ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

ย้ายเรือสารเคมีรั่วออกจากท่าเทียบเรือบี 3 ไปยังเกาะนกแล้ว

เริ่มโดย mrtnews, ก.ค 19, 14, 19:59:44 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ย้ายเรือสารเคมีรั่วออกจากท่าเทียบเรือ บี 3 ไปยังเกาะนก อยู่ห่างจากฝั่ง 3 กิโลเมตร สร้างความมั่นใจผู้ประกอบการ และชุมชนโดยรอบ ด้านรองผู้ว่าฯ สับ ทลฉ.ไร้ระบบ ทำสับสน โกลาหลทั้งเมือง


วันนี้ (17 ก.ค. 57) ผู้สื่อข่าวรายการสถานการณ์ล่าสุด เกี่ยวกับการเตรียมนำเรือ Pearl River Bridge ซึ่งเกิดเหตุสารเคมี Butyl Acrylate รั่วไหลออกจาก Iso tank จนทำให้เด็กนักเรียนและชุมชนโดยรอบได้รับผลกระทบจากการสูดกลิ่น จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลเกือบ 100 คนว่า ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. ท่าเรือแหลมฉบัง กรมเจ้าท่า และตำรวจน้ำ ได้เตรียมเคลื่อนย้ายเรือออกจากฝั่งประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อให้ง่ายต่อการกำจัดสารเหลวที่ระเหยออกมา และให้ท่าเทียบเรือทำงานไดัสะดวกขึ้น นอกจากนั้น ยังได้นำถาดเหล็กขนาดใหญ่รอง Iso tank เพื่อนำสารเคมีที่รั่วออกมาไปกำจัด ไม่ให้ไหลลงสู่ทะเล

โดยขณะนี้ท่าเรือแหลมฉบัง ได้ส่งเจ้าหน้าที่นำร่องขึ้นประจำเรือ เพื่อเตรียมปลดเชือกให้เรือลอยลำออกจากท่า เพื่อนำเรือไปทิ้งสมอบริเวณท้ายเกาะนก ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 3 กิโลเมตร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รายงานว่า รอยฉีกขาดบนแท็งก์ค่อนข้างมีขนาดใหญ่จนไม่สามารถอุดรอยรั่วได้ จึงจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายเรือให้ไกลจากชุมชน

นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวหลังรับฟังการบรรยายสรุปการแก้ปัญหาของท่าเรือแหลมฉบังว่า เป็นเพราะการขาดการประสานงานด้านข่าวสารกับสื่อมวลชน รวมทั้งทางจังหวัดได้รับทราบ จนทำให้เกิดความตื่นตระหนก ทั้งที่เกิดเหตุตั้งแต่เวลา 02.00 น. แต่กลับประวิงเวลาไม่แจ้งข้อมูลให้ชุมชน และโรงเรียนโดยรอบทราบ ทำให้ไม่มีการป้องกัน เป็นเหตุให้เด็ก และประชาชนเกือบ 100 คน ได้รับผลกระทบ

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางจังหวัดจะถือเป็นกรณีศึกษา เรื่องความรวดเร็วของข้อมูลที่จะเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน เพราะสารที่รั่วไหลเป็นของเหลว สามารถระเหยได้ แต่กลับมีการนำเสนอข่าวว่าเป็นแก๊ส

สำหรับเด็กนักเรียนที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้งหมด ทางท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมจะออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้

ที่มา -




ยอดเหยื่อแก๊สรั่วท่าเรือแหลมฉบัง พุ่ง 94 ราย

หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ระบุผ่านโทรสารจังหวัด เผยยอดเหยื่อแก๊สรั่วที่ท่าเรือแหลมฉบัง พุ่ง 94 ราย สั่งให้นักเรียนในพื้นที่อพยพกลับบ้านพัก...


เมื่อเวลา 10.35 น.วันที่ 17 ก.ค. 57 นางสุรินรัตน์ สุขทรัพย์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ รักษาราชการแทน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี เปิดเผยผ่านโทรสารจังหวัดชลบุรีว่า ได้รับแจ้งว่าพบสารเคมีรั่วไหลจากเรือ PEARL RIVER BRIDGE (ขณะจอดอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง B3) บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิติกส์ จำกัด (JWD)

ได้ตรวจสอบสารเคมีเบื้องต้นและอุดรอยรั่ว พบว่าสารเคมีเป็นของเหลวไวไฟอันตราย Class 3 ชื่อ UN No.2348 (BUTYL ACRYLATES,STABILIZED) ซึ่งมีกลิ่นฉุนรุนแรงแต่ยังไม่พบการติดไฟ

