ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

สายการเดินเรือทั่วโลกระส่ำ! เศรษฐกิจฟุบ “ล้มละลาย-ควบรวม” หนีตาย!

เริ่มโดย mrtnews, พ.ย 24, 16, 06:27:59 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สายการเดินเรือทะเลทั่วโลกระส่ำ หลังตลาดส่งออก-ค้าระหว่างประเทศทั่วโลกซบเซา ยังผลให้สายการเดินเรือยักษ์ทั่วโลกหืดจับ ทยอยปิดกิจการ-ล้มละลาย ที่เหลือต้องดิ้นหนีตาย ควบกิจการขนานใหญ่ ล่าสุดไชน่าชิปปิ้งไลน์ ปิดสำนักงานในไทยหลังรวมกิจการ "คอสโก"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรง อันเป็นผลพวงจากวิกฤติราคาน้ำมันที่ตกต่ำ ภัยก่อการร้าย ทำให้การส่งออกและการค้าระหว่างประเทศซบเซาลงไปนั้น ได้ส่งผลต่อสายการเดินเรือทะเลทั่วโลกอย่างรุนแรง จากการที่มีการขยายกองเรืออย่างต่อเนื่องตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ล่าสุด ทุกสายการเดินเรือกำลังเผชิญปัญหาค่าระวางเรือที่ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ หลายรายประสบกับการขาดทุนจนล้มละลาย ที่เหลือต้องควบรวมกิจการเพื่อความอยู่รอด

โดยเมื่อต้นเดือน ก.ย.59 สายการเดินเรือ "ฮันจิน ชิปปิ้ง (Hanjin)" ธุรกิจชิปปิ้งขนาดใหญ่ที่สุดของเกาหลีและอันดับ 7 ของโลก ประสบภาวะล้มละลายจนต้องยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ต่อศาล จากที่ขาดทุนอย่างหนักตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา โดยผลประกอบการล่าสุดในครึ่งปีของปี 59 ขาดทุนถึง 473,000 ล้านวอน หรือกว่า 423 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ธนาคารเจ้าหนี้ระงับการปล่อยกู้เพิ่ม ทำให้เรือขนส่งสินค้าของบริษัท 79 ลำ จาก 150 ลำ ไม่สามารถเข้าเทียบท่ายังเมืองท่าใหญ่ๆ ทั่วโลกได้ ถือเป็นการจุดพลุการล้มละลายของอุตสาหกรรมเดินเรือใหญ่ที่สุดของโลก ส่งผลต่อสินค้าส่งออกไทยล่าช้าไปด้วยกว่า 3,000 ตู้

ถัดมาช่วงกลางเดือน ก.ค. 59 ที่ผ่านมา สายการเดินเรือฮาปัก ลอยด์ (Hapag-Lloyd AG) ของเยอรมัน ที่ถือเป็นอีกสายการเดินเรือใหญ่ของโลก ก็ดำเนินแผนควบรวมกิจการกับสายการเดินเรือยูไนเต็ด อาหรับชิปปิ้ง (UASC) ทะยานสู่สายการเดินเรือ ที่คาดว่าน่าจะใหญ่เป็นอันดับ 4- 5 ของโลกด้วยจำนวนเรือขนส่งกว่า 237 ลำ ระวางขนส่งตู้สินค้ากว่า 1.6 ล้านตันทีอียู (TEU)

ไล่เลี่ยกันสายการเดินเรือ Neptune Orient Lines หรือ NOL และบริษัทลูก APL ที่มีกลุ่มทุนเทมาเสกของสิงคโปร์ถือหุ้นใหญ่ และมีเส้นทางการเดินเรือครอบคลุม 80 ประเทศทั่วโลก ก็ถูกสายการเดินเรือยักษ์ CMA CGM จากฝรั่งเศส เข้าฮุบกิจการหรือเทกโอเวอร์ด้วยมูลค่ากว่า 2,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังจาก NOL ขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปี ซึ่งภายหลังการเข้าเทกโอเวอร์กลุ่ม CMA CGM กรุ๊ปได้นำกิจการ NOL ออกจากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ไปเมื่อต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมลดขนาดสำนักงาน NOL-APL ในประเทศไทย และผลจากการควบรวมกิจการดังกล่าวได้ทำให้ CMA กลายเป็นธุรกิจชิปปิ้งขนาดใหญ่สุดของโลก


ขณะที่ปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา สายการเดินเรือคอสโก (COSCO Shipping) ของจีน ซึ่งเป็นสายการเดินเรืออันดับ 4 ของโลก มีฟลีทขนส่งกว่า 160 ลำครอบคลุม 49 ประเทศทั่วโลก มีระวางขนส่งมากกว่า 750,000 ตัน TEU ก็ดำเนินการเจรจาควบรวมกิจการกับสายการเดินเรือไชน่า ชิปปิ้ง (China Shipping Container Lines) ของจีนด้วยกัน ซึ่งล่าสุดบริษัทไชน่าชิปปิ้ง (กรุงเทพ) จำกัด ที่เป็นตัวแทนผู้ให้บริการขนส่งของไชน่าชิปปิ้งในไทยได้ส่งหนังสือแจ้งถึงพนักงานเตรียมปิดกิจการที่กรุงเทพฯตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 59 นี้ โดยบริษัทจะจ่ายชดเชยให้แก่พนักงานตามกฎหมายต่อไป

โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา 3 สายเดินเรือยักษ์ของญี่ปุ่น ที่ประกอบด้วย Mitsui O.S.K. Lines (MOL) Nippon Yusen K.K. (NYK) และ Kawasaki Kisen Kaisha หรือ K-Line ได้ประกาศผลสำเร็จของการควบรวมกิจการ 3 สายการเดินเรือของญี่ปุ่น โดยบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นใหม่มี NYK ถือหุ้นใหญ่ 38% ส่วน K-Line และ MOL จะถือหุ้นรายละ 31% ผลจากการควบรวมกิจการดังกล่าวจะทำให้ 3 สายการเดินเรือมีขีดความสามารถในการขนส่งกว่า 1.4 ล้านตัน TEU ครองส่วนแบ่งการขนส่งระหว่างประเทศมากกว่า 7% ทะยานสู่อันดับ 6 ของโลก

นายคงฤทธิ์ จันทริก ผู้อำนวยการบริหารสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาอุตสาหกรรมทางทะเลตกต่ำจากผลพวงของเศรษฐกิจโลก สายการเดินเรือต่างๆ ที่ก่อนหน้ามีการลงทุนมหาศาลจึงมีการตัดราคาแย่งลูกค้า บางเส้นทางมีการตัดราคาลงมาเกือบ 50% แต่ในระยะยาวหากสายการเดินเรือมีการควบรวมกิจการและมีปริมาณผู้ให้บริการน้อยรายลง สายการเดินเรือย่อมมีอำนาจต่อรองมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ภาครัฐผู้ส่งออกและผู้เกี่ยวข้องจำเป็นต้องจับตาอย่างใกล้ชิดและเตรียมการรับมือ เช่นที่เวียดนามนั้น รัฐบาลเวียดนามประกาศให้สายการเดินเรือที่เข้าไปให้บริการที่เวียดนาม ต้องแจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่สายเรือจะเรียกเก็บต่อทางการเวียดนามก่อน บ้านเราเองก็จำเป็นต้องเตรียมการรับมือเช่นกัน.



ที่มา Data & Images -