ญี่ปุ่นลงมติทำลายแยกชิ้นส่วนเรือประมง สัญลักษณ์สึนามิเมื่อปี 2554

[mrtnews]

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองเคเซนนูมะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 56 ว่า เมืองเคนเซนนูมะ เขตมิยากิ ประเทศญี่ปุ่น ได้ตัดสินใจแยกชิ้นส่วนเรือประมงที่ถูกปล่อยทิ้ง จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเสียหายจากคลื่นยักษ์สึนามิที่ถล่มญี่ปุ่นเมื่อปี 2554 โดยประชาชนในเมืองดังกล่าว ต่างมีมติเห็นชอบให้ถอนแยกชิ้นส่วนเรือ "เกียวโตกุ มารุ หมายเลข 18" ที่ถูกคลื่นยักษ์ซัดขึ้นไปเกยอยู่บนฝั่งหลังแผ่นดินไหวรุนแรง ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นเคยมีแผนการที่จะเก็บเรือลำนี้ไว้เป็นอนุสรณ์

คลื่นยักษ์สึนามิและแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย มากกว่า 18,000 คนในญี่ปุ่น โดยแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ริกเตอร์ ซึ่งรุนแรงที่สุดของญี่ปุ่นตั้งแต่มีการเริ่มจดบันทึก ยังส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิชิด้วย

แผ่นดินไหวครั้งนี้ อยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 400 กิโลเมตร คลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นตามมา ถาโถมเข้าถล่มชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู กวาดรถยนต์ เรือและอาคารบ้านเรือนลงทะเล และชุมชนชายฝั่งทะเล ถูกคลื่นซัดราบเป็นหน้ากลอง ซึ่งเมืองเคเซนนูมะ ที่มีประชากรประมาณ 70,000 คน เห็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดจากสึนามิ

หลังจากภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้สงบลง ประชาชนก็หลั่งไหลไปดูเรือประมงยาว 60 เมตรที่ถูกทิ้งไว้ลำนี้ เพื่อสวดมนต์ ถ่ายรูป และวางดอกไม้รำลึกถึงผู้เสียชีวิต

ที่มา -



ญี่ปุ่นลงมติทำลายเรือประมง "เกียวโตคุ มารุ หมายเลข 18" สัญลักษณ์สึนามิ 2011

ทางการญี่ปุ่นตัดสินใจทำลายเรือประมงที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2011

ชาวเมืองเคเซนนูมะ ในจังหวัดมิยางิ ได้ลงประชามติให้ทำลายเรือเกียวโตคุ มารุ หมายเลข 18 (Kyotoku-maru no.18) ขนาด 330 ตัน ที่ถูกคลื่นยักษ์สึนามิพัดจากท่าเรือมาไกลถึง 750 เมตร ขึ้นมาเกยตื้นบริเวณใจกลางเมือง แม้ก่อนหน้านี้จะมีการเสนอให้อนุรักษ์เรือดังกล่าวเพื่อเป็นอนุสาวรีย์ก็ตาม

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ริกเตอร์นอกชายฝั่งตะวันออกของเกาะฮอนชู ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 18,000 คน และสูญหายอีกจำนวนมาก เหตุการณ์ครั้งนั้นยังกระทบต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ จนเกิดการรั่วไหลของสารรังสีจำนวนมาก ขณะที่เมืองเคเซนนูมะ ที่ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแปซิฟิค ซึ่งมีประชากรราว 70,000 คน กลายเป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด

หลังจากเหตุการณ์ผ่านพ้นไป ผู้คนทั่วสารทิศได้เดินทางมาชมเรือประมงขนาดความยาว 60 เมตรลำนี้ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางพื้นที่โล่ง บางคนได้ร่วมสวดภาวนา ถ่ายภาพ และวางช่อดอกไม้

โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน ชาวเมืองส่วนใหญ่ลงมติให้ทำลายเรือลำนี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยว่า ชาวเมืองเกือบร้อยละ 70 ลงมติที่จะมติที่จะทำลายเรือเนื่องจากไม่ต้องการเก็บเอาไว้เป็นอนุสรณ์ นางโยชิมิ อาเบะ วัย 72 ปี ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวว่า เรือลำนี้คอยย้ำเตือนให้ระลึกถึงหายนะในครั้งนั้น ทุกเช้าเมื่อเธอเดินผ่านเรือลำนี้ ก็จะรู้สึกปวดใจทุกครั้งไป

ผลการลงประชามติระบุว่า ประชาชนร้อยละ 68 หรือ 9,622 คน จากผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 14,083 คน ลงมติให้ทำลายเรือ และมีเพียงร้อยละ 16 ที่ต้องการให้เก็บไว้

ด้านนายชิเงรุ ซางาวาระ นายกเทศมนตรีเมืองเคเซนนูมะ แสดงความผิดหวังที่เรือลำดังกล่าวจะต้องถูกทำลาย แม้เขาจะมองว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของเหตุการณ์ครั้งนั้น แต่เมื่อเป็นความเห็นส่วนใหญ่ของคนที่นี่ก็ต้องยอมรับ

รายงานระบุว่า เรือลำนี้จะถูกแยกชิ้นส่วนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ด้านสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า องค์กรการกุศลที่ไม่หวังผลกำไร ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการรีไซเคิลเรือ ได้รับการติดต่อให้ทำหน้าที่รื้อเรือเกียวโตคุ มารุ หมายเลข 18 ที่เป็นของบริษัทงิสุเกะ เกียวโงะ ในจังหวัดฟูกุชิมะ

ที่มา -

[youtube=640,390]http://www.youtube.com/watch?v=E_Ti6_oKo-U[/youtube]