บอร์ด กทท. สั่งศึกษาแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบใหม่

[mrtnews]

บอร์ดการท่าเรือฯสั่งศึกษารอบใหม่แผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ หลังรัฐบาลมีแผนสร้างศูนย์ราชการในพื้นที่ วงในเผยทำเลไม่เหมาะจึงต้องศึกษาความเหมาะสมก่อนเสนอครม.เห็นชอบ

ส่วนแผนย้าย 43 ชุมชนขึ้นแนวสูงอาจเป็นความฝันอีกหลายปีเหตุต้องรอผลกำไรจากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อใช้ลงทุน ล่าสุดเตรียมชงบอร์ดปรับอนุฯทรัพย์สินเป็นคณะกรรมการชุดใหญ่เพิ่มอำนาจการพิจารณา   

แหล่งข่าวระดับสูงคณะกรรมการ (บอร์ด) การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าได้ให้มีการศึกษาแผนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบใหม่อีกครั้ง เนื่องจากต้องมีการถอยร่นพื้นที่หลายส่วนเพื่อปรับพื้นที่รองรับการสร้างศูนย์ราชการ โดยได้มีแบ่งแนวทางการพัฒนาพื้นที่เป็น 3-4 ส่วนหลัก ๆคือ  1.พื้นที่เชิงพาณิชย์(อยู่ด้านหน้ากทท.และโซนใกล้อาคารสำนักงานกทท.) 2.พื้นที่ก่อสร้างศูนย์ราชการ(โซนโกดังสินค้าริมแม่น้ำ) และ 3.พื้นที่ทำการกองเก็บสินค้าและตู้คอนเทนเนอร์(โซนด้านในสุดคาบเกี่ยวพื้นที่โกดังเก็บน้ำมันปตท.กว่า 100 ไร่) ล่าสุดได้ขอแบ่งพื้นที่เพิ่มให้เป็นพื้นที่สาธารณะ บริเวณริมน้ำสำหรับประชาชนทั่วไป จึงเป็น 4 พื้นที่หลัก ๆในการนำเสนอเห็นชอบต่อไป หากผลการศึกษารอบใหม่เรียบร้อยแล้วมีแนวคิดเพิ่มเติมอย่างไรก็จะได้นำไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาต่อไป

"พื้นที่เชิงพาณิชย์โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ใกล้ถนน ส่วนพื้นที่สินค้าเข้าไปอยู่ด้านใน ส่วนโซนกลางจะใช้ก่อสร้างศูนย์ราชการ ซึ่งโซนสินค้าจะคาบเกี่ยวพื้นที่เช่าของปตท.ที่จะครบสัญญาในปลายปี 2557 ซึ่งกทท.จะไม่ต่อสัญญาให้อีก โดยพื้นที่เชิงพาณิชย์กระทรวงการคลังให้รอนโยบายการสร้างศูนย์ราชการก่อน ทั้งนี้แนวคิดส่วนตัวเห็นว่าการย้ายศูนย์ราชการมาตั้งอยู่ในท่าเรือนี้มีความเป็นไปได้น้อยมากเพราะไม่มีความเหมาะสมในหลายๆด้าน ไม่สง่างาม อยู่ไกลจากเกียกกาย โดยเห็นว่าแผนพัฒนาเดิมนั้นหากส่วนไหนพร้อมแล้วก็น่าจะเร่งพัฒนาทันทีเพราะต้องการหารายได้  เช่นเดียวกับโครงการสร้างคอนโดฯแนวสูงรับ 43 ชุมชนซึ่งจะเป็นรายจ่ายจากการพัฒนาจึงต้องรอการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้มีผลกำไรก่อนจึงค่อยไปดำเนินการ ทั้งนี้โจทย์การศึกษาที่ผ่านมาไม่มีศูนย์ราชการเข้ามาเป็นตัวแปล จึงต้องศึกษาใหม่ว่าจะกระทบกับแผนเดิมอย่างไร ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาไว้ว่าจะเสร็จเมื่อใดคณะกรรมการต้องไปเร่งดำเนินการ ล่าสุดทราบว่าได้อนุมัติประมาณเพื่อการศึกษาในส่วนนี้แล้ว"

ที่มา -