ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

เบอร์มิวดา หมู่เกาะที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายที่สุดในโลก

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 14, 13, 20:22:52 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ทุกทีที่มีการพูดถึงเบอร์มิวดา ผู้อ่านท่านที่เคารพมักจะคิดว่าดินแดนนี้ลึกลับซับซ้อน ยานพาหนะไม่ว่าเรือ หรือเครื่องบินกระดิกพลิกตัวแล่นหรือบินผ่านไปก็มักจะหายวับไปกับตา อันตรธานไปจากโลกนี้ ใครมาเล่าให้ฟัง ว่าจะไปเยือนเบอร์มิวดา ผู้ทราบข่าวจะต้องตาลุกโพลง เหมือนกับว่าจะไปแดนดินถิ่นมหัศจรรย์แล้ว จะไม่ได้กลับมาอีกอย่างนั้น


โดยแท้ที่จริง เบอร์มิวดาก็เป็นหมู่เกาะธรรมดาที่มีประชาชนพำนักพักอาศัยอยู่เกือบ 70,000 คน เพียงแต่ว่าเป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายที่สุดในโลก อยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ ห่างจากภาคตะวันออกของแหลมแฮตเทอร์รัสของรัฐนอร์ทแคโรไลนา 965 กิโลเมตร ห่างจากหมู่เกาะเวสต์อินดีส 1,300 กิโลเมตร ประกอบ ด้วยเกาะหินปะการังและเกาะเล็กเกาะน้อย 360 เกาะ มีพื้นที่รวมทั้งหมด 58.8 ตารางกิโลเมตร เมืองหลวงชื่อแฮมมิลตัน เบอร์มิวดาไม่มีแม่น้ำหรือทะเลสาบ แม้แต่แห่งเดียวประชาชนคนที่นั่นต้องอาศัยน้ำฝนและน้ำจากโรงกลั่นน้ำขนาดใหญ่นำมาใช้อุปโภคบริโภคกันเท่านั้น

คนเบอร์มิวดามีรายได้สูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ธุรกิจที่สำคัญ และนำเงินตราต่างประเทศเข้ามามากที่สุดก็คือ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว พวกธนาคารนอกประเทศก็ชอบมาตั้งที่เกาะนี้ บริษัทประกันภัยก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว รัฐบาลเบอร์มิวดาก็จึงเก็บภาษีจากธุรกิจธนาคารและประกันภัยได้มาก อุตสาหกรรมต่างๆ ก็มีเยอะ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมผลิตสี น้ำหอม การต่อเรือ และยารักษาโรค แม้ว่าจะเป็นเกาะอยู่กลางมหาสมุทรสุดขอบฟ้า แต่ที่นี่การเกษตรก็ทำได้ดีนะครับ บนเกาะเบอร์มิวดาปลูกกล้วยหอมได้เยอะ มันฝรั่ง ส้ม หรือดอกไม้อะไรนี่ ก็ปลูกได้ทั้งนั้น

เบอร์มิวดาเป็นประเทศเอกราชชาติอิสระหรือ? ต้องตอบว่าไม่ใช่ครับ เป็นดินแดนปกครองของอังกฤษที่ปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ มีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เป็นประมุข มีข้าหลวงใหญ่ทำหน้าที่ แทนพระองค์ของกษัตริย์อังกฤษ ดูแลในด้านการต่างประเทศ กลาโหม และมหาดไทย มีนายกรัฐมนตรี มีรัฐสภาที่ประกอบไปด้วยสภาผู้แทนราษฎร 40 คน และวุฒิสมาชิก 11 คน ดังนั้น เบอร์มิวดาจึงไม่ใช่ดินแดนลึกลับซับซ้อนตามที่เราเข้าใจ แต่เป็นแดนดินถิ่นที่มีอยู่จริง และมีการบริหารบ้านเมืองที่ทันสมัย


คนที่เจอหมู่เกาะเบอร์มิวดาครั้งแรกเป็นชาวสเปน เจอแล้วก็ออกไป เกาะนี้ยังไม่มีคนมาตั้งถิ่นฐาน จนกระทั่ง พ.ศ. 2152 เรือของพวกอังกฤษมาอับปางลง ก็ได้อาศัยหมูที่ชาวสเปนนำมาปล่อยไว้เมื่อสมัยร้อยกว่าปีก่อนหน้านั้นทานเป็นอาหาร ต่อมาก็มีการเอาพวกแอฟริกาและอเมริกันอินเดียนมาเป็นทาสบนเกาะพวกนี้เพื่อปลูกยาสูบ ปัจจุบันทุกวันนี้ บนเกาะเบอร์มิวดาจึงมีพวกแอฟริกัน และอเมริกันอินเดียนอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้คนส่วนใหญ่ก็นับถือศาสนาคริสต์ ใช้อังกฤษเป็นภาษาราชการ มีเงินสกุลของตนเองคือ ดอลลาร์เบอร์มิวดา

นักท่องเที่ยวทั่วโลกนิยมไปว่ายน้ำ ดำน้ำ ตกปลา และแล่นเรือในเบอร์มิวดา เพราะที่นี่มีอากาศดีเกือบตลอดทั้งปี มีกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์ไหลผ่าน อาคารบ้านเรือนและวิถีชีวิตของผู้คนก็ยังมีเสน่ห์แบบอาณานิคม ตามชายฝั่งมีก้อนหินขนาดใหญ่ที่ลมและน้ำทะเลเซาะให้เป็นรูปร่างเหมือนเจดีย์ เสาหิน และถ้ำที่สวยงามมากมาย

ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึง พ.ศ. 2489 มีกฎหมายห้ามขับขี่รถยนต์บนเกาะทุกแห่ง ใครไปเที่ยวเบอร์มิวดา ต้องเดินทางด้วยรถจักรยาน รถม้า เรือ หรือใช้รถรางเท่านั้น เมื่อ พ.ศ.2489 กฎหมาย นี้เลิกไป และยอมให้แต่ละครอบครัวมีรถยนต์ได้เพียงคันเดียวเท่านั้น บนเกาะนี้ห้ามมีบริการรถเช่า การกำหนดวิถีการเดินทางแปลกๆ อย่างนี้ ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งซึ่งนักท่องเที่ยวอยากไปสัมผัส

แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเบอร์มิวดาประมาณ 600,000 คน อย่าคิดว่าน้อยนะครับ ถ้าเปรียบกับพื้นที่ทั้ง 360 เกาะ 58.8 ตารางกิโลเมตรแล้ว ผมว่านักท่องเที่ยวจำนวนนี้ก็ยั้วเยี้ยพอสมควร และทำให้ 40% ของรายได้ที่เข้าประเทศทั้งหมดนั้น มาจากค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว


เบอร์มิวดาจึงเป็นอีกแดนดินถิ่นหนึ่งที่น่าไปเยือน และน่าเอาเป็นตัวอย่างทางการบริหารด้านท่องเที่ยว ที่สร้างกฎเกณฑ์อะไรแปลกๆ ขึ้นมาให้เป็นที่น่าสนใจ.

คุณนิติ นวรัตน์

ที่มา -