ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

“นามยง เทอร์มินัล” ขอกระจายหุ้นคาดสิ้นปีส่งรถผ่านท่าเรือ A5 กว่า 1 ล้านคัน

เริ่มโดย mrtnews, ต.ค 16, 13, 21:13:47 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ก.ล.ต.อนุมัติ "นามยง เทอร์มินัล" ตามแบบคำขอกระจายหุ้น ผู้ให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์ (Roll-on/Roll-off: Ro/Ro)  พร้อมเสนอขายหุ้น IPO กว่า 205.5 ล้านหุ้น ก่อนเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ผู้บริหารเชื่อมั่นอุตสาหกรรมยานยนต์ยังสามารถไปต่อได้ แม้ค่ายรถยนต์ค่ายยักษ์ใหญ่หลายค่ายกระอักเลือดจากโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล  คาดอนาคตค่ายรถตั้งฐานการผลิตอุตฯ ยานยนต์เบอร์ 1 ของเอเชีย พร้อมมองตลาดส่งออกรถยนต์ปีนี้เติบโตผ่านท่าเทียบเรือ A5 มากกว่า 1 ล้านคัน


นายเทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.นามยง เทอร์มินัล  กล่าวว่าธุรกิจของบริษัทฯ มีแนวโน้มสดใส โดยเฉพาะเมื่อประเมินจากภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งในขณะนี้พบว่า มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่ง หลังจากภาครัฐมีนโยบายชัดเจนต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้ก้าวสู่การเป็นดีทรอยต์ของเอเชีย ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ให้ความสนใจย้ายฐานผลิตมายังประเทศไทย ก่อให้เกิดการลงทุนโรงงานผลิตประกอบรถยนต์เพิ่มขึ้น โดยข้อมูลจากแผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ ปี 2555-2559 ซึ่งจัดทำโดย สถาบันยานยนต์ กระทรวงอุตสาหกรรม คาดว่ากำลังการผลิตรถยนต์จากผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายจะเพิ่มเป็น 3 ล้านคันต่อปี ภายในปี 2558 จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตทั้งสิ้น 2.5 ล้านคัน

ทั้งนี้ กำลังการผลิตดังกล่าวคาดว่าจะรองรับกำลังซื้อรถยนต์ในประเทศประมาณ 7 แสนถึง 1 ล้านคันต่อปี ส่วนที่เหลือผู้ผลิตแต่ละค่ายจะส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ทำให้การส่งออกยานยนต์ของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัว  เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ ที่พบว่าผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายต่างเร่งทำตลาดส่งออกมากขึ้น เพื่อชดเชยความต้องการซื้อรถยนต์ภายในประเทศที่ชะลอตัวลง หลังประสบปัญหามาตรการรถคันแรก ส่งผลให้การส่งออกรถยนต์ผ่านท่าเรือ A5 ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือเพื่อส่งออก และนำเข้ารถยนต์รายใหญ่ที่บริษัทฯ เป็นผู้รับผิดชอบบริหาร และคาดว่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยทำสถิติการส่งออกรถยนต์จากท่าเทียบเรือ A5 เฉลี่ยมากกว่า 8 หมื่นคันต่อเดือน ซึ่งจะส่งผลให้ในปีนี้คาดว่าจะส่งออกได้มากกว่า 1 ล้านคัน คิดเป็นส่วนแบ่งมากกว่า 80% ของยอดปริมาณยอดส่งออกรถยนต์ทั้งหมด

"ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่จากทั่วโลกให้ความสนใจเข้ามาตั้งฐานการผลิตรถยนต์ในไทยเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพ และมีความพร้อมด้านทักษะฝีมือแรงงานในการประกอบรถยนต์รายใหญ่ในเอเชีย  ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2546-2555 ปริมาณการส่งออกของประเทศไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 17.8 โดยคาดว่าปริมาณยอดส่งออกรถยนต์ของไทยจะยังคงรักษาอัตราการเติบโตดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะส่งออกรถยนต์ไปยังตลาดโลกประมาณ 1.5 ล้านคัน รั้งอันดับ 1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจของนามยง เทอร์มินัล"

ด้านนายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ หัวหน้าสายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์  (บล.) ทิสโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการนำหุ้น บมจ.นามยง เทอร์มินัล  เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (แบบไฟลิ่ง) และยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต.ได้อนุมัติแบบคำขอเสนอขายหุ้น บมจ.นามยง เทอร์มินัล เรียบร้อยแล้ว

