ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

การท่าเรือฯ จัดเสวนา Port of The Future ท่าเรือสู่ความเป็นเลิศ

เริ่มโดย mrtnews, ส.ค 24, 17, 06:28:03 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

เรือตรีทรงธรรม จันทประสิทธิ์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิศวกรรม รักษาการแทนผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานเสวนาวิชาการสู่ความเป็นเลิศในธุรกิจท่าเรือและโลจิสติกส์ ภายใต้หัวข้อ " PAT International Conference 2017 : Port of The Future" เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการบริหาร การพัฒนาองค์กรสมัยใหม่ เพิ่มศักยภาพเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำและโลจิสติกส์เชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยสู่อาเซียน โดยมีผู้แทนภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม อย่างไรก็ตาม เพื่อเตรียมความพร้อมของท่าเรือให้สามารถบรรลุเป้าหมาย โดยนำเสนอกรณีศึกษาการพัฒนาท่าเรือสู่ความเป็นท่าเรือระดับโลก (World Class Port) รูปแบบการบริหารจัดการองค์กรที่ทันสมัย การปรับตัวของท่าเรือชั้นนำเพื่อรองรับพลวัตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาชั้นนำของโลกด้านธุรกิจเรือ มาถ่ายทอดประสบการณ์และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น รวมทั้งแนวคิดหรือมุมมองใหม่ๆในอุตสาหกรรมท่าเรือ และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง


ทั้งนี้ การท่าเรือแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนาท่าเทียบเรือ ทั้ง 2 แห่ง ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือกรุงเทพ โดยเป็นการปรับปรุงพัฒนาบริเวณท่าเรือกรุงเทพ จำนวน 4 โครงการ เน้นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ส่วนท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งบริหารโดยภาคเอกชนมีการให้บริการที่มีคุณภาพเทียบเท่าท่าเรือในต่างประเทศ และท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีซึ่งขณะนี้มีโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 2 และเฟสที่3 เพื่อรองรับการเติบโตของท่าเรือแหลมฉบังพร้อมพัฒนาระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสม เพื่อเป็นการสอดคล้องแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ เพื่อการเชื่อมโยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการยกระดับโลก เนื่องจากขณะนี้การแข่งขันด้านการขนส่งทางน้ำค่อนข้างสูง


นอกจากนี้ เรือตรีทรงธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือระยที่3 (เฟส3) แหลมฉบัง ว่าที่ผ่านมากทท.ได้มีการศึกษารายละเอียดและออกแบบโครงการเรียบร้อยแล้ว แต่ขณะนี้ต้องทำการทบทวนการออกแบบใหม่ เนื่องจากจะต้องทำแผนเพื่อการรองรับการขนส่งให้สอดคล้องกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC ) ซึ่งก่อนหน้านี้การออกแบบรายละเอียดนั้น จะสามารถรองรับสินค้าได้ 1ล้านตู้ทีอียู แต่หากมีการเชื่อมต่อกับEECศักยภาพการรองรับสินค้าสูงถึง 4 ล้านตู้ทีอียู รวมถึงการเชื่อมต่อทางรถไฟ ส่วนจะต้องศึกษาHIAใหม่หรือไมนั้น จะต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง หากมีผลกระทบก็ต้องศึกษาใหม่  สำหรับแผนการก่อสร้างคาดว่าจะสามารถเริ่มได้ประมาณปี 2562 โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้าง2ปี หากว่าแล้วเสร็จก็จะเพิ่มศักยภาพด้านการขนส่งทางน้ำได้เป็นอย่างดี



ที่มา Data & Images -





..