ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา อาหาร ยา และเครื่องสำอางค์ รวมถึงสมุนไพรทุกชนิด ไม่ว่าจะมี อย. หรือไม่  เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

'พันธมิตร' ถล่มโรงกลั่นน้ำมันไอเอส ชาติตะวันตกเข้าร่วมสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น

เริ่มโดย mrtnews, ก.ย 26, 14, 21:27:55 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

เอเจนซีส์ - พันธมิตรที่นำโดยอเมริกา บอมบ์โรงกลั่นน้ำมันของกลุ่มนักรบญิฮัด "รัฐอิสลาม" (ไอเอส) ในซีเรีย ในคืนวันพุธ (24 ก.ย. 57) ซึ่งเท่ากับเป็นการขยายจากเป้าหมายทางการทหารสู่เป้าหมายทางเศรษฐกิจ เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงสำคัญของกลุ่มก่อการร้ายที่โอบามาประกาศบนเวทียูเอ็นว่าเป็น "เครือข่ายมรณะ" ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงรับรองมติสกัดนักรบต่างชาติร่วมทำสงครามกับนักรบญิฮัด ด้านฝรั่งเศสก็เปิดการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายไอเอสในอิรักเมื่อวันพฤหัสบดี (23 ก.ย. 57) รวมทั้งให้คำมั่นจะสนับสนุนกองกำลังฝ่ายค้านในซีเรียเพิ่มมากขึ้น หลังจากตัวประกันชาวฝรั่งเศสถูกนักรบญิฮัดฆ่าตัดคอที่แอลจีเรีย


พลเรือตรีจอห์น เคอร์บี้ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(เพนตากอน) และกองบัญชาการทหารด้านกลางของสหรัฐฯ (CENTCOM) แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (25 ก.ย. 57) ว่า ในคืนวันพุธถึงกลางวันพฤหัสบดี เครื่องบินรบของอเมริกา ซาอุดีอาระเบีย สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) บาห์เรน และจอร์แดน เข้าโจมตีเป้าหมาย 12 แห่งซึ่งรวมถึงโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งทางตะวันออกของซีเรียที่ควบคุมโดยไอเอส โดยใช้จรวดนำวิถีและมีการ์ตาให้การสนับสนุนในด้านการส่งกำลังบำรุง

ทั้งนี้ เชื่อกันว่า ไอเอสควบคุมแหล่งน้ำมัน 11 แห่งในอิรักและซีเรีย และมีรายได้วันละกว่า 3 ล้านดอลลาร์จากการลักลอบขายน้ำมัน, ปล้น, และขู่กรรโชกทรัพย์ เงินเหล่านี้ถูกนำมาใช้สนับสนุนการบุกยึดครองพื้นที่กว้างขวางอย่างรวดเร็วในซีเรียและอิรักตามแผนการสร้างรัฐอิสลาม

ซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรตส์ กลุ่มติดตามสถานการณ์การสู้รบในซีเรียที่มีฐานในลอนดอน ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวสังหารนักรบญิฮัด 14 คน แต่มีพลเรือนถูกลูกหลงเสียชีวิต 5 ราย ซึ่งรวมถึงเด็ก 1 คน นอกจากนี้ยังทำให้โรงกลั่นน้ำมัน 4 แห่งและบ่อน้ำมัน 3 แห่งรอบเมืองมายาดีนในจังหวัดเดียร์ เอล-ซาวร์เสียหาย

กลุ่มสังเกตการณ์ที่อาศัยข้อมูลจากฝ่ายซึ่งคัดค้านทั้งรัฐบาลดามัสกัสและพวกหัวรุนแรงสุดโต่งในซีเรียแห่งนี้ ยังรายงานว่า มีการโจมตีทางอากาศใกล้เมืองโคบานี เมืองสำคัญของชาวเคิร์ดซึ่งอยู่ทางเหนือของซีเรียติดต่อกับพรมแดนตุรกี ที่ไอเอสโจมตีอย่างหนักมาเกือบสัปดาห์และทำให้ประชาชนกว่า 150,000 คนต้องหนีข้ามไปยังตุรกี อย่างไรก็ดี ยังไม่สามารถระบุได้ว่า การโจมตีนี้เป็นปฏิบัติการของชาติใด

สำหรับการโจมตีในซีเรียมที่ดำเนินต่อเนื่องมา 2 คืนก่อนหน้านี้นั้น สหรัฐฯแถลงว่าสามารถทำลายที่มั่น ศูนย์บัญชาการ ค่ายฝึก และยานยนต์ ในเมืองรากา ที่เป็นศูนย์บัญชาการชองไอเอส ตลอดจนในบริเวณจุดข้ามชายแดนซีเรีย-อิรัก

ในอีกด้านหนึ่ง ที่นครนิวยอร์กวันพุธ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกที่เข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรกวาดล้างไอเอส

นอกจากนั้น โอบามายังเข้าไปนั่งเป็นประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น และประสบความสำเร็จในการผลักดันให้ผ่านมติซึ่งมุ่งขัดขวางไม่ให้ชาวต่างชาติเข้าร่วมกับนักรบไอเอส

