กรมศุลกากร จ.ภูเก็ต ร่วมกับ ทร.ภาค 3 จับกุมเรือขนน้ำมันเถื่อน

[mrtnews]

ที่ท่าเรือศุลกากรภูเก็ต นายเจริญ ชำนิการ หัวหน้าหน่วยสืบสวนและปราบปราม ดร.สงบ สิทธิเดช นักวิชาการชำนาญการ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมเรือประมงดัดแปลงสีขาว 1 ลำ และน้ำมันดีเซลลักลอบหนีภาษีศุลกากร จำนวน 10,000 ลิตร มูลค่ากว่า 6 แสนบาท

นายเจริญ กล่าวว่า ตามที่กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบ หลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อจำกัด เพื่อความเป็นธรรมในการเก็บภาษี ปกป้องสังคม และสิ่งแวดล้อม นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นผู้อำนวยการแผน พร้อมด้วยพล.ร.ท. ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล.เขต 3 และด่านศุลกากรภูเก็ต เข้าร่วมสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามตามแผนดังกล่าว

เมื่อเวลา 17.30 น. ของวันที่ 12 ตุลาคม 2556 เจ้าหน้าที่ศุลกากร หน่วยสืบสวนปราบปรามภูเก็ต ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ศรชล. เขต 3 ทัพเรือภาคที่ 3 สามารถจับกุมเรือประมงดัดแปลงสีขาว 1 ลำ ชื่อ "ทรัพย์วิชัยนาวี" และน้ำมันดีเซล ที่ลักลอบหนีศุลกากร จำนวน 10,000 ลิตร มูลค่ารวม 600,000 ได้ที่บริเวณแลตติจูด 08 องศา 01 ลิปดา 06 ฟิลิปดาเหนือ ลองจิจูด 98 องศา 46 ลิปดา 09 ฟิลิปดาตะวันออก ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมาขณะแล่นอยู่ในน่านน้ำอันดามัน จึงเข้าตรวจสอบ ซึ่งมีนายสัมฤทธิ์ ทองใส เป็นผู้ควบคุมเรือ พร้อมด้วยลูกเรืออีกจำนวน 2 คน เหตุเกิดบริเวณ ต.หนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่  โดยผู้ต้องหาสารภาพว่า มีนายทุนสัญชาติไทยเป็นผู้ว่าจ้างให้มารับซื้อขายน้ำมันหลบหนีภาษีศุลกากรบริเวณจังหวัดกระบี่

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฏหมายศุลกากรฐานลักลอบนำสินค้าน้ำมันดีเซล รับซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด โดยไม่เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องจำกัดหรือของไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง จึงได้ยึดน้ำมัน เรือประมงดัดแปลง เป็นของกลาง พร้อมจับกุมตัวลูกเรือจำนวน 2 คน เป็นผู้ต้องหานำส่งด่านศุลกากรภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ที่มา -



กรมศุลฯร่วมกับทร.ภาค 3 จับกุมเรือประมงขนน้ำมันเถื่อน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ ( 14 ต.ค.56 ) ที่ท่าเรือศุลกากรภูเก็ต นายเจริญ ชำนิการ หัวหน้าหน่วยสืบสวนและปราบปราม ดร.สงบ สิทธิเดช นักวิชาการชำนาญการ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมเรือประมงดัดแปลงสีขาว 1 ลำ และน้ำมันดีเซลลักลอบหนีภาษีศุลกากร จำนวน 10,000 ลิตร มูลค่ากว่า 6 แสนบาท

นายเจริญ กล่าวว่า ตามที่กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบ หลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อจำกัด เพื่อความเป็นธรรมในการเก็บภาษี ปกป้องสังคม และสิ่งแวดล้อม นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นผู้อำนวยการแผน พร้อมด้วยพล.ร.ท. ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล.เขต 3 และด่านศุลกากรภูเก็ต เข้าร่วมสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามตามแผนดังกล่าว

โดยเมื่อเวลา 17.30 น. ของวันที่ 12 ตุลาคม 2556 เจ้าหน้าที่ศุลกากร หน่วยสืบสวนปราบปรามภูเก็ต ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ศรชล. เขต 3 ทัพเรือภาคที่ 3 สามารถจับกุมเรือประมงดัดแปลงสีขาว 1 ลำ ชื่อ "ทรัพย์วิชัยนาวี" และน้ำมันดีเซล ที่ลักลอบหนีศุลกากร จำนวน 10,000 ลิตร มูลค่ารวม 600,000 ได้ที่บริเวณแลตติจูด 08 องศา 01 ลิปดา 06 ฟิลิปดาเหนือ ลองจิจูด 98 องศา 46 ลิปดา 09 ฟิลิปดาตะวันออก ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมาขณะแล่นอยู่ในน่านน้ำอันดามัน จึงเข้าตรวจสอบ ซึ่งมีนายสัมฤทธิ์ ทองใส เป็นผู้ควบคุมเรือ พร้อมด้วยลูกเรืออีกจำนวน 2 คน เหตุเกิดบริเวณ ต.หนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่  โดยผู้ต้องหาสารภาพว่า มีนายทุนสัญชาติไทยเป็นผู้ว่าจ้างให้มารับซื้อขายน้ำมันหลบหนีภาษีศุลกากรบริเวณจังหวัดกระบี่

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฏหมายศุลกากรฐานลักลอบนำสินค้าน้ำมันดีเซล รับซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด โดยไม่เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องจำกัดหรือของไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง จึงได้ยึดน้ำมัน เรือประมงดัดแปลง เป็นของกลาง พร้อมจับกุมตัวลูกเรือจำนวน 2 คน เป็นผู้ต้องหานำส่งด่านศุลกากรภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ที่มา -



จับเรือประมงขนน้ำมันเถื่อน10,000 ลิตรกลางทะเลอันดามัน

ภูเก็ต 14 ต.ค. 56 - นายสงบ สิทธิเดช หัวหน้าฝ่ายบริการ ด่านศุลกากรภูเก็ต พร้อมนายเจริญ ชำนิกลาง หัวหน้าสืบสวนปราบปรามภูเก็ต (กรมศุลกากร) ร่วมแถลงจับกุมเรือประมงดัดแปลง "ทรัพย์วิชัยนาวี" บริเวณน่านน้ำ ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ยึดของกลางน้ำมันดีเซลหนีภาษี จำนวน 10,000 ลิตร มูลค่า 600,000 บาท และควบคุมตัวนายสัมฤทธิ์ ทองใส ผู้ควบคุมเรือ พร้อมลูกเรือสัญชาติไทยอีก 2 คน ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพว่ามีนายทุนสัญชาติไทยว่าจ้างให้มารับซื้อน้ำมันเถื่อน

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดกฎหมายศุลกากรฐานลักลอบนำสินค้าน้ำมันดีเซล หรือ รับซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เสียภาษี ของต้องห้าม ของกำกัด หรือของที่ไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง อันเป็นความผิดตามมาตรา 27 ,27 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบกับมาตรา 16,17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482.

ที่มา -