คณะ กมธ. แรงงาน เตรียมผลักดันอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล

[mrtnews]

ศูนย์ข่าวศรีราชา – คณะ กมธ.แรงงาน เตรียมผลักดันอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล ชี้หากล่าช้าประเทศชาติจะเสียหายหลายหมื่นล้านบาท

   
วันนี้ (20 ก.ย.56) นายเรวัต อารีรอบ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎรและคณะอนุกรรมาธิการติดตามศึกษาเชิงนโยบายและกฎหมายแรงงาน กล่าวหลังจากเดินทางมาเยี่ยมชมท่าเรือแหลมฉบัง ถึงสถานการณ์ของ ประเทศไทยต่อการอนุวัติการณ์ตามอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล ค.ศ. 2006 เนื่องจากกองเรือไทยที่ส่งสินค้าเข้า-ออก สู่ทั่วโลกนั้น ซึ่งมีการลงทุนนับแสนล้านบาท แต่ยังไม่มีกฎหมายแรงงานทางทะเลดังกล่าว
   
สำหรับกฎหมายว่าด้วยแรงงานทางทะเล นั้นหากประเทศไทยไม่ดำเนินการตามอนุสัญญาดังกล่าว ท่าเทียบเรือต่างๆทั่วโลกอาจจะไม่ให้กองเรือไทยเข้าเทียบท่าในประเทศนั้นๆได้ ซึ่งจะสร้างความเสียหายเป็นอย่างมากหากไม่สามารถส่งสินค้าไปยังนานาประเทศได้

ขณะนี้กองเรือไทยได้แก้ไขปัญหาเบื้องต้น โดยกองเรือไทยไปจดสัญชาติที่ประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากประเทศสิงคโปร์ได้ลงสัตยาบรรณแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวและทางกระทรวงแรงงานได้ออกกฎกระทรวง เพื่อรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ใช่ฉบับที่สมบูรณ์ เพราะไม่ใช่กฎหมายก็ยังหวั่นเกิดปัญหาได้

   
นายเรวัต กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้ ถือว่าสำคัญมาก เนื่องจากการส่งสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นทางทะเล ดังนั้นจะต้องมีกฎหมายหรืออนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล ขึ้นมารองรับ เนื่องจากหลายประเทศทั่วโลกดำเนินการไปแล้ว แต่ประเทศไทยยังไม่ดำเนินการ เนื่องจากทางรัฐบาลยังไม่ให้ความสนใจเรื่องดังกล่าวเท่าที่ควร
   
"ตนและผู้ประกอบการเดินเรือ ร่วมกันเร่งผลักดัน ให้กฎหมายดังกล่าวเกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพราะขณะนี้ประเทศไทย ได้รับผลกระทบและเสียรายได้ เนื่องจากจะต้องไปจดสัญชาติเรือที่ต่างประเทศ ดังนั้นจะต้องเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว และขณะนี้ทราบว่าอยู่ในขั้นตอนกฤษฎีกา เพื่อออกเป็นกฎหมายต่อไป แต่ยังไม่ทราบว่าในอีกกี่ปีถึงจะสำเร็จ แต่ พรบ.ฉบังนี้ ล่าช้าจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศชาติ อย่างมหาศาล " นายเรวัต กล่าว

ที่มา -