ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

สื่อดัง 'เจนส์' ระบุ 'จีน' กำลังสร้างสนามบินที่หมู่เกาะสแปรตลีย์

เริ่มโดย mrtnews, เม.ย 19, 15, 12:44:40 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com) China's first runway in Spratlys under construction: Jane's - 16/04/2015

ไอเอชเอส เจนส์ วิเคราะห์ศึกษาภาพถ่ายดาวเทียมที่ได้รับจาก แอร์บัส ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ ซึ่งถ่ายไว้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และมีข้อสรุปว่า จีนเริ่มต้นสร้างรันเวย์บนเกาะจำลองซึ่งเกิดจากการถมที่ถมทะเลแนวปะการัง ไฟเออรี ครอสส์ รีฟ ในหมู่เกาะสแปรตลีย์แล้ว ขณะเดียวกันยังกำลังสร้างเกาะเล็กๆ หลายๆ เกาะขึ้นบนแนวปะการัง ซูบี รีฟ ซึ่งถ้าเชื่อมเกาะเล็กๆ เหล่านี้เข้าด้วยกันก็จะทำให้มีเนื้อที่ดินเพียงพอสำหรับการทำรันเวย์อีกแห่งหนึ่ง

       
จีนเริ่มต้นสร้างทางวิ่งขึ้นลงของครื่องบิน (runway) แห่งแรกของตนในหมู่เกาะสแปรตลีย์ (Spratly Islands) แล้ว นี่เป็นข้อสรุปในบทวิเคราะห์ของ ไอเอชเอส เจนส์ (IHS Jane's) กลุ่มกิจการข้อมูลข่าวกรองและสื่อด้านกลาโหมชื่อดังระดับโลก ซึ่งทำการศึกษาภาพถ่ายดาวเทียมที่ได้รับจาก แอร์บัส ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ (Airbus Defence and Space) ภาพเหล่านี้ถ่ายไว้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
       
นักวิเคราะห์ด้านกลาโหม/ความมั่นคงของ เจนส์ เปิดเผยในรายงานซึ่งนำออกเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (16 เม.ย.) ว่า ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าจีนได้เริ่มต้นสร้างทางวิ่งขึ้นลงของเครื่องบิน บนพื้นที่ซึ่งเกิดจากการถมที่ถมทะเลบริเวณแนวปะการัง ไฟเออรี ครอสส์ รีฟ (Fiery Cross Reef) ในหมู่เกาะสแปรตลีย์แล้ว ภาพถ่ายดาวเทียมดังกล่าวซึ่งได้รับจาก แอร์บัส ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ ยังแสดงให้เห็นด้วยว่า จีนกำลังสร้างเกาะเล็กๆ หลายๆ เกาะขึ้นบนแนวปะการัง ซูบี รีฟ (Subi Reef) ซึ่งถ้าเชื่อมเกาะเล็กๆ เหล่านี้เข้าด้วยกันก็จะทำให้มีเนื้อที่ดินเพียงพอสำหรับการทำทางวิ่งขึ้นลงของเครื่องบินอีกแห่งหนึ่ง รายงานฉบับนี้เขียนโดย เจมส์ ฮาร์ดี (James Hardy), ฌอน โอคอนเนอร์ (Sean O'Connor), และ ไมเคิล โคเฮน (Michael Cohen) ซึ่งทั้งหมดเป็นนักวิเคราะห์ของเจนส์
       
ทั้งนี้ ที่แนวปะการัง ไฟเออรี ครอสส์ รีฟ ซึ่งจีนได้เริ่มต้นถมทะเลถมที่ปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นเกาะจำลองขึ้นมาตั้งแต่เมื่อปลายปี 2014 นั้น จากภาพถ่ายดาวเทียมที่ระบุว่าถ่ายไว้ในวันที่ 23 มีนาคม ได้เปิดเผยให้เห็นส่วนที่ลาดยางเสร็จแล้วของรันเวย์ขนาดความยาว 503 เมตร กว้าง 53 เมตร ตรงบริเวณด้านตะวันออกเฉียงเหนือของแนวปะการังนี้ นอกจากนั้นจีนยังทำการลาดยางและปรับพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของรันเวย์บนเกาะจำลองแห่งนี้ต่อไปอีก มิหนำซ้ำ ตามรายงานของเจนส์ พวกคนงานยังได้ทำการลาดยางพื้นที่ขนาดประมาณ 400 เมตร คูณ 20 เมตร ซึ่งคาดกันว่าจะใช้เป็นลานจอดเครื่องบินอีกด้วย
       