สำหรับตู้ที่รั่วเป็น class 5.1 วัตถุออกซิไดซ์ และวัตถุอินทรีย์เปอร์ออกไซด์ (Oxidizing substances and Organic peroxides) แยกเป็น 2 ประเภทย่อย คือ วัตถุออกซิไดซ์ (Oxidizing substances) หมายถึงวัตถุที่สามารถให้ออกซิเจนออกมา โดยที่วัตถุนี้ไม่จำเป็นต้องเกิดการเผาไหม้ หรือเป็นวัตถุที่ทำให้เกิดขบวนการ oxidation ในลักษณะที่คล้ายกัน ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ต่อวัตถุอื่นที่วางไว้ใกล้เคียง และมีความรุนแรงยิ่งขึ้น เช่น Aluminum nitrate, Ammonium nitrate ชนิด A (UN 2067, 2068, 2059, 2070, 2426), ผงฟอกขาว (Bleaching powder), Calcium chlorate, Calcium chloride, Calcium hypochloride (solid), Calcium hypochloride (solution), Chromic nitrate, Chromium nitrate, Hydrogen peroxide solution 8-20%, Sodium nitrate

วัตถุออกซิไดซ์บางชนิดมีคุณสมบัติที่สำคัญอื่นๆ ด้วย เช่น Barium chlorate, Barium bromate, Barium nitrate, Chromiutrioxide (anhydrous), Lead chlorate, Bromine pentafluoride, Bromine trifluoride

วัตถุอินทรีย์เปอร์ออกไซด์ (Organic peroxides) เป็นวัตถุอินทรีย์ที่มีโครงสร้างออกซิเจน 2 ตัว และอาจถือได้ว่าเป็นอนุพันธ์ของ Hydrogen peroxide ซึ่งอะตอมของ Hydrogen 1 หรือทั้ง 2 อะตอม ถูกแทนที่ด้วยอนุมูลของสารอินทรีย์ วัตถุนี้ไม่เสถียรสามารถสลายตัวให้ความร้อนรวดเร็วได้ด้วยตัวเอง และอาจมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างดังต่อไปนี้ คือ แนวโน้มที่จะระเบิดสลายตัว เผาไหม้อย่างรวดเร็ว ไวต่อการกระแทก หรือการเสียดสี ทำปฏิกิริยากับสารอื่นก่อให้เกิดอันตรายได้ เป็นอันตรายต่อตา

การที่วัตถุ Organic peroxides มีแนวโน้มที่จะให้ความร้อนออกมา ในขณะที่อุณหภูมิในขณะนั้นปกติ หรือในขณะที่ได้รับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นนั้น การสลายตัวสามารถเกิดจากความร้อน การสัมผัสกับสิ่งสกปรก (เช่น มีการเจือปนของกรด, สารประกอบโลหะหนักหรือพวก amine) เกิดจากการเสียดสี หรือการกระแทก การสลายตัวนี้นำไปสู่อันตราย หรือการไวไฟมีก๊าซ หรือไอระเหยต่างๆ

ดังนั้น จึงต้องมีการควบคุมในขณะขนส่ง การทำให้เจือจางด้วยตัวทำละลายที่เหมาะสม ตลอดจนควบคุมในเรื่องบรรจุภัณฑ์หีบห่อที่เหมาะสมอีกด้วย ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้วัตถุนี้สัมผัสถูกตา เนื่องจากบางชนิดจะทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อแก้วตา และกัดเนื้อเยื่อตา และผิวหนังได้

มีการอพยพนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 และโรงเรียนเทศบาล 3 ออกจากโรงเรียน และให้เดินทางกลับบ้านได้ เบื้องต้นนำส่งผู้ป่วยที่โรงพยาบาลวิภาราม จำนวน 8 ราย โรงพยาบาลแหลมฉบัง 40 ราย และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 46 ราย ขณะนี้อำเภอสรีราชาได้แจ้งสำนักงานสาธารณสุขอำเภอจัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ป่วย ณ โรงพยาบาลแหลมฉบัง หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบต่อไป.

ที่มา -




ผอ.ท่าเรือแหลมฉบังยันแก้ไขปัญหาสารเคมีรั่วเสร็จภายในวันนี้ ขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น(ชมคลิปฉ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผอ.ท่าเรือแหลมฉบัง ขอโทษเหตุสารเคมีรั่วไหล พร้อมวางมาตรการที่เข้มงวดเพิ่มขึ้น ส่วนผู้บาดเจ็บจะดูแลเต็มที่ ยันแก้ปัญหาให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาฐานทำผู้อื่นได้รับอันตราย


วันนี้ (18 ก.ค. 57) ที่ห้องประชุมท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ร.อ.สุทธินันท์ หัตถวงศ์ ผอ.การท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วย นายสุวรรณ นันทศรุต ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) และนายณรงค์ หวังอยู่ หัวหน้างานรักษาความปลอดภัยเรือและท่าเรือ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค ที่ 6 (สาขาชลบุรี) ได้ร่วมแถลงเหตุการณ์เกิดเหตุสารเคมีรั่วไหลในท่าเทียบเรือ B3 ท่าเรือแหลมฉบัง

