เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 56 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันนี้ (7 ต.ค. 56) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้พบหารือกับนายปีเตอร์ โอนีล นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐเอกราชปาปัวนิวกีนี ที่โรงแรมโซฟิเทล บาหลี อินโดนีเซีย ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิค(เอเปค) ครั้งที่ 21 (http://www.marinerthai.net/pic-news3/2013-10-08_008.jpg) (http://www.marinerthai.net/pic-news3/2013-10-08_010.jpg)
โดยนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกีนี ขอบคุณไทยที่สนับสนุนการที่ปาปัวนิวกินีประกาศเป็นเจ้าภาพการจัดการประชุมเอเปคในปี 2018 นอกจากนี้ได้ขอบคุณการลงทุนของนักธุรกิจไทยในปาปัวนิวกีนี โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจการประมง รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติ และพลังงาน ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของปาปัวนิวกินีให้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ปาปัวนิวกินี ได้ขอให้ไทยประสานงานกับสมาคมอาเซียน เพื่อจะได้ขยายการค้าระหว่างปาปัวนิวกินีและอาเซียนให้มากขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีของไทยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาในรายละเอียดถึงอุตสาหกรรมที่จะส่งเสริมร่วมกัน ระหว่างปาปัวนิวกินีกับอาเซียน รวมถึงการจัดการประชุมร่วมกันในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป
(http://www.marinerthai.net/pic-news3/2013-10-08_009.jpg)
นายธีรัตถ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกีนี ต้องการขยายการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในปาปัวนิวกินีเพิ่มมากขึ้น จึงขอเชิญให้บริษัทจากประเทศไทย มีส่วนร่วมในการลงทุนด้านพลังงานและก๊าซธรรมชาติ โดยจะส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงปิโตรเลียม เดินทางมาหารือในรายละเอียดกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของไทยเพิ่มเติม นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เชิญนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียและแปซิฟิกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ(ไอทียู) ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีตอบรับคำเชิญร่วมการประชุมดังกล่าว อีกทั้ง นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีระบุว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการหาสถานที่เพื่อเปิดสถานเอกอัครราชทูตปาปัวนิวกินีในประเทศไทย เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีของไทยได้ขอบคุณรัฐบาลปาปัวนิวกินีที่ดูแลแรงงานไทยในปาปัวนิวกินี ประมาณ 1,700 คนเป็นอย่างดี รวมถึงหวังว่าจะได้มีโอกาสต้อนรับนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี และหารือทวิภาคีร่วมกันที่ประเทศไทยต่อไป.
ที่มา - (http://www.marinerthai.net/pic-news3/dailynews.jpg) (http://www.dailynews.co.th/)