จีนร่วมมาเลเซีย จับมืสร้างท่าเรือมะลากาหยุดอ้อมท่าเรือสิงคโปร์

[mrtnews]

จีนและมาเลเซีย จับมือสร้างท่าเรือขนส่งน้ำมันที่มะละกา หวังจะใช้เป็นตลาดค้าน้ำมันดิบ แทนสิงคโปร์ และลดการพึ่งพาท่าเรือที่ช่องแถบมะละกา หลังจีนและสหรัฐไม่ค่อยลงรอยกัน ทางการค้า โดยสิงคโปร์เหนียวแน่นกับสหรัฐมากเกินไป

แผนเส้นทางสายไหมใหม่ทั้งทางรางและทางเรือ ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน มีแผนจะเชื่อมโยงจีนเข้ากับ 64 ประเทศทั่วโลก อย่างเป็นรุปธรรม โดยการสร้างทางรถไฟเข้าไปเชื่อมโยงประเทศต่างๆ และสร้างท่าเรือรองรับกองเรือสินค้าของจีน โดยเวลานี้จีนจัดเงินทุนให้กู้ไปแล้วหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างทางรถไฟ ท่าเรือ โกดังสินค้า ทั้งในเอเชียกลาง ยุโรป และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

และเป้าหมายสำคัญอีกประเทศหนึ่งของจีน ก็คือการสร้างท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ ที่เมืองมะละกาฝั่งตะวันตกของมาเลเซีย เรียกโครงการนี้ว่า Melaka Gateway เพื่อใช้เป็นท่าเรือขนส่งพลังงาน ที่เป็นของเหลว คือน้ำมันดิบ และก๊าซเหลว ที่ขนส่งตรงมาจากกลุ่มตะวันออกลาง และใช้เป็นคลังเก็บน้ำมันดิบ ซึ่งจะก่อประโยชน์ใหญ่หลวงแก่ประเทศในเอเชีย สำหรับการค้าน้ำมันดิบ ซึ่งก่อนหน้านี้ สิงคโปร์ คือผู้ทรงอิทธิพลสูงสุด ในการค้าน้ำมันดิบล่วงหน้าและธุรกิจการกลั่นน้ำมันในเอเชีย

ด้านมาเลเซีย เมื่อมีการลงทุน ใน melaka gateway แล้ว มาเลเซียจะเดินหน้าลงทุนในโครงการ East Coast Rail Link คือเส้นทางรถไฟสายตะวันออก–ตะวันตก ซึ่งจะเป็นการลงทุนโครงการที่ใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย

เว็บไซต์เดอะสตาร์ ของมาเลเซีย ระบุว่า การก่อสร้างเฟสแรกจะเริ่มจาก Wakaf Baru ใน Kelantan ไปยังเมือง Gombak มูลค่าการก่อสร้าง 46,000 ล้านริงกิต หรือประมาณ 400,000 ล้านบาท ส่วนเฟสที่สอง จะสร้างต่อจาก Gombak ไปยังท่าเรือ Port Klang ระยะทาง 88 กิโลเมตรมูลค่า 9,000 ล้านริงกิต หรือประมาณ 80,000 ล้านบาท

มาเลเซียมองว่า เมื่อทางรถไฟสายตะวันออกตะวันตก เสร็จสมบูรณ์ จะเกิดเมืองเศรษฐกิจสองข้างทางรถไฟ การขนส่งจากทางเรือมะลากาทางะวันตก ไปชายฝั่งตะวันออกจะสะดวกเร็ว และประหยัดกว่าการขนส่งทางเดิม ใช้เวลาเพียง 30 ชั่วโมง การขนส่งน้ำมันโลกจากตะวันออกกลาง จะตัดเข้าตรงท่าเรือบริเวณนี้ ไม่ต้องไปอ้อมช่องแคบมะละกา ผ่านสิงคโปร์อีกต่อไป ซึ่งโครงการทำนองนี้ ไทยก็เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น ในประเทศ โดยการสร้างทางเรือในฝั่งอันดามัน แล้วขนส่งสินค้าไปฝั่งตะวันออก แต่โครงการยังมีมีความชัดเจน เวลานี้มาเลเซียเดินหน้าไปก่อนแล้ว

สถาบันจีนศึกษาของมหาวิทยาลัยมาเลเซีย เปิดเผยข้อมูลว่า โครงการนี้เป็นการสร้างทางเลือกใหม่ให้กองเรือจีน ซึ่งเดิมนั้นต้องผ่านท่าเรือสิงคโปร์อย่างเดียว แต่ในโลกที่สถานการณ์ทางการทูตไม่แน่นอน สิงคโปร์เป็นมิตรแท้กับสหรัฐซึ่งไม่ค่อยถูกกับจีนนัก การมีท่าเรือใหม่ที่เมืองมะละกา ทำให้จีนปลอดภัยทางการค้ามากขึ้น

เวลานี้จีน ลงทุนในยุทธศาสตร์ทางสายไหมหใม่ หรือ one belt one road ไปแล้ว 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 1.7 ล้านล้านบาท ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดการค้าการลงทุนเพิ่ม 3 ล้านล้าน ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 105 ล้านล้านบาท

บริษัทเอกชนจีนจะเข้ามาลงทุนในหลายท่าเรือคือ
1 โครงการ Melaka Gateway 7,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 250,000 ล้านบาท
2 โครงการท่าเรือ Linggi Port 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 50,000 ล้านบาท
3 โครงการท่าเรือ Penang Port และ Kuantan port 177 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 6,000 ล้านบาท

[youtube=640,390]http://www.youtube.com/watch?v=W7xtdC0ko1E[/youtube]

[youtube=640,390]http://www.youtube.com/watch?v=dMYd2e4oUfk[/youtube]

ที่มา Data & Images -

..