"หลังจาก ก.ล.ต.อนุมัติแบบคำขอกระจายหุ้นแล้ว ที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทฯ จะร่วมกันกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมในการเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปต่อไป ซึ่งจะพิจารณาภาพรวมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าด้วยพื้นฐานและประสบการณ์ในการทำธุรกิจอย่างแข็งแกร่งของนามยง เทอร์มินัล จะทำให้หุ้นได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคึกคักแน่นอน"

ทั้งนี้ บมจ.นามยง เทอร์มินัล ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ต่อ ก.ล.ต.เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก จำนวน 205.50 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 33.15 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 620.00 ล้านบาท โดยทุนที่ออกจำหน่าย และชำระแล้ว มีจำนวน  414.50 ล้านบาท คิดเป็น 414.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาทโดย บมจ.นามยง เทอร์มินัล เป็นผู้ให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์แบบครบวงจรขนาดใหญ่ บริเวณท่าเทียบเรือ A5 ซึ่งตั้งอยู่ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยเป็นท่าเทียบเรือน้ำลึกหลักของประเทศไทยที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และมีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับฐานการผลิตของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โดยส่วนใหญ่ พร้อมการให้บริการของบริษัทฯ ประกอบด้วย การให้บริการท่าเทียบเรือ การให้บริการพื้นที่ฝากเก็บสินค้า และเตรียมความพร้อมก่อนส่งออก รวมถึงการให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก

อย่างไรก็ตาม นอกจากการให้บริการท่าเทียบเรือ A5 แล้ว ในปี 2555 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังร่วมกับกลุ่มบริษัท NYK ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งทางทะเลชั้นนำของโลก เข้าลงทุนในบริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล โร-โร เทอร์มินัล จำกัด  หรือ  LRT โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 20.00 และมีสิทธิ (Option) ที่จะซื้อหุ้น LRT เพิ่มเติมจาก NYK ได้อีกไม่เกินร้อยละ 29.00 รวมเป็นสัดส่วนการถือหุ้นสูงสุดร้อยละ 49.00 สำหรับ LRT เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์และสินค้าทั่วไป ซึ่งมีท่าเทียบเรือและพื้นที่ให้บริการในบริเวณท่าเทียบเรือ C0  ท่าเรือแหลมฉบัง

ที่มา -




'นามยง เทอร์มินัล'เผยก.ล.ต.อนุมัติไฟลิ่งขายหุ้นไอพีโอ 205.5 ล้านหุ้น

ก.ล.ต.อนุมัติแบบคำขอกระจายหุ้น"นามยง เทอร์มินัล" ผู้ให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์ (Roll-on/Roll-off: Ro/Ro) ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย พร้อมเสนอขาย 205.5 ล้านหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป


ก่อนเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้านผู้บริหารประเมินธุรกิจสดใส เชื่อมั่นอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสุดแกร่ง หลังค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ลงทุนสร้างโรงงานในไทยเพิ่ม ดันไทยรั้งตำแหน่งผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์เบอร์ 1 ในอาเซียน พร้อมมองตลาดส่งออกรถยนต์ปีนี้เติบโตพุ่ง หลังค่ายรถยนต์แก้แกมตลาดในประเทศชะลอตัว ด้วยการมุ่งส่งออกมากขึ้น คาดสิ้นปีมีปริมาณยอดสินค้ารถยนต์ ผ่านท่าเทียบเรือ A5 มากกว่า 1 ล้านคัน
   
นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ หัวหน้าสายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์  (บล.) ทิสโก้จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการนำหุ้นบริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (แบบไฟลิ่ง) และยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต.ได้อนุมัติแบบคำขอเสนอขายหุ้น บมจ.นามยง เทอร์มินัล เรียบร้อยแล้ว
 
ทั้งนี้ บมจ.นามยง เทอร์มินัลได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ ต่อ ก.ล.ต.เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก จำนวน 205.50 ล้านหุ้นคิดเป็นร้อยละ 33.15 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 620.00ล้านบาท โดยทุนที่ออกจำหน่ายและชำระแล้ว มีจำนวน  414.50 ล้านบาท คิดเป็น 414.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท
   
บมจ.นามยง เทอร์มินัล เป็นผู้ให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์แบบครบวงจร ณ ท่าเทียบเรือ A5 ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือน้ำลึกหลักของประเทศไทยที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และมีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับฐานการผลิตของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โดยส่วนใหญ่ โดยการให้บริการของบริษัทฯ ประกอบด้วย การให้บริการท่าเทียบเรือ การให้บริการพื้นที่ฝากเก็บสินค้าและเตรียมความพร้อมก่อนส่งออก รวมถึงการให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก
   
