ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

'เรือจีน' ฉีดน้ำ - ไล่ชน 'เรือเวียดนาม' เจ็บ6 ฮานอย'พยายามขวางปักกิ่งตั้งแท่นขุด

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 08, 14, 21:49:13 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

เอพี/เอเอฟพี - ฮานอยแถลงในวันพุธ (7 พ.ค. 57) ว่า กองเรือของจีนที่กำลังคุ้มกันแท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลลึก ซึ่งถูกนำออกมาติดตั้งตรงน่านน้ำในทะเลจีนใต้ที่ 2 ประเทศพิพาทช่วงชิงกันอยู่ ได้ใช้เครื่องฉีดน้ำเข้าโจมตีขับไล่กองเรือตรวจการณ์ของเวียดนาม รวมทั้งพยายามเข้ามาชนกระแทกอยู่หลายครั้ง จนทำให้มีผู้บาดเจ็บไป 6 คน นับเป็นเหตุการณ์การเผชิญหน้าครั้งร้ายแรงที่สุดในระยะหลายๆ ปีที่ผ่านมา


จีนได้ขนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลลึกขนาดใหญ่มูลค่าราว 1,000 ล้านดอลลาร์แท่นนี้ ไปยังบริเวณน่านน้ำใกล้กับหมู่เกาะพาราเซลเมื่อวันที่ 2 ที่ผ่านมา โดยมีกองเรือนาดเล็กจำนวนหนึ่งตามคุ้มกัน พร้อมกันนั้น สำนักงานบริหารความปลอดภัยทางทะเลของจีน ได้ออกประกาศเตือนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ห้ามเรือต่างชาติเข้าไปในรัศมี 4.8 กิโลเมตรจากแท่นขุดเจาะ

ความเคลื่อนไหวของจีนครั้งนี้ถูกมองว่า เป็นการดำเนินการมุ่งยั่วยุที่สุดครั้งหนึ่ง ในความพยายามอย่างค่อยเป็นค่อยไปและหนักแน่นมั่นคงของแดนมังกรที่จะอ้างสิทธิ์อธิปไตยเหนืออาณาบริเวณเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ ซึ่งได้ก่อให้เกิดกรณีพิพาทกับทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอีกบางประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทางด้านเวียดนามได้ออกมาตอบโต้โดยระบุว่า การตัดสินใจตามอำเภอใจเช่นนี้ของจีนเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ถอนแท่นขุดเจาะออกไป อีกทั้งจัดส่งเรือจำนวนหนึ่งไปยังพื้นที่ดังกล่าว

โง หว็อค ถู รองผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจน้ำเวียดนาม แถลงที่กรุงฮานอยว่า นับตั้งแต่วันที่ 3 เป็นต้นมา เรือของจีนได้เข้าชนกระแทกเรือของเวียดนามอย่างน้อย 3 ครั้ง และเครื่องบินจีนลำหนึ่งได้บินระดับต่ำๆ เหนือเหล่าเรือตรวจการณ์ของตำรวจเวียดนามที่ถูกส่งไปยังบริเวณนั้น เพื่อเป็นการข่มขู่

"สถานการณ์ตึงเครียดมาก" เขากล่าว และเสริมว่า "เจ้าหน้าที่ตรวจการณ์ประมงของเวียดนามได้รับบาดเจ็บไป 6 คน เนื่องจากการกระแทกของเรือจีนทำให้มีกระจกแตก"

"เรากระจายเสียงส่งสัญญาณให้ย้ายแท่นขุดเจาะออกไปจากพื้นที่ตรงนั้น เราได้แสดงให้เห็นว่าเรามีความอดทนอดกลั้นเมื่อต้องเผชิญกับพฤติการณ์ก้าวร้าวของฝ่ายจีน" รองผู้บัญชาการตำรวจน้ำเวียดนามบอก พร้อมกับย้ำว่าเวียดนามไม่ได้ส่งเรือรบทหารเข้าไป มีเพียงเรือตำรวจน้ำและเรือหน่วยยามฝั่งเท่านั้น

"ความอดทนของเรามีขีดจำกัด ถ้าพวกเขายังคงเล่นงานเราแล้ว เราก็จะต้องใช้มาตรการป้องกันตนเองมาตอบโต้" เขาเตือน

เวียดนามยังได้ออกอากาศคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นเหตุการณ์ซึ่งอ้างว่าเรือของจีนไล่ชนเรือเวียดนามด้วย

