสที่จะเป็นอีกหนึ่งในเส้นทางที่เพิ่มขึ้นของบริษัทเดินเรือรายใหญ่ๆ เนื่องจากไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีเสน่ห์ของวิถีไทยที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว และสามารถที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องเติบโตไปด้วยได้ ดังนั้น ไทยจึงควรสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัย และการสื่อสารในระดับสากล รวมทั้งทุกภาคส่วน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งด้านพิธีการทางศุลกากร การบริหารจัดการพื้นที่ Cruise Terminal และการให้บริการท่องเที่ยวครบวงจร เช่น รีสอร์ท โรงแรม สปา ร้านอาหาร รถนาการท่องเที่ยว และมัคคุเทศก์ เป็นต้น

นอกจากนี้การสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับบริษัทเดินเรือสำราญ เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าและบริการ โดยสินค้าไทย ที่มีศักยภาพ ได้แก่ ของที่ระลึก ของขวัญของชำร่วย เสื้อผ้า อาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องปรุงต่างๆ สินค้าเครื่องหอม น้ำมันหอมระเหยในธุรกิจสปาและความงาม อุปกรณ์ของใช้และของตกแต่งเรือ เป็นต้น รวมถึงธุรกิจบริการไทยที่มีศักยภาพ ได้แก่ ธุรกิจซ่อมบำรุงเรือ ธุรกิจรับจัดกิจกรรมสันทนาการบนเรือ ธุรกิจจัดเลี้ยง(Catering) ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจสปา ธุรกิจการท่องเที่ยว และธุรกิจเที่ยวบนฝั่ง(On-shore excursion) ทั้งหมด


"แนวโน้มของธุรกิจเรือสำราญนั้น หลายบริษัทฯ มีแผนขยายเส้นทางการเดินเรือใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น ไปประเทศจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการล่องเรือในแม่น้ำที่สวยงามในประเทศต่างๆ และมีแผนจะเพิ่มจำนวนเรือมากขึ้น พร้อมกับมาตรฐานด้านความปลอดภัย กฏระเบียบด้านมาตรการสิ่งแวดล้อมและการกำจัดของเสียจะมีมากขึ้น รวมถึงการประหยัดพลังงาน ซึ่งจะกำหนดให้มีการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น เช่น พลังงานแสงอาทิตย์พลังงานน้ำ เข้ามาเกี่ยวข้องในธุรกิจการล่องเรือมากขึ้น"

ธุรกิจเรือสำราญ (Cruise Line) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการเดินทางและการพักผ่อนที่ได้รับความนิยมอย่างสูง นอกจากได้ชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงาม สนุกกับการเดินทางเมืองต่างๆ ทั่วโลกแล้ว ยังมีกิจกรรมและความบันเทิงมากมายตลอดการเดินทาง ยังเป็นแหล่งเงินหมุนเวียนสะพัด และมีการสร้างงานหลากหลายในเรือ จากข้อมูลในปี 55 พบว่า ธุรกิจเรือสำราญในสหรัฐฯ สร้างรายได้รวม (ทางตรงและทางอ้อม) 42,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.26 ล้านล้านบาท) มีผู้ใช้บริการกว่า 17 ล้านคน มีการจ้างงาน 356,311 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ยของผู้ล่องเรือสำราญต่อครอบครัว 109,000 เหรียญสหรัฐ (3,270,000 บาท)

ที่มา - (http://www.marinerthai.net/pic-news3/mcot_news.jpg) (http://news.mcot.net/)