ส่วนที่แนวปะการัง ซูบี ภาพถ่ายดาวเทียมภาพอื่นๆ ซึ่งถ่ายในเดือนมีนาคม ก็แสดงให้เห็นว่า จีนอาจจะกำลังสร้างเกาะจำลองที่สามารถทำทางวิ่งขึ้นลงของเครื่องบินแห่งที่สองขึ้นมา
       
บทวิเคราะห์ของเจนส์ให้รายละเอียดว่า เกาะจำลองที่จีนสร้างขึ้นตรงแนวปะการัง ไฟเออรี ครอสส์ รีฟ นั้น มีพื้นที่ดินซึ่งสามารถใช้สร้างเป็นรันเวย์ความยาวขนาดประมาณ 3,000 เมตรได้ทีเดียว ขนาดความยาวเช่นนี้นับว่าสอดคล้องอยู่ในมาตรฐานความยาวรันเวย์ที่สร้างอยู่บนแผ่นดินใหญ่แดนมังกร ของกองทัพอากาศแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน โดยที่รันเวย์เหล่านี้จะมีความยาวตั้งแต่ประมาณ 2,700 เมตร ไปจนถึงยาวที่สุดคือ 4,000 เมตร
       
ขณะที่เกาะวูดดี้ (Woody Island) ในหมู่เกาะพาราเซล (Paracel Islands) จีนได้สร้างรันเวย์แห่งหนึ่งขึ้นมาซึ่งมีความยาวประมาณ 2,300 เมตร แต่ในปี 2014 จีนได้เริ่มต้นดำเนินการปรับปรุงยกระดับทางวิ่งขึ้นลงของเครื่องบินแห่งนี้ โดยจากภาพถ่ายดาวเทียมบ่งชี้ว่า จีนกำลังขยายรันเวย์นี้ให้มีความยาวเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 3,000 เมตรแล้ว
       
กลับมาที่แนวปะการัง ไฟเออรี ครอสส์ รีฟ ภาพถ่ายดาวเทียมวันที่ 23 มีนาคม แสดงให้เห็นว่า กำลังมีการไถขุดถมเกลี่ยพื้นที่บริเวณด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะจำลองแห่งใหม่แห่งนี้ด้วย โดยอยู่ติดๆ กับบริเวณยกพื้นซึ่งเห็นโผล่ลอยขึ้นมา บริเวณยกพื้นดังกล่าวนี้จีนได้สร้างเอาไว้ตั้งแต่แรกๆ ทีเดียวบนแนวปะการังนี้ ภาพถ่ายดาวเทียมยังแสดงให้เห็นปั้นจั่นที่ลอยอยู่เหนือผืนน้ำหลายๆ ตัว กำลังเพิ่มความแข็งแรงมั่นคงให้แก่ท่าเรือของเกาะจำลองแห่งใหม่นี้ ด้วยการยกเอาบล็อกคอนกรีตไปวางเสริมกำแพงชั้นใน ขณะที่มีการขยายเขื่อนกั้นน้ำทะเลด้านนอกไปด้วย โดยบทวิเคราะห์ของเจนส์สันนิษฐานว่า เพื่อทำให้เรือต่างๆ ซึ่งจอดในท่าเรือได้รับการคุ้มครองป้องกันดียิ่งขึ้น
       
