ข่าว:

ห้ามโพส ปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

เรือบรรทุกน้ำมันเตา 2 หมื่นลิตรรั่วกลางทะเลคลองท่าจีนภูเก็ต

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 15, 13, 06:35:50 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

เรือบรรทุกน้ำมันเตากว่า 20,000 ลิตร รั่วกลางคลองท่าจีน ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต คาดนำเรือเข้ามาซ่อม เจ้าท่าภูมิภาค 5 ตำรวจน้ำภูเก็ตเร่งกู้ ขณะที่คนขับเรือหายเข้ากลีบเมฆ


วันนี้ (22 มี.ค. 56 ) เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวประมงในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า มีเรือประมงไม่ระบุชื่อ มีน้ำมันจำนวนมากรั่วไหลออกมาจากตัวเรือ หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.ฉัตรชัย ศักดิ์ดี สารวัตรตำรวจน้ำภูเก็ต พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตรทำหน้าที่ปราบปรามทางน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำภูเก็ต ร.ต.ท.ธีรายุทธ์ อ่อนทอง รองสารวัตรตำรวจน้ำภูเก็ต นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ จำนวนกว่า 10 นาย พร้อมประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบเรือลำดังกล่าว

โดยจุดเกิดเหตุอยู่ในบริเวณปากแม่น้ำคลองท่าจีนใกล้กับคานเรือเอเชียนภูเก็ตมาริน แอนด์ ด็อทยาท พบเรือประมง สีดำ-ส้ม ไม่มีชื่อ ส่วนท้ายเรือจมอยู่ในคลอง รอบๆ เรือพบมีคราบน้ำมันลอยออกจากตัวเรือจำนวนมากทยอยไหลเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำจึงประสานเรือประมงโชคถาวร 11 สีฟ้า นำเครื่องมือมาสูบน้ำมันออกจากเรือลำดังกล่าวขึ้นมากักเก็บไว้ในถังบรรจุน้ำขนาดใหญ่เพื่อลดจำนวนปริมาณให้ไหลออกจากเรือน้อยที่สุด

ร.ต.ท.ธีรยุทธ์ อ่อนทอง รองสารวัตรตำรวจน้ำภูเก็ต กล่าวว่า เมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเรือเข้ามาจอดเกยตื้นภายในคลองท่าจีน และมีน้ำมันไหลออกจากเรือ ซึ่งหลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาตรวจสอบทันที ซึ่งในเบื้องต้น ก็ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และดูดน้ำมันออกจากเรือส่วนหนึ่ง และจากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า เรือลำดังกล่าวแล่นเข้ามาจอดที่บริเวณปากแม่น้ำคลองท่าจีนตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ในเบื้องต้น คาดว่าเรือลำดังกล่าวน่าจะรั่วกลางทะเล คนขับเรือจึงขับเรือมาจอดเพื่อที่จะซ่อมเรือแต่ไม่สำเร็จ คนขับเรือจึงสละเรือทิ้งไป ส่วนตัวคนขับเรือก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
       
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า น้ำมันภายในเรือลำดังกล่าวน่าจะมีอยู่ประมาณ 20,000 ลิตร และจากการตรวจสอบพบว่า เป็นน้ำมันเตา ส่วนเจ้าของเรือ และคนขับเรือยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบเอกสารเกี่ยวกับเรือแต่อย่างใด ทำให้ยังไม่สามารถติดตามตัวเจ้าของมาสอบปากคำได้ ส่วนน้ำมันเตาทั้งหมดนั้นยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นน้ำมันถูกกฎหมาย หรือผิดกฎหมาย

ขณะที่ นายไพรัช คุลิมา สรรพสามิตพื้นที่ภูเก็ต กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากกรมเจ้าท่าว่ามีเรือบรรทุกน้ำมันเตาเข้ามาจอดแล้วเกิดน้ำมันรั่วไหล ดังนั้น ทางกรมสรรพสามิตต้องดำเนินการตรวจสอบว่ามีการลักลอบนำเข้ามาหรือเปล่า หากมีก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนกรณีหากเจ้าของเรือไม่แสดงตัวก็จะต้องปล่อยให้ทางตำรวจได้ทำหน้าที่สืบสวนสอบสวน ซึ่งในเบื้องต้น จะต้องมีการอายัดเรือไว้ก่อนเพื่อรอรายละเอียดการตรวจสอบอีกครั้ง

