ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

รายงานของ รบ.ออสเตรเลียแนะ ถ้าจะสู้ปัญหา “โลกร้อน” ก็อย่าขุด “ถ่านหิน” ขึ้นมาใช้

เริ่มโดย mrtnews, มิ.ย 19, 13, 16:05:16 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - รายงานการศึกษาฉบับใหม่ของหน่วยงานรัฐบาลออสเตรเลียที่นำออกเผยแพร่ในวันจันทร์ (17 มิ.ย. 56 ) ระบุว่าควรเก็บเชื้อเพลิงฟอสซิลส่วนใหญ่ให้คงอยู่ในแหล่งธรรมชาติใต้ดินต่อไป เพราะการนำขึ้นมาใช้งานซึ่งต้องเผาไหม้เชื้อเพลิงเหล่านี้ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศที่สามารถ "สั่นสะเทือนการดำรงอยู่ของสังคมของเราได้"


จากการวิจัยของคณะกรรมาธิการภูมิอากาศ (Climate Commission) พบว่าการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นต้นว่า ถ่านหิน ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศออสเตรเลีย เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

"การนำเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีในแหล่งธรรมชาติทั้งหมดมาเผา (ขุดขึ้นมาใช้) จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอย่างรุนแรง จนสั่นสะเทือนการดำรงอยู่ของสังคมอย่างที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้" รายงานฉบับนี้ที่ใช้ชื่อว่า "The Critical Decade" (ทศวรรษอันวิกฤต) ระบุ

"เป็นที่แน่ชัดว่าควรต้องปล่อยเชื้อเพลิงฟอสซิลส่วนใหญ่ให้อยู่ในแหล่งธรรมชาติใต้ดินและต้องไม่นำขึ้นมาเผา"

ประเทศโดยส่วนใหญ่ซึ่งรวมถึงออสเตรเลียต่างเห็นพ้องกันว่ามีความเสี่ยงสูงที่โลกจะร้อนขึ้นมากกว่า 2 องศา ทั้งนี้ในรายงานฉบับดังกล่าวได้ระบุว่าจะต้องมีการ "กำจัดก๊าซคาร์บอนอย่างจริงจัง" จึงจะรักษาระดับอุณหภูมิของโลกให้คงที่ได้

"วิธีง่ายๆ ที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายในการรักษาระดับอุณหภูมิให้คงที่ โดยให้เพิ่มขึ้นแค่ 2 องศาหรือน้อยกว่านั้น คือ เราจะต้องปล่อยเชื้อเพลิงฟอสซิลราว 80 เปอร์เซ็นต์ให้อยู่ในแหล่งธรรมชาติใต้ดินดังเดิม" เลสลีย์ ฮิวจ์ ผู้ร่วมเขียนรายงานฉบับนี้กล่าวกับสถานีโทรทัศน์เอบีซี ของทางการแดนจิงโจ้

"เราไม่สามารถเผาเชื้อเพลิงเหล่านี้และรักษาภูมิอากาศให้อยู่ในระดับที่คงที่และปลอดภัยไปพร้อมๆ กัน"

นอกจากนี้รายงานฉบับนี้ชี้ว่าในช่วงหลังมานี้ มีการค้นพบและการมีการใช้ประโยชน์เชื้อเพลิงฟอสซิลในแหล่งใหม่ๆ ทั้งในประเทศออสเตรเลียและที่อื่นๆ โดยมีทั้งที่เป็นบ่อถ่านหินใหม่ๆ ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อสูบก๊าซจากชั้นถ่านหิน และจากหินน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม แค่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยจากแหล่งถ่านหินในออสเตรเลียเพียงประเทศเดียวก็มีน้ำหนักราว 51,000 ล้านตัน หรือคิดเป็นราวเศษ 1 ส่วน 12 ของก๊าซคาร์บอน 6 ล้านล้านตัน ซึ่งคำนวณกันว่าถ้าถูกปล่อยออกมา จะสามารถทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น 2 องศาเซลเซียสขึ้นไป รายงานชี้แจง

คณะกรรมาธิการภูมิอากาศ ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระที่ก่อตั้งโดยรัฐบาลออสเตรเลียในปี 2011 เพื่อให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ได้เรียกร้องในรายงานฉบับนี้ให้มีการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนโดยทันที

"การใช้ถ่านหินที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นจะต้องถูกปรับให้ลดลง เพื่อให้สัดส่วนการใช้ถ่านหินในฐานะพลังงานของโลกลดน้อยลงมา กระทั่งเลิกใช้ไปเลยในที่สุด" รายงานระบุ

วิล สเตฟเฟน ผู้ร่วมเขียนรายงานฉบับนี้อีกผู้หนึ่ง กล่าวว่าต้องมีการดำเนินการโดยทันที เพราะมีสัญญาณเตือนว่าความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศจำนวนมากที่นักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเตือนเป็นเวลาหลายปี กำลังเกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน


สัญญาณเตือนที่ว่า ได้แก่ "มีระยะเวลาและความถี่ของวันที่มีอากาศร้อนเพิ่มขึ้นทั่วทั้งประเทศออสเตรเลีย และสภาพภูมิอากาศแห้งแล้งที่ทำให้เกิดไฟป่าก็เพิ่มขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียที่มีประชากรอยู่อย่างหนาแน่น" เขากล่าว

"อีกทั้งปริมาณฝนก็เปลี่ยนแปลง จนส่งผลให้ภาคตะวันตกเฉียงใต้และตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมเกิดความแห้งแล้งมากขึ้น"

ที่มา -