ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา อาหาร ยา และเครื่องสำอางค์ รวมถึงสมุนไพรทุกชนิด ไม่ว่าจะมี อย. หรือไม่  เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

SGP มั่นใจผลงาน Q3/56 พลิกเป็นกำไร ย้ำเป้าหมายรายได้ปีนี้แตะ 60,000 ลบ.แน่นอน

เริ่มโดย mrtnews, ต.ค 21, 13, 21:28:50 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

"SGP" ส่งสัญญาณ ผลงาน Q3/56 มีแนวโน้มเติบโตสวย และพลิกมีกำไรหลังครึ่งปีแรกขาดทุนสุทธิ ชี้ช่วงครึ่งปีหลังราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความต้องการผู้ใช้ก๊าซยังมีอยู่มาก หนุนผลงานครึ่งปีหลังไฉไลกว่าครึ่งปีแรก เหตุเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ มั่นใจผลงานทั้งปีเข้าเป้าที่วางไว้ รายได้เติบโตแตะ 60,000 ลบ.ตามที่คาด ส่วนกำไรเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน "จินตณา กิ่งแก้ว" รองกรรมการผู้จัดการ ย้ำธุรกิจบริษัทฯ แข็งแกร่งในอนาคต หลังเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศต่อเนื่องเพื่อขยายธุรกิจ พร้อมเผยว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาดีลซื้อคลังก๊าซเพิ่มอีก 1 แห่งในประเทศแถบอาเซียน คาดได้ข้อสรุปปีนี้แน่นอน


นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP ผู้ประกอบธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว(ก๊าซ LPG) ทั้งในและนอกประเทศ ธุรกิจแอมโมเนีย และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอื่นๆ ภายใต้เครื่องหมายการค้า "สยามแก๊ส" และ "ยูนิคแก๊ส" รวมถึงประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งทางรถและทางเรือ ได้เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2556 คาดว่าบริษัทฯ จะมีผลการดำเนินงานเติบโตที่ดีเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกที่ผ่านมาทั้งยอดขายและผลกำไร เนื่องจากการปรับตัวของราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก

ในไตรมาสที่ 3 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 เดือนต่อเนื่อง ส่งผลให้สินค้าคงเหลือของธุรกิจในต่างประเทศได้รับประโยชน์จากการปรับตัวขอราคาในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งความต้องการใช้ก๊าซ LPG ทั้งในและต่างประเทศมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน จึงคาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ภาพรวมผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังของบริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตที่ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก อีกทั้ง จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่วางไว้ว่าจะเติบโตราว 60,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 47,751.88 ล้านบาท และคาดว่ากำไรสุทธิจะมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 817.05 ล้านบาท

"ปกติแล้วในครึ่งปีหลังถือเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ โดยคาดว่าผลงานที่จะออกมาในไตรมาสที่ 3/2556 ก็พอจะเห็นแนวโน้มในทิศทางที่ดีจากการใช้ก๊าซ LPG เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยในประเทศเองนั้นก๊าซ LPG ถือเป็นพลังงานหลักในด้านการนำไปใช้เชื้อเพลิงในการทำอาหาร และยังเป็นพลังงานทางเลือกในด้านการขนส่งและด้านอุตสาหกรรมที่มีความสะดวกในการใช้งาน และรักษาสิ่งแวดล้อมมากกว่าพลังงานชนิดอื่น ส่งผลให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและภาคขนส่งหันมาใช้ก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น สำหรับในส่วนของตลาด LPG ในต่างประเทศ ถือเป็นช่วงที่เริ่มจะเข้าสู่ฤดูหนาว การสำรองพลังงานเพื่อที่จะใช้จึงเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งจะดันให้มีปริมาณความต้องการใช้ก๊าซ LPG ในการทำความร้อนมากขึ้น บริษัทฯ จึงมีความมั่นใจว่า

ผลประกอบการในไตรมาส 3/2556 จะกลับมามีกำไรได้ หลังจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีผลประกอบการที่ขาดทุน แต่โดยรวมทั้งปีแล้ว บริษัทฯ ยังคงคาดว่าผลงานจะสามารถเติบโตได้ดีกว่าปีที่ผ่านมาได้" นางจินตณา กล่าว

นางจินตนา กิ่งแก้ว กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ธุรกิจของบริษัทฯ มาจากในประเทศร้อยละ 40 และมาจากต่างประเทศร้อยละ 60 และคาดว่าสัดส่วนรายได้ในต่างประเทศจะยังคงเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต เนื่องจากโอกาสทางธุรกิจในตลาดต่างประเทศยังมีอยู่อีกมากที่บริษัทฯ จะสามารถขยายออกไปได้


อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้มีการเจรจาซื้อคลังก๊าซเพิ่มอีก 1 แห่งในประเทศแถบอาเซียน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ อีกทั้งยังพร้อมรุกตลาดต่างประเทศในแถบอาเซียนเพิ่มเติมอีกเมื่อมีโอกาสที่ดี และมีดีลที่น่าสนใจ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะเข้ามาสนับสนุนผลประกอบการบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ในอนาคต

"หากบริษัทฯ ยังคงขายก๊าซแต่ในประเทศเพียงอย่างเดียว ก็จะเติบโตขึ้นได้เพียงเล็กน้อยตามตลาดเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอกับศักยภาพที่บริษัทฯมีอยู่ การออกไปเติบโตในตลาดต่างประเทศจึงเป็นเป้าหมายหลักต่อไป เรามองเห็นการเติบโต และความต้องการใช้ก๊าซในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบภูมิภาคนี้ จึงได้เริ่มรุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เวียดนาม สิงคโปร์ จีน และมาเลเซีย สนับสนุนให้รายได้รวมของธุรกิจในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ถึงกระนั้นบริษัทฯ ก็ยังคงมีการตั้งงบลงทุนในการเข้าไปซื้อคลังก๊าซและโรงบรรจุก๊าซ รวมถึงการขยายร้านค้าเพื่อจัดจำหน่ายลงไปในระดับค้าปลีกในต่างประเทศเพิ่มเติมอีก เพื่อที่จะทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการสินค้าและคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ต้นน้ำคือการขายแบบค้าส่งขนาดใหญ่ จนถึงปลายน้ำคือการจำหน่ายถึงผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งจะช่วยให้บริษัทได้มาร์จิ้นที่สูงขึ้นมากกว่าในปัจจุบัน และจะช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของราคา LPG ตลาดโลกด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศจึงยังถือเป็นกลยุทธ์หลักที่สำคัญในการขยายธุรกิจของบริษัทต่อไป" นางจินตนา กล่าวในที่สุด

ที่มา -