"เอ็กซอนโมบิล" ชี้อีก 10 ปีข้างหน้า โลกใช้ก๊าซแซงถ่านหิน

[mrtnews]

ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 56 บริษัทเอ็กซอนโมบิล ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาและของโลก ได้เผยรายงานวิเคราะห์วิจัยตลาดพลังงานโลก ซึ่งระบุว่า โลกจะใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงผลิตพลังงานมากขึ้น จนถึงขั้นมากเป็นอันดับ 2 รองจากน้ำมันดิบ แต่แซงหน้าถ่านหิน ในอีกสิบปีข้างหน้า หรือราวปี 2568 ทั้งนี้ สืบเนื่องจากภาวะอุปสงค์อุปทานในตลาดที่แปรเปลี่ยนไป

นายบิล โคลตัน รองประธานฝ่ายวางแผนยุทธศาสตร์พลังงานของเอ็กซอนระบุว่า ผลพวงจากการพัฒนาเทคโนโลยีขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ ใต้ชั้นหินบาดาล ทำให้โลกสามารถขุดก๊าซธรรมชาติสำหรับใช้ผลิตพลังงานได้มากขึ้น ในขณะที่ก๊าซธรรมชาติสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าในจำนวนที่เท่ากัน แต่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ น้อยกว่าถ่านหินถึงครึ่งหนึ่ง รวมถึงที่ไม่มีหมอกควันไฟจากการเผาผลาญเหมือนอย่างถ่านหิน

รายงานชี้ว่า สำหรับพลังงานทดแทนต่างๆ ถึงแม้จะมีการหันไปใช้กันมากขึ้น แต่อัตราเติบโตยังคงน้อย เนื่องจากไม่สามารถผลิตพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนพลังงานนิวเคลียร์ก็ประสบปัญหาการเป็นที่ยอมรับจากประชาชนทั่วไป

ข่าวระบุว่า คำทำนายวิเคราะห์ของบริษัทเอ็กซอนแตกต่างจากความเชื่อของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ ที่ระบุว่าโลกจะยังใช้ถ่านหินแป็นแหล่งผลิตพลังงานมากกว่าก๊าซธรรมชาติ ไปจนถึงปี 2578 โดยเอ็กซอนเชื่อว่า ภาษีโลกร้อนหรือภาษีคาร์บอนในรูปแบบต่างๆ จะถูกทำให้สูงขึ้นถึงตันละ 60 ดอลลาร์ในปี 2573 ทำให้โลกหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติกันมากขึ้น จนกมากกว่าปัจจุบันถึง 65 เปอร์เซ็นต์ในราวปี 2583

ที่มา -