ที่มา -




ระทึกเรือบรรทุกน้ำมันเตาอับปาง

วันนี้ (22 มี.ค. 56 )เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำภูเก็ตได้รับรายงานจากเรือประมงว่าพบเรือประมงอับปางบริเวณหน้าคานเรือเอเชียน องค์การสะพานปลา ถนนศรีสุทัศน์ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต โดยมีคราบน้ำมันไหลทะลักออกมาจากเรือเป็นจำนวนมาก จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าคานเรือเอเชียน พบเรือประมงไม้ขนาด 2 ชั้นสีส้ม-เทากำลังจมลงสู่ก้นทะเล โผล่พ้นน้ำเพียงหัวและเก๋งเรือ บริเวณผิวน้ำรอบๆเรือมีคราบน้ำมันสีดำลอยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีเรือประมงโชคถาวร 11 กำลังให้การช่วยเหลือดูดน้ำมันจากเรือ จนกระทั่งทราบว่าน้ำมันดังกล่าวเป็นน้ำมันเตาที่อยู่ภายในเรือกว่า 2 หมื่นลิตร จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพร้อมกับควบคุมและกำจัดคราบน้ำมันบนผิวน้ำอย่างเร่งด่วน

จากการสอบสวนทราบว่าเรือประมงลำดังกล่าวชื่อ เปรมิกา ความยาวตลอดลำ 22.70 เมตร กว้าง 6 เมตร ลึก 2.30 เมตร น้ำหนัก 79.48 ตันกรอส เจ้าของเรือคือ นายธีรกฤษ สือสกุล อยู่บ้านเลขที่ 65/68 หมู่ 7 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต โดยขณะที่ไต้ก๋งกำลังนำเรือเข้าจอดเทียบท่า เรือเกิดรั่วขึ้นมาอย่างกระทัน น้ำทะเลไหลทะลักเข้าเรืออย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำมันเตาที่บรรทุกอยู่ภายในเรือเกิดไหลทะลักออกจากเรือเป็นจำนวนมากพร้อมกับเรือได้อับปางลงในที่สุด โดยขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบไม่พบไต้ก๋งหรือลูกเรือ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ตได้นำอุปกรณ์ป้องกันน้ำมันไหลบนผิวน้ำพร้อมกับโฟมฉีดลงบนน้ำมันเตา เพื่อขจัดคราบดังกล่าวจากผิวน้ำ ป้องกันอันตรายของสัตว์น้ำบริเวณทะเลดังกล่าวและใกล้เคียง เบื้องต้นค่าเสียหายหลายล้านบาท อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามเจ้าของเรือมาสอบสวนเกี่ยวกับน้ำมันเตาดังกล่าวว่ามีใบอนุญาตนำเข้าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ต่อไป.

ที่มา -





เร่งกำจัดน้ำมันเตาหลังเรือจมในคลองท่าจีนภูเก็ต เชื่อไม่กระทบวงกว้าง

อธิบดีกรมเจ้าท่าสั่งเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 เร่งกำจัดคราบน้ำมัน หลังเกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำมันจมกลางคลองท่าจีน จ.ภูเก็ต ทำน้ำมันไหลลงทะเล ปตท. ทหารเรือ ตำรวจน้ำ ร่วม คาดใช้เวลากำจัดไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ขณะที่เจ้าหน้าที่ทราบตัวเจ้าของเรือแล้ว


จากกรณีเรือบรรทุกน้ำมันเตากว่า 20,000 ลิตร ประสบเหตุจมบริเวณปากคลอกท่าจีน ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ใกล้กับคานเรือเอเชียนภูเก็ตมาริน แอนด์ ด็อทยาท และมีน้ำมันเตา ซึ่งบรรทุกอยู่ในเรือลำดังกล่าวรั่วไหลลงทะเลจำนวนมาก ในช่วงเช้าวันนี้ (22 มี.ค. 56 ) ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 นำโดย นายวิชัย คำคง ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 นายภูริพัฒน์ ธีรกุลพิสุทธิ์ เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต พ.ต.ท.ฉัตรชัย ศักดิ์ดี สารวัตรตำรวจน้ำภูเก็ต พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตรทำหน้าที่ปราบปรามทางน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำภูเก็ต นายมั่น อะนะฝรั่ง พนักงานปฏิบัติเจ้าหน้าที่จาก ปตท.ภูเก็ต ร.อ.ไพทูลย์ ธิวากุล รอง ผบ.กองร้อยทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมกันนำบูมมาวางล้อมคราบน้ำมันเพื่อให้อยู่ในจุด ก่อนที่จะใช้สารเคมีฉีดสลายคราบน้ำมันที่ไหลลงทะเลดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ

