ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา หาเงินทางเน็ต งาน Part-time MLM ทุกรูปแบบ ธุรกิจที่มี downline ปั่นลิก์ SEOเด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

จี้ลาวลุยมาเฟียน้ำโขงรีดเรือสินค้าไทย

เริ่มโดย mrtnews, พ.ย 07, 13, 19:39:06 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

เชียงราย - กระทรวงการต่างประเทศจี้ลาวตรวจสอบมาเฟียลุ่มน้ำโขงร่อนจดหมายรีดค่าคุ้มครองเรือสินค้าไทย ผู้ประกอบการไทยอย่ารีบจ่ายเงินให้จนกว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจน


นายนาวิน บุญเสรฐ เลขานุการ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกรณีมีการอ้างตัวเป็นกลุ่มจัดระเบียบเรือสินค้าน้ำโขงที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายมาเฟียเรียกค่าคุ้มครอง ส่งจดหมายตีตราประเทศลาวส่งมายังผู้ประกอบการเรือสินค้าไทยด้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ขอเรียกเก็บค่าคุ้มครองการเดินเรือในน่านน้ำโขงด้านสามเหลี่ยมทองคำ จนทำให้ผู้ประกอบการหวั่นเกรงไม่ปลอดภัย ว่า ขณะนี้ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว มีความเป็นห่วงผู้ประกอบการไทยมาก

นายนาวินกล่าวว่า ได้ให้หอการค้า จ.เชียงรายทำหนังสือร้องเรียนเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมแนบเอกสารจดหมายเรียกค่าคุ้มครองมาด้วย เพื่อที่กระทรวงการต่างประเทศจะได้ประสานไปยังประเทศลาว ใช้ระดับการทูตของสองประเทศเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าการเรียกค่าคุ้มครองดังกล่าวมาจากคำสั่งใคร หรือเป็นการแอบอ้างของกลุ่มบุคคลหรือไม่ ซึ่งในช่วงที่ยังไม่มีความชัดเจน หรือยังไม่มีการยืนยันใดๆ จากทางลาว ขอให้ผู้ประกอบการอย่าเพิ่งจ่ายเงินใดๆ ทั้งสิ้น

ด้านนายโอฬาร ไชยประวัต ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับคำสั่งจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ติดตามความคืบหน้าพื้นที่เศรษฐกิจที่ จ.เชียงราย กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการแล้ว แต่จะต้องให้กระทรวงการต่างประเทศประสานไปยังลาวให้กระจ่างโดยเร็วที่สุด เพราะถ้าล่าช้าจะมีความเสียหายด้านการค้าและการส่งออกระหว่างประเทศได้


ทั้งนี้ มาเฟียลุ่มแม่น้ำโขงได้ส่งจดหมายถึงผู้ประกอบการเรือขนสินค้าของไทย หลังจากมีการตั้งกลุ่มเรือเร็วรับ-ส่งสินค้าจาก อ.เชียงแสน ไปถึงสิบสองปันนา ประเทศจีน เรียกเก็บค่าคุ้มครองเรือเครื่องเย็น 2 ตู้ 9,000 บาทต่อเที่ยว เรือเครื่องเย็น 1 ตู้ เที่ยวละ 52,000 บาท เรือบรรทุกวัว ควาย หมู 55,000 บาทต่อเที่ยว ส่วนเรือหางยาวหรือเรือเร็วเก็บเดือนละ 4,000 บาท หากวิ่งเรือเร็วต่อเที่ยวเก็บลำละ 1,000 บาท โดยจะเริ่มเก็บตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 ลงนามโดยบุคคล 6 คน เป็นภาษาลาว พร้อมมีเบอร์โทรศัพท์ให้ติดต่อที่ฝั่งลาวและเบอร์มือถือฝั่งไทยด้วย.

ที่มา -