ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา อาหาร ยา และเครื่องสำอางค์ รวมถึงสมุนไพรทุกชนิด ไม่ว่าจะมี อย. หรือไม่  เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

'เรือดำน้ำอาวุธนิวเคลียร์' เปลี่ยนสมดุลอำนาจจีน

เริ่มโดย mrtnews, พ.ย 04, 14, 23:20:33 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

จีนได้ใช้เวลาร่วม 4 ทศวรรษผลักดันตัวเองให้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์


ในช่วงหลายปีมานี้ โลกจับตามองการขยายแสนยานุภาพทางทหารของจีนอย่างใกล้ชิด โดยสิ่งหนึ่งที่จีนถือเป็นเขี้ยวเล็บสำคัญ และซุ่มพัฒนาอย่างไม่หยุดหย่อน คือ กองทัพเรือดำน้ำ ซึ่งถือเป็นอาวุธลับที่มีผลในทางยุทธศาสตร์เป็นอย่างมาก

ล่าสุด จีนได้ใช้เวลาร่วม 4 ทศวรรษผลักดันตัวเองให้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์จนเป็นผลสำเร็จ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่า เรื่องนี้ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญของภูมิภาคเอเชีย และอาจส่งผลให้สมดุลอำนาจต้องเปลี่ยนไป เพราะจะทำให้จีนมีศักยภาพในการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือเขตแดนทางทะเลต่าง ๆ และสกัดการแทรกแซงจากสหรัฐได้มากขึ้น

สำนักข่าวกรองทางทะเลสหรัฐ หรือ โอเอ็นไอ ประเมินว่า จีนจะก้าวหน้าไปอีกขั้นในทางยุทธศาสตร์ หากสามารถประจำการเรือดำน้ำรุ่นใหม่ได้เป็นผลสำเร็จ โดยเรือดำน้ำรุ่นดังกล่าวมีชื่อว่า "บูมเมอร์" มีความพิเศษตรงที่สามารถบรรทุกขีปนาวุธนิวเคลียร์ได้เต็มอัตราศึก แถมขีปนาวุธเหล่านี้ยังมีพิสัยยิงได้ไกลถึงฮาวาย และอลาสก้า ถ้าลอยลำอยู่ในแถบเอเชียตะวันออก แต่ถ้าไปลอยลำอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิกแล้วละก็ จะสามารถยิงไกลไปถึงสหรัฐเลยทีเดียว

นอกจากนี้ การประจำการเรือดำน้ำ "บูมเมอร์" ยังจะทำให้จีนเป็นเพียง 1 ใน 3 ประเทศของโลกเท่านั้น นอกเหนือจากสหรัฐ และรัสเซีย ที่สามารถยิงอาวุธนิวเคลียร์ได้ทั้งจากทางทะเล อากาศ และภาคพื้นดิน

ในมุมมองของผู้บัญชาการกองทัพเรือแล้ว การที่เรือดำน้ำจีนสามารถแล่นไปยังมหาสมุทรอินเดียได้โดยไม่หยุดพักถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก เพราะเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าจีนมีความสามารถที่จะเดินทางไปถึงกองบัญชาการใหญ่ของสหรัฐแถบแปซิฟิก ซึ่งตั้งอยู่ที่เกาะฮาวายได้

ขณะที่ทางรัฐบาลสหรัฐมองว่าเรือดำน้ำที่สามารถยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ได้ถือเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ที่จีนมีเอาไว้เพื่อป้องกันสหรัฐเข้าไปแทรกแซงความขัดแย้งเรื่องไต้หวัน ตลอดจนข้อพิพาทเรื่องพรมแดนทางทะเลที่จีนมีกับญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐนั่นเอง

ด้านผู้เชี่ยวชาญบางส่วนมองว่า การประจำการเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์ของจีนอาจจะเป็นการเปิดเกมการแข่งขันใต้ทะเลในเอเชียขึ้นมาอีกครั้ง แบบเดียวกับที่สหรัฐ และโซเวียตเคยแข่งกันในยุคสงครามเย็น


อย่างไรก็ตาม มีนักวิเคราะห์บางกลุ่มแย้งว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจของสหรัฐ และจีนพึ่งพากันและกันเป็นอย่างมาก แล้วตอนนี้จีน ซึ่งมีความเป็นทุนนิยมมากขึ้น ก็ไม่ได้แสวงหาช่องทางในการปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก หรือสร้างความทัดเทียมทางทหารกับสหรัฐเหมือนเดิมต่อไปแล้ว

เรื่องนี้อาจเป็นเช่นที่เจ้าหน้าที่แดนมังกรได้บอกเอาไว้ก็ได้ว่า เรือดำน้ำจีนไม่ได้มีไว้คุกคามประเทศอื่น แต่มีไว้เพื่อปกป้องอธิปไตยตัวเอง และขยับขยายผลประโยชน์ในระดับโลกออกไป อย่างเช่นการส่งเรือดำน้ำเข้าไปในมหาสมุทรอินเดียก็เป็นไปเพื่อช่วยปราบปรามโจรสลัดโซมาเลียเท่านั้นเอง

เรื่องนี้ต้องติดตามกันต่อไปว่านักวิเคราะหฝ่ายใดจะมองเกมของจีนถูกกันแน่

ที่มา -