นายวิชัย คำคง ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งจากทางตำรวจน้ำว่า มีน้ำมันรั่วไหลออกจากเรือซึ่งจมอยู่ในคลองท่าจีน ก็ได้รายงานให้อธิบดีกรมเจ้าท่าทราบ ซึ่งทางอธิบดีก็ได้สั่งการให้เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 เร่งกำจัดคราบน้ำมันอย่างเร่งด่วน โดยประสานขอความร่วมมือจาก ปตท. ทัพเรือภาคที่ 3 ตำรวจน้ำ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่จาก ปตท.ภูเก็ต ได้นำบูมขนาดยาว 200 เมตร มาล้อมรอบเรือลำที่เกิดเหตุ ในรัศมีความกว้างประมาณ 100 เมตร และใช้น้ำยาขจัดคราบน้ำมันฉีดลงไปยังคราบน้ำมันที่ลอยอยู่ในน้ำเพื่อให้สลายตัว

ซึ่งจากการดำเนินการคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และมั่นใจว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ประกอบกับจุดที่เกิดเหตุเข้ามาอยู่บริเวณคลองด้านใน และเป็นช่วงที่น้ำกำลังขึ้น และน้ำนิ่งพอดี ทำให้ไม่มีคราบน้ำมันไหลออกไปกลางทะเล ซึ่งง่ายต่อการกำจัดคราบน้ำมันที่ไหลออกจากเรือ ส่วนน้ำมันในเรือนั้นขณะนี้ดูดขึ้นมาเก็บไว้ในถังหมดแล้ว สำหรับระยะเวลาในการกำจัดคราบน้ำมันนั้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง

ขณะที่นายมั่น อะนะฝรั่ง พนักงานปฏิบัติเจ้าหน้าที่จาก ปตท.ภูเก็ต กล่าวถึงการกำจัดคราบน้ำมันที่ไหลออกจากเรือว่า การกำจัดคราบน้ำมันนั้นขึ้นอยู่กับกำลังคน ซึ่งขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากกำลังทหาร ตำรวจน้ำมาช่วยหลายนายซึ่งจะทำให้สามารถขจัดคราบน้ำมันได้เร็วขึ้น ส่วนเรื่องของผลกระทบนั้นเชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบในวงกว้าง เนื่องจากช่วงที่เกิดเหตุการณ์เป็นช่วงน้ำนิ่ง ทำให้น้ำมันที่ไหลออกจากเรือกระจายไปไม่ไกล และอยู่ในพื้นที่แคบๆ ซึ่งหลังจากที่ใช้บูมล้อมคราบน้ำมัน และใช้น้ำยาฉีดแล้วก็จะต้องทำการเก็บเศษน้ำมันที่ค้างอยู่ในบูม โดยขณะนี้กำลังดูว่าจะนำไปใช้งานต่อ หรือทำลายทิ้ง

ขณะที่ พ.ต.ท.ฉัตรชัย ศักดิ์ดี สารวัตรตำรวจน้ำภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับเรือลำที่เกิดเหตุจดทะเบียนชื่อ เปรมิกา เป็นเรือบรรทุก ซึ่งขณะนี้ยังหาตัวเจ้าของเรือไม่พบ โดยทางเจ้าหน้าที่จะติดตามสืบสวนต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นพบว่า เรือลำดังกล่าวเคยถูกจับกุมคดีบรรทุกน้ำมันเตาเถื่อนมาแล้ว 2 ครั้งในปี 2554 โดยถูกจับที่ท่าเทียบเรือน้ำลึกทั้ง 2 ครั้ง ครั้งแรกมีน้ำมันเตา จำนวน 20,000 ลิตร และครั้งที่ 2 จำนวน 40,000 ลิตร

ที่มา -