ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

ทางออกพลังงานโลกแห่งอนาคต ทางเลือกสำหรับประเทศไทย

เริ่มโดย mrtnews, ม.ค 03, 14, 19:44:25 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

คอลัมน์ แว่นขยายเศรษฐกิจ โดย ดร.พิสิทธิ์ พัวพันธ์ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ppuapan@gmail.com

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ราคาพลังงานได้ปรับตัวสูงขึ้นมาก สะท้อนความต้องการใช้พลังงานโลกที่เพิ่มขึ้น ซึ่งผมคิดว่า พวกเราคงจะทราบกันดีว่า ปริมาณเชื้อเพลิงฟอสซิลในโลกกำลังจะต้องลดลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งมีการประมาณการว่า โลกเรามีพลังงานถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ และน้ำมัน เหลืออีกประมาณ 70 ปี หรือแม้แต่แหล่งพลังงานของไทยเองก็คงต้องหมดลงในอนาคต เช่น กระทรวงพลังงานเปิดเผยข้อมูลว่าประเทศไทยมีปริมาณน้ำมันดิบสำรองที่พิสูจน์แล้วเหลือใช้อีก 3 ปี และปริมาณก๊าซธรรมชาติเหลือใช้อีก 7 ปี เป็นต้น


ดังนั้น แนวทางที่เศรษฐกิจโลกจะสามารถเดินหน้าขับเคลื่อน หลังยุคที่โลกเราไม่สามารถพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลอีกต่อไป จะต้องทำอย่างไร ?

นักวิจัยด้านพลังงานทั่วโลกกำลังพยายามที่จะพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานใหม่ ซึ่งวันนี้ผมจะขอลองสรุปนวัตกรรมแหล่งพลังงานแห่งโลกอนาคตดูนะครับ

(1) พลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศ แนวความคิดของการใช้พลังงานนี้จากนอกโลกเป็นที่พูดกันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 โดยการวางแผงเซลล์แสงอาทิตย์เข้าสู่วงโคจรโลก ซึ่งจะมีข้อดี คือไม่ต้องกังวลกับชั้นบรรยากาศ เมฆหมอก และก๊าซในชั้นบรรยากาศ และไม่สูญเสียการผลิตพลังงานในเวลากลางคืน

ในอดีตที่ผ่านมา ความพยายามจะสร้างดาวเทียมพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Power Satellite) ในชั้นนอกของบรรยากาศของโลก ดูเหมือนเป็นความคิดที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่พัฒนาการต่อเนื่องของดาวเทียมอาจทำให้เกิดขึ้นได้ในอนาคต เพื่อให้พลังงานแสงอาทิตย์เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งกลับสู่โลก

นักวิจารณ์บางคนอาจจะบอกว่า โครงการนี้จะมีต้นทุนสูงมาก และผลผลิตพลังงานน่าจะไม่สูงพอที่จะทำให้โครงการนี้มีความคุ้มค่า อย่างไรก็ตาม องค์การนาซ่า (NASA) ก็กำลังวิจัยแนวคิดนี้อยู่นะครับ

(2) การพัฒนาเหมืองพลังงานจากภูเขาไฟ ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์พยายามดึงพลังงานความร้อน จากหินร้อนที่อยู่ภายใต้โลก และรอบ ๆ ภูเขาไฟ โดยการฉีดน้ำเข้าไปในรอยแตกในพื้นดิน นักวิจัยหวังว่าพวกเขาจะสามารถที่จะสร้างไอน้ำเพื่อหมุนกังหันไฟฟ้าได้ครับ

(3) พลังงานคลื่นทะเล พลังงานคลื่นกำลังจะถูกนำมาใช้ทั่วโลก เงินลงทุนจำนวนมากได้ถูกนำมาสร้าง "ฟาร์มคลื่น (Wave Farm)" ในจุดต่าง ๆ ของโลก เช่น เมืองปอร์โตในประเทศโปรตุเกส โดยที่ "ฟาร์มคลื่น" นี้จะใช้ทุ่นขนาดใหญ่เพื่อเปลี่ยนพลังงานเคลื่อนไหวของคลื่นทะเลเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งข้อดีของพลังงานคลื่นจะคล้ายคลึงกับพลังงานลม คือไม่มีต้นทุน อีกทั้งกระแสคลื่นยังคาดการณ์ได้ดีกว่ากระแสลม โดยในปัจจุบัน อังกฤษถือเป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยีนี้ ขณะที่สหรัฐอเมริกา โปรตุเกส และฝรั่งเศส ก็เป็นประเทศที่เร่งพัฒนาพลังงานด้านนี้เช่นกัน

(4) พลังงานจากใบไม้เปียกและไม้ชื้น พลังงานชีวมวลเกิดจากการแปรสภาพของวัสดุชีวภาพ เช่น ใบไม้และต้นไม้ ทำให้มีการผลิตก๊าซต่าง ๆ เช่น ไฮโดรเจนและมีเทน ซึ่งจะสามารถถูกเผาไหม้ได้ ทั้งนี้ ปัญหาของโรงงานพลังงานชีวมวลปัจจุบันคือต้องการใช้วัสดุชีวภาพที่แห้ง แต่นักวิจัยได้มีการพัฒนารูปแบบใหม่ของเตาเผาวัสดุชีวมวลที่สามารถดักจับความชื้นจากวัสดุที่เปียกชื้น และการปล่อยออกเป็นน้ำร้อนเพื่อใช้ปั่นกังหันไฟฟ้า ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยให้เตาเผาใหม่นี้สร้างพลังงานชีวมวลได้มากขึ้นถึงร้อยละ 30 อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์บางคนให้เหตุผลว่า การเผาไหม้วัสดุชีวมวลก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ

ในอนาคตผมคิดว่าประเทศไทยคงจะต้องติดตามวิวัฒนาการของพลังงานโลกว่าจะดำเนินไปทิศทางไหน โดยการลงทุนของทั้งรัฐบาลและเอกชนจะต้องเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่จะเป็นแหล่งพลังงานใหม่ของประเทศไทย ใช้จุดแข็งของการเป็นแหล่งผลิตพืชพลังงาน ที่สามารถนำมาแปลงสภาพเป็นเอทานอล (Ethanol) พลังงานแสงอาทิตย์ที่อุดมสมบูรณ์ในบ้านเรา เพราะในที่สุด เราต้องหาพลังงานทางเลือกให้ได้ก่อนที่จะไม่มีทางให้เลือกในอนาคตอันใกล้นะครับ

Disclaimer : คอลัมน์นี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่ความเห็นของ สศค.

ที่มา -