เหตุสุดวิสัยไฟไหม้โรงกลั่น IRPC หยุดแครกเกอร์น้ำมันสูญ 400 ล.

[mrtnews]

IRPC เร่งหาสาเหตุเพลิงไหม้ภายใน 3 วัน พร้อมเร่งปรับปรุงการเดินเครื่องโรงงาน ลุ้น กรอ.เปิดหน่วยผลิตลดขาดทุนจาก 400 ล้านบาทต่อเดือน เหลือ 160 ล้านบาทต่อเดือน

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จํากัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยถึงเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่หน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตา (VGOHT : Vacuum Gas Oil Hydro Treating Unit) ของบริษัทที่ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เมื่อวันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2557 เวลา 18.00 น. ว่า สาเหตุของเพลิงไหม้เกิดจากการรั่วไหลของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนจากท่อบริเวณของหน่วย VGOHT แล้วกระจายโดนจุดที่มีอุณหภูมิสูงภายในโรงงาน ส่งผลให้เกิดการระเบิดขึ้น 1 ครั้ง ก่อนจะเกิดเพลิงไหม้ตามมาในบริเวณใกล้เคียงจำนวน 4 จุด ซึ่ง IRPC ได้ดับเพลิงตามขั้นตอนรักษาความปลอดภัยจนสามารถจำกัดเพลิงไหม้ได้ภายในเวลา 19.00 น. และดับเพลิงได้ทั้งหมดในเวลา 20.20 น. โดยอุบัติเหตุครั้งนี้ถือเป็นอุบัติเหตุครั้งแรกในรอบ 25 ปี หลังจากโรงงานของ IRPC เคยเกิดเพลิงไหม้เมื่อปี 2532

"IRPC เสียใจและขออภัยกับเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น แม้เครือ ปตท.จะพยายามควบคุมไม่ให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น แต่ครั้งนี้ถือเป็นเหตุสุดวิสัยซึ่ง IRPC จะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมท่อถึงเกิดการรั่วได้ หลังจากนั้น จะนำข้อมูลที่ได้ไปหาแนวทางป้องกันปัญหา และเผยแพร่ข้อมูลไปยังในเครือ ปตท.ทั้งหมด เพื่อนำไปเป็นบทเรียนป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ซ้ำขึ้นมาอีก" นายสุกฤตย์กล่าว

หลังจากเกิดเพลิงไหม้ ไออาร์พีซีได้หยุดหน่วย VGOHT ที่มีกำลังการปรับปรุงน้ำมันเตา 1,000 ตันต่อวัน รวมทั้งหยุดเดินเครื่องโรงงานเพิ่มมูลค่าน้ำมันเตา (แครกเกอร์) ที่รับน้ำมันเตาจากหน่วย VGOHT มาเป็นวัตถุดิบประมาณ 50% รวมทั้งหน่วยผลิตเล็ก ๆ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงด้วย ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาซ่อมแซมหน่วย VGOHT ที่เสียหายประมาณ 3 เดือน โดยระหว่างนี้จะต้องส่งออกน้ำมันเตาจากหน่วยนี้ไปขายในต่างประเทศแทน

ทั้งนี้ หากต้องหยุดหน่วยผลิตข้างต้นทั้งหมด IRPC จะสูญเสียรายได้สูงสุดถึง 400 ล้านบาทต่อเดือน มาจากโรงแครกเกอร์ที่ต้องหยุดเดินเครื่องผลิต Propylene จำนวน 360 ตันต่อวัน น้ำมันเบนซิน 1.3 ล้านลิตรต่อวัน และน้ำมันดีเซล 1.3 ล้านลิตรต่อวัน แต่หากกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เข้าตรวจสอบแล้วพบว่าหน่วย

แครกเกอร์ไม่ได้รับความเสียหาย และอนุญาตให้เดินเครื่องต่อได้ จะทำให้หน่วยแครกเกอร์กลับมาเดินเครื่องได้อย่างต่ำ 60% ของกำลังการผลิตทั้งหมด โดย IRPC จะเร่งหาวัตถุดิบ เช่น ซื้อน้ำมันเตาซัลเฟอร์ต่ำมาทดแทนวัตถุดิบจากที่อื่นมาแทนน้ำมันเตาจากหน่วย VGOHT ภายใน 3 สัปดาห์ ทำให้มูลค่าความเสียหายลดลงเหลือ 160 ล้านบาทต่อเดือน

