ข่าว:

ห้ามโพส ปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

สิงคโปร์พึ่งเพื่อนบ้านเป็นศูนย์กลางน้ำมันรายใหญ่สุดของเอเชีย

เริ่มโดย mrtnews, ม.ค 28, 14, 19:38:15 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ศูนย์กลางค้าน้ำมันรายใหญ่สุดของเอเชีย "สิงคโปร์" กำลังจะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก


ปัจจุบันสิงคโปร์กำลังไม่เหลือพื้นที่ว่างมากพอ สำหรับการก่อสร้างคลังน้ำมันเพิ่มเติม เพื่อการจัดเก็บน้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่นน้ำมันเบนซิน และเคมีภัณฑ์ ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนใหม่จำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ ไหลออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลเซีย และอินโดนีเซีย

สาธารณูปโภคพื้นฐานด้านน้ำมันที่สิงคโปร์มีอยู่นั้น ถือว่ามีขนาดมหึมาอยู่แล้ว ซึ่งมากพอที่จะจัดหาน้ำมันสำหรับการเติมสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิกได้กว่า 17,000 สระ ภายในเวลาปีเดียว และท่าเรือที่มีอยู่ก็สามารถอำนวยความสะดวกให้กับเรือขนส่งสินค้าได้มากถึง 1,000 ลำต่อครั้ง รวมถึง เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ ที่มีความยาวเท่ากับสนามฟุตบอล 3 สนามมาต่อกัน

ปัจจุบันสิงคโปร์มีแผนที่จะสร้างคลังน้ำมันเพิ่มเติม โดยกำหนดว่า จะต้องอยู่บนพื้นที่ที่สามารถเดินทางด้วยเรือจากอ่าวเคปเปิล ทางตอนกลางของประเทศ ไปถึงภายในเวลา 1 ชั่วโมง พร้อมปรับเพิ่มความสามารถการจัดเก็บก๊าซไฮโดรคาร์บอน ใน "เกรทเตอร์ สิงคโปร์" หรือพื้นที่ตั้งคลังน้ำมันของสิงคโปร์ในภูมิภาคนี้ ให้ได้มากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีต่อจากนี้ เพื่อทำให้สิงคโปร์ ก้าวแซงหน้าบรรดาศูนย์กลางการค้าน้ำมันระหว่างประเทศ รายใหญ่สุดของโลก ที่รู้จักกันในชื่อ "เออาร์เอ" ซึ่งเป็นแหล่งค้าน้ำมันให้กับเมืองต่างๆ ในยุโรป ที่ตั้งอยู่รายล้อมศูนย์กลางแห่งนี้ รวมถึง กรุงอัมสเตอร์ดัม และนครรอตเตอร์ดัม ของเนเธอร์แลนด์ และเมืองแอนท์เวิร์ป ในเบลเยียม

ขณะนี้สิงคโปร์สามารถสำรองเคมีภัณฑ์ น้ำมัน และเชื้อเพลิงเหลว อย่างน้ำมันเบนเซิน และน้ำมันดีเซล ตามคลังน้ำมันต่างๆ ของประเทศได้ราว 11 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นปิรมาณที่เทียบเท่ากับน้ำมัน 68 ล้านบาร์เรล หรือเทียบเท่ากับเชื้อเพลิงที่ชาวเวียดนามทั้งประเทศใช้ไปได้นานถึงครึ่งปี

ส่วนอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ต่างก็ดำเนินการสร้างคลังน้ำมันใหม่เสร็จสิ้นไปแล้ว ซึ่งสามารถจัดเก็บเชื้อเพลิงไว้ได้มากถึง 7 ล้านลูกบาศก์เมตร และอยู่ระหว่างการก่อสร้างคลังน้ำมันแห่งใหม่ ที่สามารถจัดเก็บเพิ่มได้อีกราว 10 ล้านลูกบาศก์เมตร


แผนการขยายพื้นที่จัดเก็บน้ำมันดังกล่าว ทำให้เขตอุตสาหกรรมบนเกาะจูร่ง ที่อยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของสิงคโปร์ ได้ต้อนรับการเข้าลงทุนด้านพลังงาน และปิโตรเคมี คิดเป็นมูลค่าโดยรวมมากกว่า 42,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า การสร้างคลังน้ำมันเพื่อจัดเก็บน้ำมันเพิ่มทุกๆ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรนั้น จะมีค่าใช้จ่ายการก่อสร้างราว 300-400 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ความต้องการเชื้อเพลิงเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยสำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐ หรือ อีไอเอ ระบุในรายงานพลังงานฉบับล่าสุดว่า ประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกองค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ โออีซีดี จะมีความต้องการพลังงาน คิดเป็นสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกระหว่างปี 2553 - 2583

ที่มา -