ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

สนพ. ดันสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ่อเลิกใช้ก๊าซ ปลุกผีแลนด์บริจด์

เริ่มโดย mrtnews, ต.ค 24, 13, 19:47:40 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สนพ.ปรับแผนไฟฟ้าระยะยาวของประเทศใหม่ ยื้อค่าไฟฟ้าอีก 20 ปีไม่ให้เกิน 4.50 บาทต่อหน่วย จ่อเลิกโรงไฟฟ้าก๊าซออกจากระบบ 13,000 เมกะวัตต์ ดันให้เอกชนสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแทนและปรับซื้อไฟฟ้าต่างประเทศเพิ่ม รองรับความต้องการใช้ 7 หมื่นเมกะวัตต์ ด้านโครงการท่อน้ำมันแลนด์บริจด์จ่อเสนอ รมว.พลังงานดึงต่างชาติลงทุน 6 พันล้าน ด้าน กบง.รีดเงินผู้ค้าดีเซลเข้ากองทุนฯ เพิ่ม 50 สตางค์ต่อลิตร


นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า สนพ.กำลังจัดทำแผนไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี (2556-2576) ฉบับใหม่ (พีดีพี 2013) โดยพยายามคงราคาค่าไฟฟ้าให้อยู่ระดับ 4.50บาทต่อหน่วยในช่วงปลายของแผน ดังนั้น สนพ.จึงได้ปรับรายละเอียดในแผนพีดีพีใหม่ เป็น 3 แนวทาง ได้แก่ กรณีที่ 1.แนวทางการยกเลิกสร้างโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติลงในช่วงปลายปี พีดีพีจำนวน 13,000 เมกะวัตต์ จากเดิมกำหนดไว้ทั้งสิ้น 25,451 เมกะวัตต์ หรือ 56%ของการใช้เชื้อเพลิงทั้งหมด และปรับเปลี่ยนไปซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านให้มากกว่า 15% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ

กรณีที่ 2 ยกเลิกการบรรจุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2,000 เมกะวัตต์ ช่วงปลายแผนออกไปโดยมีแนวทางสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินและซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศเพิ่ม หรือผลิตไฟฟ้าจากหญ้าเลี้ยงช้าง 3,000 เมกะวัตต์แทน แต่ต้องปรับแก้ปัญหาเรื่องสายส่งไฟฟ้าให้รองรับการซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มรวมทั้งทำระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (สมาร์ทกริด)

กรณีที่ 3 หากโรงไฟฟ้าถ่านหิน 4,400 เมกะวัตต์ที่รัฐบาลมอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างแต่ไม่สามารถก่อสร้างได้เพราะถูกต่อต้านจากชาวบ้านอาจต้องปรับแผนให้ภาคเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) เป็นผู้ดำเนินการแทน และหากโรงไฟฟ้าถ่านหินโรงแรกที่จะก่อสร้างในจังหวัดกระบี่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ สนพ.อาจต้องหารือกับผู้บริหารกระทรวงพลังงานว่าจะปรับเปลี่ยนมาซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศแทน หรือจะใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน เป็นต้น

สำหรับผลการศึกษาโครงการสร้างท่อส่งน้ำมันฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย หรือโครงการแลนด์บริดจ์ในภาคใต้นั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วและเสนอให้นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพิจารณา โดยศึกษา 2 เส้นทางเชื่อมอันดามัน-อ่าวไทย ได้แก่ เส้นทางกระบี่- ขนอม จ.นครศรีธรรมราช และเส้นทางปากบาราจังหวัดสตูล-สงขลา โดยจะมีการสร้างท่อน้ำมันขนาด 46 นิ้ว และ 52 นิ้ว และมีคลังน้ำมันทั้งด้านอันดามันและอ่าวไทย คาดจะใช้เงินลงทุน 6 พันล้านบาท ซึ่งจะมีการเชิญชวนเอกชนจากจีน ญี่ปุ่น และตะวันออกกลางเข้ามาร่วมทุน เพราะโครงการนี้จะเป็นสำรองน้ำมันสร้างความมั่นคงของทั้งไทยและจีนญี่ปุ่น

นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงานกล่าวว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้ผู้ค้าดีเซลส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร จากเดิมเรียกเก็บอยู่ 60 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ผู้ค้าดีเซลต้องส่งเงินเข้ากองทุนฯ รวมเป็น 1.10 บาทต่อลิตร ทั้งนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง ทำให้ผู้ค้าน้ำมันได้ค่าการตลาดสูงเกิน 1.50 บาทต่อลิตร จึงต้องปรับลดค่าการตลาดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงราคาจำหน่ายหน้าปั๊มแต่อย่างใด โดยยังคงจำหน่ายที่ 29.99 บาทต่อลิตรต่อไป

รายงานข่าวจากผู้ค้าน้ำมันแจ้งว่า ค่ายน้ำมัน ปตท.และบางจาก ได้ประกาศปรับลดราคาจำหน่ายน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 20 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้นแก๊สโซฮอล์อี 85 และดีเซลคงราคาเดิม โดยจะมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.ของวันที่ 22 ต.ค.2556 ส่งผลให้ราคาหน้าปั๊มเปลี่ยนแปลงดังนี้.

ที่มา -