ร.ต.ทรงธรรม จันทประสิทธิ์ ผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย หรือ กทท. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ กทท.มอบหมายให้ฝ่ายบริหาร กทท.พิจารณาทบทวนอัตราการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของการให้บริการตู้สินค้าและการให้บริการเรือลากจูง เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกและในประเทศไทยลดลง (http://www.marinerthai.net/pic-news3/2015-01-09_011.jpg) (http://www.marinerthai.net/pic-news3/2015-01-09_013.jpg)
โดยอ้างอิงจากราคาน้ำมัน ณ ปัจจุบัน เป็นฐานในการคำนวณ ซึ่งจากการพิจารณาทบทวนแล้ว มีผลให้การประกาศลดค่าธรรมเนียมพิเศษการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของการให้บริการตู้สินค้าและการให้บริการเรือลากจูง ณ ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 ทั้งนี้ จากการที่ กทท.ทบทวนอัตราการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงฯ และได้ออกประกาศ กทท.ฉบับใหม่ ดังกล่าว นอกจากจะทำให้ผู้ใช้บริการจะได้ใช้ราคาน้ำมันที่ลดลง สอดคล้องกับราคาน้ำมัน ณ ปัจจุบัน จะช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศไทย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
(http://www.marinerthai.net/pic-news3/2015-01-09_012.jpg)
นอกจากนี้ กรณีที่กลุ่มบริษัทสายการเดินเรือประกาศจะขึ้นค่าบริการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายตู้สินค้าในบริเวณท่าเรือ หรือ THC ซึ่งเรียกเก็บจากผู้นำเข้า หรือผู้ส่งออกว่าการเรียกเก็บค่า THC เป็นอัตราค่าบริการที่บริษัทสายการเดินเรือ หรือบริษัทเจ้าของตู้สินค้า เรียกเก็บจากผู้นำเข้า หรือผู้ส่งออก โดยรวมค่าใช้จ่ายบางส่วนที่ต้องชำระกับ กทท.ซึ่งไม่ได้เป็นอัตราค่าภาระหรือค่าบริการที่ กทท.กำหนด ทั้งนี้ กทท.ไม่ได้มีการปรับโครงสร้างอัตราค่าภาระมาตั้งแต่ปี 2543 โดยค่าภาระบางอัตรา ซึ่งจากการประชุมเพื่อหาข้อยุติในการขึ้นค่า THC เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมการค้าภายใน กทท. บริษัทสายการเดินเรือ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมผู้นำเข้า และผู้ส่งออกระดับมาตรฐาน มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นค่า THC ออกไปอีก 60 วัน เพื่อตั้งคณะทำงานศึกษาในรายละเอียด เหตุผล และความเหมาะสมในการปรับราคา
ที่มา - (http://www.marinerthai.net/pic-news3/banmuang.jpg) (http://www.banmuang.co.th/)