ทางด้านสำนักข่าวเอพีได้อ้างนักการทูตต่างชาติ 2 คนที่ไม่ประสงค์ระบุชื่อ เนื่องจากเป็นประเด็นอ่อนไหว เปิดเผยว่า เวียดนามได้ส่งเรือติดอาวุธของกองกำลังนาวีและหน่วยยามฝั่งรวม 29 ลำไปยังน่านน้ำใกล้แท่นขุดเจาะน้ำมัน โดยนักการทูต 1 ใน 2 คนนี้อ้างอิงคำบอกเล่าของนักการทูตจีนผู้หนึ่งว่า การกระทำของเวียดนามถือเป็นการ "แสดงพลัง" เพื่อบีบให้ปักกิ่งถอนแท่นขุดเจาะ

ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร (6 พ.ค. 57) ฝ่าม บินห์ มินห์ รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม ได้โทรศัพท์ถึงหยาง เจียฉือ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เพื่อแจ้งว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันของจีนรุกล้ำเขตเศรษฐกิจพิเศษและไหล่ทวีปของเวียดนามตามอนุสัญญาสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลของปี 1982 และเรียกร้องให้จีนย้ายแท่นขุดเจาะนั้นซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งของเวียดนามราว 220 กิโลเมตรออกไป


มินห์สำทับว่า ฮานอยต้องการแก้ไขข้อพิพาทด้านดินแดนกับจีนอย่างสันติ แต่พร้อมใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็นและเหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิ์และผลประโยชน์อันชอบธรรม

อย่างไรก็ดี เอพีอ้างเจ้าหน้าที่เวียดนามผู้หนึ่งซึ่งขอให้สงวนนามเช่นกัน ได้เล่าให้ฟังว่าปรากฏว่าเรือเวียดนามที่ส่งออกไป มีจำนวนน้อยกว่าเรือจีนที่คอยคุ้มกันแท่นขุดเจาะ ถึงแม้เรือเวียดนามจะได้พยายามหยุดยั้งไม่ให้แท่นขุดเจาะ สามารถตั้งฐานได้อย่างมั่นคง ณ จุดซึ่งต้องการขุดเจาะก็ตามที

ทางด้าน หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวตามปกติเมื่อวันพุธว่า แท่นขุดเจาะนี้ตั้งอยู่ในน่านน้ำของแดนมังกร และดังนั้นการขุดเจาะเช่นนี้จึงเป็นสิ่งที่ "ปกติและถูกกฎหมาย" ขณะที่ "กิจกรรมมุ่งก่อกวนของฝ่ายเวียดนาม คือการล่วงละเมิดสิทธิอธิปไตยของจีน"

การอ้างสิทธิ์ ตลอดจนอิทธิพลทางทหารและเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นของจีน กำลังส่งสัญญาณเตือนภัยไปยังเพื่อนบ้านขนาดเล็กในภูมิภาค แม้ประเทศเหล่านี้ตระหนักว่า จำเป็นต้องรักษาสัมพันธ์กับพญามังกรซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญก็ตาม

อเมริกาที่กำลังผลักดันนโยบาย "ปักหมุดเอเชีย" ทั้งด้านเศรษฐกิจและการทหาร ส่วนหนึ่งเพื่อคานอิทธิพลจีนนั้น ได้พยายามแสดงตนว่ามีความกังวลเช่นเดียวกับหลายชาติในเอเชีย เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศออกคำแถลงในวันอังคาร (6 พ.ค. 57) โดยใช้ถ้อยคำแข็งกร้าวระบุว่า การกระทำของปักกิ่งเป็นการ "ยั่วยุและไม่มีประโยชน์ต่อการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค"

ทางด้าน โจนาธาน ลอนดอน ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเวียดนามจากมหาวิทยาลัยซิตี้ของฮ่องกงชี้ว่า ดูเหมือนปักกิ่งเจตนาปักหลักในน่านน้ำที่เป็นกรณีพิพาทอย่างไม่อ้อมค้อมและมัดมือชกเวียดนาม ซึ่งถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่ฮานอยถูกจับจ้องว่า จะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร

ทั้งนี้ จีนเข้ายึดครองหมู่เกาะพาราเซลเมื่อ 40 ปีที่แล้ว จนนำไปสู่การสู้รบกับทหารเวียดนามใต้ที่ได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา และทหารเวียดนามใต้เสียชีวิต 74 นาย ต่อมาเกิดการปะทะทางทะเลระหว่างจีนกับเวียดนามอีกครั้งในปี 1988 บริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ที่เป็นกรณีพิพาทกันอยู่เช่นกัน โดยคราวนี้ทหารเวียดนามเสียชีวิตอีก 64 นาย

ปี 1992 จีนให้สัมปทานการสำรวจแก๊สและน้ำมันบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์แก่เครสโตน บริษัทพลังงานสัญชาติสหรัฐฯ โดยไม่สนใจการประท้วงของเวียดนาม อย่างไรก็ดี สองปีให้หลังกองทัพเรือเวียดนามกดดันจนบริษัทอเมริกันต้องย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันออกจากบริเวณดังกล่าว

ที่มา -