ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

เรือน้ำมันเถื่อนเหิมลอยลำรอส่งให้ลูกค้าที่เกาะสมุย จนท.ศุลกากรยึดกว่า 3.5 ล้านบา

เริ่มโดย mrtnews, ก.พ 05, 15, 19:48:04 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สุราษฎร์ธานี - ศุลกากร จับกุมเรือประมงดัดแปลงได้ผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลางน้ำมันดีเซล จำนวน 50,000 ลิตร มูลค่า 3.5 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ระบุเป็นเครือข่ายค้าน้ำมันเถื่อนคนดังในพื้นที่จังหวัดสงขลา

       
เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (5 ก.พ. 58) ที่ท่าเรือท่าทอง ปากน้ำบ้านดอน อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายนิมิต แสงอำไพ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 2 สำนักสืบสวนและปราบปราม พร้อมด้วยนายสิทธิชัย จึงจิรานนท์ นายด่านศุลกากรบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงข่าวการจับกุมเรือประมงดัดแปลง ชื่อ ดวงสมุทร สัญชาติไทย ขนาดความยาว 9 วา กว้าง 4 วา ซึ่งเจ้าหน้าที่ศุลกากรจับกุมได้พร้อมของกลางน้ำมันดีเซลเถื่อนชนิดเกรด A จำนวน 50,000 ลิตร มูลค่าประมาณ 3.5 ล้านบาท ขณะลอยลำเตรียมส่งน้ำมันของกลางให้แก่ลูกค้าที่บริเวณหลังเกาะสมุย

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 58 มีเรือประมงดัดแปลงเข้ามาส่งน้ำมันเถื่อนให้แก่ลูกค้าบริเวณหลังเกาะสมุย ทางศุลกากรจึงได้นำเรือออกตรวจสอบ จนสามารถจับเรือ และผู้ต้องหาได้ จำนวน 2 คน ประกอบด้วย นายสมมาตร บุญชูดำ อายุ 50 ปี ไต๋เรือ และนายธีระพงษ์ บุญชูดำ อายุ 48 ปี ช่างเครื่อง ส่วนลูกเรือเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เข้าใกล้เรือได้ตัดสินใจกระโดดลงทะเลหลบหนีไปได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ได้มีการดังแปลงท้องเรือเป็นถังน้ำมันภายในบรรจุน้ำมัน จำนวน 50,000 ลิตร

นายนิมิต แสงอำไพ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 2 สำนักสืบสวนและปราบปราม กล่าวว่า เรือของกลางลำดังกล่าวเป็นของกลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนคนดังในพื้นที่จังหวัดสงขลา แต่ยังไม่ระบุว่าเป็นของบุคคลใด เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดสงขลา มีขบวนการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนอยู่ด้วยกัน 3 กลุ่ม กลุ่มแรก เป็นพี่สาวน้องชาย กลุ่ม 2 เป็นกลุ่มของเจ๊ ป. กลุ่ม 3 เป็นเสี่ยโจ้ แต่ส่วนใหญ่ลักลอบจำหน่ายให้แก่เรือประมงตามตะเข็บรอยต่อน่านน้ำสากล

ส่วนขบวนการนำน้ำมันเถื่อนขึ้นบกในพื้นที่ภาคใต้ถือว่าหมดแล้ว แต่ยังมีการค้าน้ำมันเถื่อนแบบกองทัพหมด เนื่องจากขณะนี้กลุ่มผู้ลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนได้เปลี่ยนเส้นทางไปส่งยังผู้ค้าในประเทศเวียดนาม ที่มีราคาสูงกว่าในประเทศไทยถึงลิตรละ 10 บาท

ที่มา -




จับเรือถ่ายน้ำมันเถื่อนหน้าเกาะสมุย ยึดกว่า 3.5 ล้าน!

ศุลกากรบ้านดอน จับกุมเรือประมงสัญชาติไทย ขณะลอยลำถ่ายน้ำมันอยู่ห่างเกาะสมุย 11 ไมล์ทะเล ยึดของกลางมูลค่ารวมกว่า 3.5 ล้าน ผู้ต้องหา 2 คน สารภาพมีนายทุนจ้างให้เงินเดือน ชี้เป็นน้ำมันดีเซลคุณภาพดี ซื้อจากมาเลย์ไปขายเวียดนาม...   


เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 5 ก.พ.58 ที่บริเวณท่าเรือศุลกากร ด่านศุลกากรบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี นายนิมิต แสงอำไพ ผอ.ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 สำนักสืบสวนและปราบปราม และนายสิทธิชัย จึงจิรานนท์ นายด่านศุลกากรบ้านดอน ร่วมแถลงข่าว จับกุมเรือประมงดัดแปลง 1 ลำ บรรทุกน้ำมันดีเซลลักลอบหนีศุลกากร จำนวน 50,000 ลิตร มูลค่าของกลางรวม กว่า 3.5 ล้านบาท

นายนิมิต กล่าวว่า การจับกุมเรือประมงดัดแปลงในครั้งนี้ เนื่องจากมีการเข้มงวดเร่งปราบปรามอย่างจริงจัง และเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 58 ที่ผ่านมา จากการออกลาดตระเวนกลางทะเลห่างจากเกาะสมุย 11 ไมล์ทะเล สามารถจับกุมเรือประมงดัดแปลง 1 ลำ ชื่อดวงสมุทร สัญชาติไทย ขนาดความยาว 9 วา กว้าง 4 วา มีนายสมมาตร บุญชูดำ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 ม. 9 ต. ปันแต อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เป็นนายเรือ และนายจีระพงษ์ บุญชูดำ อายุ 58ปี ชาวจ.สงขลา ลูกเรือ ได้พร้อมของกลางน้ำมันดีเซลคุณภาพดี จำนวน 50,000 ลิตร มูลค่าประมาณ 1,250,000บาท รวมเรือของกลางและน้ำมันมีมูลค่ากว่า 3,500,000 บาท

จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่ามีนายทุนชื่อนายพันธ์ ไม่ทราบนามสกุลเป็นผู้ว่าจ้างโดยให้เป็นเงินเดือน คนละ 15,000 บาทในการขนส่งน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ดูจากสีและความใสของน้ำมันของกลางแล้ว เป็นน้ำมันที่คุณภาพดีน่าจะมีการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย และนำไปขายต่อยังประเทศเวียดนาม เนื่องจากได้ราคาดี ซึ่งขณะจับกุมเรือลำดังกล่าวมีการถ่ายน้ำมันอยู่กลางทะเล แต่เรืออีกลำไหวทันหลบหนีไป

ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำผิดตามกฎหมายศุลกากรฐาน 'ลักลอบนำสินค้าน้ำมันดีเซล หรือรับซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของอันตนรับรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องจำกัด หรือไม่ผ่านศุลกากรถูกต้อง' ยึดของกลาง และจับกุมลูกเรือ นำส่งกรมศุลกากร ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

ที่มา -