มติดังกล่าวกำหนดให้ทุกประเทศออกกฎหมายระบุความผิดอาญาขั้นร้ายแรง ถ้าพลเมืองของตนเข้าร่วมกับนักรบญิฮัด เป็นต้นว่า ไอเอส และ กลุ่มอัล-นุสรา ฟรอนต์ ซึ่งเป็นสมาชิกเครือข่ายอัล-กออิดะห์ และหากประเทศใดให้การสนับสนุนเครือข่ายก่อการร้าย ก็จะถูกลงโทษทางเศรษฐกิจหรือถูกโจมตีทางทหาร

สหรัฐฯยังประกาศว่า ประสบความสำเร็จในการชักชวนประเทศต่างๆ ให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรต่อต้านปราบปรามไอเอส โดยในขณะนี้มีกว่า 50 ประเทศเข้าร่วม รวมถึงชาติอาหรับสำคัญๆ และในวันพุธ ก็มีเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ ประกาศจะส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดเอฟ-16 ชาติละ 6 ลำ ร่วมกับฝรั่งเศสถล่มไอเอสในอิรัก

นอกจากนี้ เนเธอร์แลนด์ยังจะส่งทหาร 250 คน และครูฝึก 130 คนไปช่วยกองทัพอิรัก ส่วนกรีซประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี ว่า จะส่งอาวุธให้กองกำลังชาวเคิร์ดที่ต่อสู้กับนักรบญิฮัด


ด้านอังกฤษยังไม่ได้เข้าร่วมการโจมตีไอเอส ทว่า ระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็น นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แถลงว่า จะเรียกประชุมรัฐสภานัดพิเศษในวันศุกร์ (26 ก.ย. 57) เพื่อลงมติในการร่วมปฏิบัติการทางทหารกับสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์แห่งฝรั่งเศส รวมทั้งโอบามา ยังกล่าวประณามการสังหารโหด แอร์เว กูร์เดล นักท่องเที่ยวฝรั่งเศส โดยฝีมือกลุ่มก่อการร้ายในแอลจีเรียที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มไอเอส ซึ่งจับกุมตัวเขาไปและได้เผยแพร่คลิปการฆาตกรรมโหดทางออนไลน์เมื่อคืนวันพุธ (24 ก.ย. 57)

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ฝรั่งเศสประกาศเปิดการโจมตีทางอากาศระลอกใหมในอิรักวันพฤหัสบดี พร้อมให้สัญญาว่าจะสนับสนุนแก่กองกำลังของฝ่ายค้านในซีเรียเพิ่มมากขึ้น ทว่ายังไม่ได้เข้าร่วมการโจมตีทางอากาศในซีเรียแต่อย่างใด

ที่มา -




3 กลุ่มติดอาวุธเลือดใหม่ในตะวันออกกลาง ภัยคุกคามล่าสุดของสหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ไม่นาน ภัยจากกลุ่มก่อการร้ายที่คุกคามสหรัฐอเมริกา มีเพียง อัลเคดา เท่านั้น แต่ในตอนนี้อัลเคดาแตกกิ่งก้านสาขา กลายเป็นกลุ่มติดอาวุธเลือดใหม่มากมายในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกลุ่มไอซิส ซึ่งล่าสุดสหรัฐฯ เริ่มโจมตีทางอากาศในซีเรียแล้ว แสดงให้เห็นว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องการหยุดยั้งสาขาของอัลเคดา ที่นับวันจะทวีความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

การโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ไม่เพียงมีเป้าหมายไปที่กลุ่ม ไอซิส เท่านั้น แต่ยังรวมถึง กลุ่มคอราซัน และ อัล-นุสรา ฟรอนต์ กลุ่มติดอาวุธเหล่านี้มีความเชื่อคล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างกัน แล้วพวกเขามีความเป็นมาอย่างไร? และเป็นภัยคุกคามขนาดไหน สหรัฐฯ จึงตัดสินใจโจมตีพวกเขา?

ไอซิส

ชื่อ ไอซิส ย่อมาจาก 'รัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย' หรือที่ผู้นำบางประเทศเรียกว่า 'ไอซิล' (รัฐอิสลามในอิรักและลีแวนต์) ในขณะนี้เรียกตัวเองว่า 'รัฐอิสลาม,' (ไอเอส) เพราะเชื่อว่าพวกตัวเองเป็นผู้นำชาวอิสลามนิกายสุหนี่ในซีเรียและอิรัก และอ้างตัวว่าเป็นผู้นำชาวมุสลิมกว่า 1.5 พันล้านคนทั่วโลก

การถือกำเนิดกลุ่ม ไอซิส กลุ่มติดอาวุธที่มีผู้กล่าวถึงมากที่สุดในโลกในขณะนี้ ต้องย้อนไปเมื่อปี 2004 เมื่อนาย อาบู มูซาบ อัล-ซาร์กาวี ก่อตั้งกลุ่มอัลเคดาในประเทศอิรัก ก่อนจะพยายามจุดไฟสงครามศาสนากับชายมุสลิมนิกายชีอะห์ ที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ และกลุ่มอัลเคดาสาขาอิรักก็เปลี่ยนชื่อเป็น 'รัฐอิสลามในอิรัก' ในปี 2006 และมีการเติมคำว่า 'และซีเรีย' เข้าไปในภายหลัง