อย่างไรก็ตาม IRPC ได้ทำประกันอุบัติเหตุครอบคลุมความเสียหายด้านทรัพย์สินและค่าเสียโอกาสด้านธุรกิจวงเงิน 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตามสัญญาถ้า IRPC ต้องจ่ายเงินค่าความเสียหายมากกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือต้องทำการหยุดเดินเครื่องโรงงานมากกว่า 60 วัน ทางบริษัทประกันจะรับผิดชอบออกค่าเสียหายให้ โดยประเมินว่าบริษัทประกันจะสามารถจ่ายค่าประกันครอบคลุมความเสียหายได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตที่หายไปจะกระทบรายได้ไม่มากนัก เพราะปัจจุบันค่าการกลั่นน้ำมัน กลั่นเฉลี่ย (Gross Integrated Margin : GIM) อยู่ในระดับต่ำเพียง 7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และเมื่อรวมการทำอัตราแลกเปลี่ยนจะเป็น 8.50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

อย่างไรก็ตาม IRPC ได้ส่งรถเคลื่อนที่ออกตรวจสอบวัดสภาพอากาศโดยรอบโรงงานทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่พบว่าไม่มีสารเคมีใดเกินค่ามาตรฐาน ยกเว้นค่าเขม่าควันที่สูงกว่ามาตรฐานในช่วงแรกที่เกิดเหตุการณ์ เพราะเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นมีการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ แต่ขณะนี้ค่าเขม่าควันกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และชุมชนโดยรอบไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากระหว่างเกิดเพลิงไหม้มีกระแสลมพัดควันไฟไปทางทะเล และขณะนี้ IRPC ได้ส่งหน่วยแพทย์ไปดูแลชุมชนที่อยู่โดยรอบแล้ว และ IRPC พร้อมรับผิดชอบหากประชาชนโดยรอบโรงงานได้รับความเสียหายและผลกระทบด้านสุขภาพหรือทรัพย์สิน

ที่มา -



IRPC คาดเหตุไฟไหม้จากการรั่วของสารไฮโดรคาร์บอน

ไออาร์พีซีชี้แจงเหตุไฟไหม้หน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตา คาดสรุปสาเหตุได้ใน 2-3 วันคาดเสียหายในเบื้องต้นไม่เกิน500ล้านบาทกรณียังไม่หักค่าใช้จ่าย

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี ได้เปิดแถลงข่าวชี้แจงเหตุไฟไหม้ของหน่วยแครกเกอร์ของโรงกลั่นน้ำมัน ที่ จ.ระยองว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขออภัยกับชุมชนโดยรอบ โดยจะนำเหตุการณ์นี้มาเป็นบทเรียนและแจ้งให้บริษัทในเครือปตท.รับทราบเพื่อใช้เฺป็นกรณีศึกษา

ทั้งนี้จะขอเวลาในการตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่เกิน2-3วัน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เกิดเพลิงไหม้ที่หน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตา (หน่วย VGOHT: Vacuum Gas Oil Hydro Treating Unit) เพื่อป้อนหน่วยแครกเกอร์เพื่อผลิตเป็นสารโพรไพลีนเป็นหลัก ที่โรงงานของบริษัทฯ ตำบลเชิงเนิน จังหวัดระยองสันนิษฐานว่าเกิดจากการรั่วไหลของสารไฮโดรคาร์บอนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้โดยบริษัทฯ ได้ตัดแยกระบบของหน่วยที่เกิดเพลิงไหม้ออกจากโรงงานอื่นๆ ของบริษัทฯ

อย่างไรก็ตามสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดภายในระยะเวลา1ชมและ.ทำการดับเพลิงได้โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว สำหรับผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมนั้น บริษัทฯ ได้ส่งรถเคลื่อนที่ออกตรวจวัดสภาพอากาศโดยรอบโรงงานทันทีที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยเบื้องต้นพบว่ามีผลกระทบเล็กน้อยต่อสภาพอากาศ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวทิศทางลมมิได้พัดไปทางชุมชน

ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบความเสียหายจากเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตามโรงกลั่นและโรงงานปิโตรเคมีโดยส่วนใหญ่ยังสามารถดำเนินการผลิตได้ มีเพียงแต่หน่วยที่เกิดเพลิงใหม้และหน่วยผลิตใกล้เคียงที่จะต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว ในเบื้องต้นบริษัทฯ ประเมินว่ามีผลกระทบต่อการผลิตโดยรวมไม่มากนัก สาเหตุของการเกิดเพลิงใหม้และมูลค่าความเสียหายอยู่ในระหว่างการตรวจสอบในรายละเอียด ร่วมกับบริษัทฯ ประกันภัย โดยบริษัทฯ มีวงเงินประกัน 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทฯ จะแจ้งความคืบหน้า ให้ทราบต่อไป

นายสุกฤตย์  กล่าวว่า ผลจากเหตุไฟไหม้ทำให้ต้องหยุดการผลิตสารโพรไพลีน เบนซิน และดีเซล ซึ่งประเมินกรณีเลวร้ายสุดจะเกิดผลกระทบต่อรายได้ไม่เกิน500ล้านบาท บนพื้นฐานที่ยังไม่มีการหักค่าใช้จ่าย

ที่มา -

[youtube=640,390]http://www.youtube.com/watch?v=e2d7Xg5hyFc[/youtube]