ร.อ.สุทธินันท์ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ต้องขอโทษประชาชนที่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตาม ทางการท่าเรือจะรับผิดชอบผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาลพญาไท จำนวน 20 คน โดยส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ที่อยู่ที่เทอร์มินอล และคนขับรถหัวลาก ส่วนเด็กนักเรียนที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนั้น ได้กลับบ้านเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังติดตามดูอาการต่อไป

เหตุการณ์ที่เกิดในครั้งนี้จะต้องมีการวางมาตรการที่เข้มงวดมากกว่าเดิม และต้องประสานกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น แม้จะมีการซ้อมแผนในการป้องกันเหตุการณ์แล้วก็ตาม ก็จะต้องมีการประสานงานเพิ่มมากขึ้นมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ในครั้งนี้ที่ขาดการประสานงานจนเหตุการณ์บานปลาย

ด้าน ร.ท.ยุทธนา โมกขาว ผอ.ฝ่ายปฏิบัติการ การท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า ขณะนี้ทีมชุดปฏิบัติการท่าเรือแหลมฉบัง กรมเจ้าท่า เทศบาลนครแหลมฉบัง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี สำนักงานสิ่งแวดล้อมที่ 13 (จังหวัดชลบุรี) บริษัท เจดับเบิ้ลยู ดี อินโฟ โลจิสติกส์ จำกัด ที่ท่าเทียบเรือ บี 3 เพื่อวางแผนในการขนย้าย และกำจัดสารเคมีที่หกรั่วไหล

ซึ่งในเบื้องต้นได้วางแผน โดยจะนำเรือเครนลอยน้ำ (Floating Crane) เข้าเทียบเรือสินค้าดังกล่าว และยกแท็งก์ออกมาวางจากตำแหน่งที่เกิดเหตุ และใช้ปั๊มดูดสารเคมีที่เหลืออยู่ออกจากแท็งก์ เพื่อนำให้เจ้าของสินค้านำกลับไปโรงงาน โดยคาดว่ายังเหลืออีกประมาณ 10 ตัน

ส่วนกากที่รั่วไหลออกมาจะนำไปกำจัดโดยผู้รับกำจัดที่ได้รับอนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อนำไปกำจัดให้ถูกตามหลักวิชาการต่อไป นอกจากนั้น ได้นำปูนขาวไปโรยกลบสารเคมีที่รั่วไหลออกมาเพื่อไม่ให้ส่งกลิ่นไปรบกวนชาวบ้านอีกต่อไป

นายสุวรรณ นันทศรุต ผอ.สำนักงานสิ่งแวดล้อมที่ 13 (จังหวัดชลบุรี) กล่าวว่า สารเคมีที่รั่วไหลออกมานั้น ทางสำนักงานฯ ให้ความสนใจ และเข้ามาดำเนินการตรวจวัดในพื้นที่จุดเสี่ยงต่างๆ จำนวน 3 จุด เช่น ชุมชนแหลมฉบัง วัดบ้านนา และโรงเรียนเทศบาลแหลมฉบัง 2 โดยจากการนำเครื่องมาตรวจวัดคุณภาพอากาศไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด นอกจากนั้น ยังเก็บตัวอย่างน้ำบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อนำไปตรวจสอบด้วย

นายณรงค์ หวังอยู่ หัวหน้างานรักษาความปลอดภัยเรือและท่าเรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค ที่ 6 (สาขาชลบุรี) กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ ร่วมกับการท่าเรือ ได้ลากเรือไปจอดทอดสมอห่างจากฝั่ง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านบนฝั่ง โดยเบื้องต้นอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าภายในเวลาอีก 6 ชั่วโมง ปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายหากไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไรก็จะเรียบร้อย

ด้าน พ.ต.ท.ภูมิสิน ภู่สุวรรณ รอง ผกก.สภ.แหลมฉบัง กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีบริษัทที่เป็นต้นเหตุ ฐานทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายต่อร่างกาย

สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ล่าสุด พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง 61 ราย admit 3 (เด็ก 2 ผู้ใหญ่ 1) โรงพยาบาล สมเด็จ ณ ศรีราชา 65 ราย ไม่มี admit โรงพยาบาล พญาไท 29 ราย admit 20 (ผู้ใหญ่ทั้งหมด) โรงพยาบาลวิภา-ราม แหลมฉบัง 23 ราย admit 12 (เด็ก 6 ผู้ใหญ่ 6) โรงพยาบาล สมิติเวชศรีราชา 2 ราย ไม่มี admit รวม 180 ราย admit 35 ราย (เด็ก 8 ราย ผู้ใหญ่ 27 ราย)

ที่มา -