ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

รมช.คมนาคมจี้ กทท.ขจัดปมส่วย สร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ดีรองรับ AEC

เริ่มโดย mrtnews, ก.ค 11, 13, 17:10:39 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

นายพ้อง ชีวานันท์ รมช.คมนาคม ขอความร่วมมือจากพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ให้ช่วยกันทำงานโดยคำนึงถึงชื่อเสียง รวมทั้งเพิ่มความเอาใจใส่เรื่องภาพลักษณ์ให้มากขึ้น เพราะในอนาคตประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) หากมีปัญหาเสื่อมเสียจะทำให้ไทยไม่เป็นที่ยอมรับ โดยเฉพาะเรื่องปัญหาของส่วยภายในท่าเรือกรุงเทพ ซึ่งกระทบต่อชื่อเสียงของ กทท.เป็นอย่างมาก


"ที่ผ่านมาผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้าสินค้าที่เข้ามาใช้บริการจำนวนมากร้องเรียนว่าถูกเรียกเก็บส่วยภายในท่าเรือกรุงเทพ ขณะที่ท่าเรือแหลมฉบังยังไม่เคยได้รับการร้องเรียน และรับทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าหน่วยงานอื่น ๆ เช่น กรมศุลกากรได้พยายามแก้ไขปัญหาส่วยได้ระดับหนึ่งแล้ว เหลือเพียงฝ่ายปฏิบัติการของ กทท.เท่านั้น ที่ยังไม่ได้แก้ไขเรื่องนี้จริงจัง" นายพ้องกล่าว

ด้านเรือเอกอิทธิชัย สุพรรณกูล รักษาการผู้อำนวยการ กทท. กล่าวว่า ผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 56 ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ( ต.ค. 55 - พ.ค. 56 ) มีจำนวนตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ รวมตู้เปล่า จำนวน 9.82 แสนทีอียู เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 23.21% โดยทั้งปีตั้งเป้าไว้ที่ 1.4 ล้านทีอียู ขณะที่ท่าเรือแหลมฉบังมีตู้สินค้าผ่านท่ารวม 3.926 ล้านทีอียู เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.62% โดยทั้งปีตั้งเป้าไว้ที่ 6.5 ล้านทีอียู

ขณะที่ผลประกอบการทางการเงินในช่วงดังกล่าว กทท.มีรายได้ประมาณ 8,811 ล้านบาท จากเป้ารายได้ทั้งปี 13,201 ล้านบาท ส่วนกำไรในช่วง 8 เดือนมีประมาณ 3,563 ล้านบาท จากเป้ากำไรทั้งปีประมาณ 4,928 ล้านบาท

ที่มา -




คมนาคมจี้การท่าเรือ แก้ปัญหาทุจริต-ส่วย

รมช.คมนาคมใหม่ "พ้อง ชีวานันท์" ไฟแรงเดินสายตรวจงาน ประเดิมการท่าเรือรายแรก จี้เร่งแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น และส่วนท่าเรือหวั่นกระทบความเชื่อมั่นองค์กร ตั้งเป้าเพิ่มขีดความสามารถท่าเรือจากลำดับที่ 23 กลับสู่ลำดับที่ 19 ของโลกให้ได้ภายใน 2 ปี

นายพ้อง ชีวานันท์ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) โดยเน้นให้เร่งแก้ไขปัญหาภายในองค์กรที่กระทบต่อความเชื่อมั่นผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะปัญหาทุจริตคอรัปชั่น และส่วยท่าเรือ ที่เคยมีผู้ใช้บริการร้องเรียนมาก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งให้พัฒนาขีดความสามารถการบริหารจัดการท่าเรือด้วยการนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการขนส่งสินค้า ซึ่งตั้งเป้าเพิ่มอันดับขีดความสามารถของท่าเรือไทยให้ขยับขึ้นจากลำดับที่ 23 กลับไปอยู่ลำดับที่ 19 ของโลกให้ได้ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า

"มีแนวคิดพัฒนาท่าเรือแบบยั่งยืน คำนึงถึงการทำงานอย่างโปร่งใส และนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการควบคุมการขนส่งให้มีประสิทธิภาพ และพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ให้การท่าเรือไปทำความเข้าใจและสร้างสัมพันธ์อันดีกับชุมชนโดยรอบพื้นที่ที่จะต้องพัฒนาเพื่อลดแรงเสียดทาน ส่วนการจะเดินหน้าโครงการขณะนี้กำลังศึกษาถึงผลดี-ผลเสีย และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากโครงการท่าเรือทวายในเมียนมาร์ด้วย" นายพ้องกล่าว

นายสุทธินันท์ หัตถวงศ์ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวถึงแนวโน้มการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือในปี 2556 นี้ ว่า ตั้งเป้ามีปริมาณการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือขยายตัว 5-7% แต่จากปัจจัยค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วงไตรมาสแรก และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวนและไม่ฟื้นตัวชัดเจน จะเป็นตัวแปรสำคัญทำให้มีการขยายตัวน้อยกว่าเป้า ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกปริมาณตู้สินค้าที่ผ่านท่าเรือขยายตัวเพียง 3.5% และทั้งปีคาดว่าจะขยายตัวเพียง 4.5% เท่านั้น

"หากจะผลักดันให้ปริมาณการส่งสินค้าผ่านท่าเรือขยายตัวได้ตามเป้า จำเป็นต้องเร่งผลักดันยอดการส่งออกสินค้าในช่วงครึ่งปีหลังให้ขยายตัวได้อย่างน้อย 4-5% และมีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 10% จากปี 55 ที่การท่าเรือฯ มีรายได้สุทธิ 12,522 ล้านบาท" นายสุทธินันท์กล่าว.

ที่มา -