สำหรับแนวปะการัง ซูบี ที่อยู่ในหมู่เกาะสแปรตลีย์เช่นเดียวกัน ภาพถ่ายดาวเทียมของแอร์บัส ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ ซึ่งถ่ายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ และวันที่ 5 มีนาคม แสดงให้เห็นว่ามีการถมที่ถมทะเลบริเวณนี้เช่นเดียวกัน โดยภาพถ่ายวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ชี้ว่ากำลังมีการสร้างเกาะเล็กๆ ขึ้นมา 3 เกาะ พอถึงวันที่ 5 มีนาคม ภาพถ่ายแสดงว่ามีเรือขุดอย่างน้อย 6 ลำกำลังขุดเอาเนื้อดินจำนวนมากมายมหึมากองรวมกันอยู่ที่แนวปะการังนี้ ซึ่งถ้านำมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกันก็จะได้พื้นที่ดินเพียงพอสำหรับทางวิ่งขึ้นลงของเครื่องบินความยาว 3,000 เมตรอีกแห่งหนึ่ง
       
ขณะที่ ไฟเออรี ครอสส์ รีฟ ตั้งอยู่ทางบริเวณด้านตะวันตกของหมู่เกาะสแปรตลีย์ ทว่า ซูบี รีฟ อยู่ทางด้านเหนือ และอยู่ห่างเพียง 25 กิโลเมตรจากเกาะติปู/ปากาซา (Thitu/Pagasa island) ซึ่งครอบครองโดยฟิลิปปินส์ และมีประชากรที่เป็นพลเรือนพำนักอยู่ที่นั่น 1คน บทวิเคราะห์ของเจนส์ระบุ
       
ที่มา -




จีนเดินหน้าถมทะเลพิพาทสร้างรันเวย์

ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดเผยให้เห็นความคืบหน้า โครงการถมทะเลในหมู่เกาะสแปรตลีย์ของรัฐบาลปักกิ่ง เพื่อก่อสร้างรันเวย์ทางวิ่งขึ้นลงสำหรับเครื่องบินในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นความขัดแย้งเรื้อรังกับหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 58 ว่า "ไอเอชเอส เจน ดีเฟนซ์ วีคลีย์" นิตยสารออนไลน์ของสหรัฐเกี่ยวกับข่าวสารในวงการทหารทั่วโลก เผยแพร่ชุดภาพถ่ายซึ่งบันทึกโดยดาวเทียมของบริษัทแอร์บัส ระบุวันที่ 23 มี.ค. 58 แสดงความคืบหน้าในโครงการถมพื้นที่ส่วนหนึ่งของทะเลจีนใต้โดยรัฐบาลปักกิ่ง เพื่อสร้างรันเวย์สำหรับการเดินทางขึ้นและลงของเครื่องบินทหาร บริเวณแนวปะการังใกล้กับหมู่เกาะสแปรตลีย์ พื้นที่พิพาทระหว่างรัฐบาลปักกิ่ง กับฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย บรูไน และไต้หวัน

ทั้งนี้ ทีมงานของไอเอชเอส เจน ประเมินว่า เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ รันเวย์แห่งนี้อาจมีความยาวถึง 3,000 เมตรเลยทีเดียว นอกจากนี้ ภาพถ่ายยังนำไปสู่การวิเคราะห์ว่า รัฐบาลจีนมีโครงการก่อสร้างรันเวย์บริเวณหมู่เกาะพาราเซล ทางเหนือของทะเลจีนใต้อีกด้วย

รายงานดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ไม่นาน หลังพล.ร.อ. ซามูเอล ล็อกเคลียร์ ผู้บัญชาการกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐประจำภูมิภาคแปซิฟิก กล่าวว่านอกเหนือจากการสร้างรันเวย์ในบริเวณทะเลพิพาทแล้ว ทางการจีนอาจนำระบบต่อต้านขีปนาวุธมาติดตั้งในบริเวณนี้ด้วย ขณะที่นายโทนี บลิงเคน รมช.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า "การแข่งขัน" เพื่อแย่งชิงกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ต้องเป็นไปตามหลักกฎหมายสากลเท่านั้น การเคลื่อนไหวเพียงฝ่ายเดียวเป็นสิ่งที่ประชาคมโลกไม่อาจยอมรับได้

ที่มา -