นอกจากการให้บริการท่าเทียบเรือ A5 แล้ว ในปี 2555 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังร่วมกับกลุ่มบริษัท NYK ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งทางทะเลชั้นนำของโลก เข้าลงทุนในบริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล โร-โร เทอร์มินัล จำกัด  หรือ  LRT โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 20.00 และมีสิทธิ (Option) ที่จะซื้อหุ้น LRT เพิ่มเติมจาก NYK ได้อีกไม่เกิน  ร้อยละ 29.00 รวมเป็นสัดส่วนการถือหุ้นสูงสุดร้อยละ 49.00 สำหรับ LRT เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์และสินค้าทั่วไป ซึ่งมีท่าเทียบเรือและพื้นที่ให้บริการในบริเวณท่าเทียบเรือ C0  ท่าเรือแหลมฉบัง
   
"หลังจาก ก.ล.ต.อนุมัติแบบคำขอกระจายหุ้นแล้ว ที่ปรึกษาทางการเงินและบริษัทฯ จะร่วมกันกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมในการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปต่อไป ซึ่งจะพิจารณาภาพรวมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่า ด้วยพื้นฐานและประสบการณ์ในการทำธุรกิจอย่างแข็งแกร่งของนามยง เทอร์มินัล จะทำให้หุ้นได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคึกคักแน่นอน" นายธนะชัยกล่าว
   
ด้านนายเทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการ    ท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์ (Roll-on/Roll-off: Ro/Ro) แบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย   ณ ท่าเทียบเรือ A5 ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวแสดงความมั่นใจว่า ธุรกิจของบริษัทฯ มีแนวโน้มสดใส โดยเฉพาะเมื่อประเมินจากภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งในขณะนี้ พบว่า มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่ง หลังจากภาครัฐมีนโยบายชัดเจนต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้ก้าวสู่การเป็นดีทรอยต์ของเอเชีย ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ให้ความสนใจย้ายฐานผลิตมายังประเทศไทย ก่อให้เกิดการลงทุนโรงงานผลิตประกอบรถยนต์เพิ่มขึ้น โดยข้อมูลจากแผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ ปี 2555 -2559 ซึ่งจัดทำโดย สถาบันยานยนต์ กระทรวงอุตสาหกรรม คาดว่า กำลังการผลิตรถยนต์จากผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายจะเพิ่มเป็น 3 ล้านคันต่อปีภายในปี 2558 จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตทั้งสิ้น 2.5 ล้านคัน
   
ทั้งนี้ กำลังการผลิตดังกล่าว คาดว่าจะรองรับกำลังซื้อรถยนต์ในประเทศประมาณ 7 แสนถึง 1 ล้านคันต่อปีส่วนที่เหลือ ผู้ผลิตแต่ละค่ายจะส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ  ทำให้การส่งออกยานยนต์ของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัว เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ ที่พบว่าผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายต่างเร่งทำตลาดส่งออกมากขึ้น เพื่อชดเชยกับ 
ความต้องการซื้อรถยนต์ภายในประเทศที่ชะลอตัวลง หลังหมดมาตรการรถคันแรก ส่งผลให้การส่งออกรถยนต์ผ่านท่าเรือ A5 ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือเพื่อส่งออกและนำเข้ารถยนต์รายใหญ่ที่บริษัทฯ เป็นผู้รับผิดชอบบริหาร จะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยทำสถิติการส่งออกรถยนต์จากท่าเทียบเรือ A5 เฉลี่ยมากกว่า 8 หมื่นคันต่อเดือน ซึ่งจะส่งผลให้ในปีนี้คาดว่าจะส่งออกได้มากกว่า 1 ล้านคัน คิดเป็นส่วนแบ่งมากกว่า 80% ของยอดปริมาณยอดส่งออกรถยนต์ทั้งหมด
   
"ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่จากทั่วโลกให้ความสนใจเข้ามาตั้งฐานการผลิตรถยนต์ในไทยเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพ และมีความพร้อมด้านทักษะฝีมือแรงงานในการประกอบรถยนต์รายใหญ่ในเอเชีย  ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2546 – 2555 ปริมาณการส่งออกของประเทศไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย อยู่ที่ร้อยละ 17.8 โดยคาดว่า ปริมาณยอดส่งออกรถยนต์ของไทยจะยังคงรักษาอัตราการเติบโตดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะส่งออกรถยนต์ไปยังตลาดโลกประมาณ 1.5 ล้านคัน รั้งอันดับหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจของนามยง เทอร์มินัล" นายเทพรักษ์ กล่าว

ที่มา -