เป้าหมายของกลุ่มไอซิสคือการก่อตั้งรัฐอิสลามในดินแดนของชาวมุสลิมสุหนี่ในอิรักและซีเรีย แต่ไม่เพียงเท่านั้น อดีตนักรบของกลุ่มไอซิสคนหนึ่ง เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า เป้าหมายหลักและสูงสุดของรัฐอิสลามที่พวกเขาบอกต่อสมาชิกหน้าใหม่คือ การก่อตั้งรัฐอิสลามที่ครอบคลุมโลกอาหรับ และจากนั้นพวกเขาจะขยายไปในประเทศอื่นๆ

ผู้นำคนปัจจุบันของกลุ่มไอซิส คือ อาบู บาการ์ อัล-บักห์ดาดี ขึ้นกุมบังเหียนกลุ่มไอซิสในปี 2010 ด้วยวัยเพียง 39 ปี หลังจากผู้นำคนก่อนอย่าง อาบู โอมาร์ อัล-บักห์ดาดี ถูกสังหารในปฏิบัติการโจมตีร่วมระหว่างสหรัฐฯ และอิรัก

ก่อนจะเข้ารับตำแหน่ง อาบู บาการ์ เคยเป็นสมาชิกของกลุ่มอัลเคดาในอิรักมาก่อน และเคยอยู่ในค่ายกักกันของสหรัฐฯ ในเมืองบัคคา ทางใต้ของอิรักเป็นเวลา 4 ปี ในข้อหาต่อต้านรัฐบาล แต่เหมือนประชด ค่ายกักกันนี้เองเป็นสถานที่ที่เขาสร้างเครือข่ายติดต่อกับกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ก่อนถูกปล่อยตัวในปี 2009

สหรัฐฯ เข้ามามีส่วนร่วมในการต่อสู้กับกลุ่มไอซิส เนื่องจากไอซิสประกาศอย่างชัดเจนว่าต้องการโจมตีชาวอเมริกันและชาวตะวันตกอื่นๆ แต่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ยืนยันว่า ณ ตอนนี้ยังไม่มีการคุกคามโดยตรงในแผ่นดินสหรัฐฯ แต่ที่ตกอยู่ในความเสี่ยงคือเจ้าหน้าที่และอาคารของสหรัฐฯ ในอิรัก และยังมีโอกาสที่นักรบติดอาวุธซึ่งถือพาสปอร์ตของสหรัฐฯ หรือชาติตะวันตกอื่นๆ จะเดินทางกลับบ้านเกิดและก่อการโจมตีได้

เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไอซิส เพิ่งออกมาเรียกร้องให้ผู้สนับสนุน ก่อการร้ายแบบหมาป่าเดียวดาย ในสหรัฐฯ และฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสองประเทศที่ดำเนินการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอซิสในอิรัก


อัล-นุสรา ฟรอนต์

ชื่อของกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ แปลมาจากภาษาอารบิกว่า 'จาบัต อัล-นุสรา' ความหมายคือ 'ชัยชนะในแนวหน้า' ก่อตั้งขึ้นมาท่ามกลางสงครามกลางเมืองในประเทศซีเรียที่ขณะนี้ดำเนินมานานกว่า 3 ปีแล้ว และเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ต่อสู้กับรัฐบาลซีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ดึงดูดนักรบต่างชาติที่มีประสบการณ์รบโชกโชนในอิรักและที่อื่นๆ มาเข้าร่วมได้มากมาย

อัล-นุสรา ฟรอนต์ ไม่เหมือนกลุ่มกบฏอื่นๆในซีเรีย ที่แสวงหาการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง พวกเขาต่อสู้ด้วยเหตุผลด้านความศรัทธาเช่นเดียวกับกลุ่มไอซิส พวกเขาต้องการก่อตั้งรัฐอิสลามขึ้นในซีเรีย

พวกเขาเป็นกองกำลังที่รัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ยากจะจัดการ อ้างตัวเป็นผู้ก่อการโจมตีหลายร้อยครั้งในหลายสิบเมืองทั่วซีเรีย รวมทั่งการระเบิดฆ่าตัวตาย ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากทั้งกองทัพรัฐบาล และชาวซีเรียผู้บริสุทธิ์ แต่ แม้อัล-นุสรา ฟรอนต์ จะช่วยเหลือฝ่ายกบฏในซีเรียรับมือกับกองทัพรัฐบาล แต่การคงอยู่ของพวกเขาก็ทำให้ชาติตะวันตกลังเล ไม่กล้าให้ความช่วยเหลือฝ่ายกบฏซีเรีย เพราะอาจกลายเป็นการช่วยกลุ่มอัล-นุสรา ฟรอนต์ไป

ล่าสุด อัล-นุสรา ฟรอนต์ ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ แม้สหรัฐฯจะไม่ได้ประกาศว่า กลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้เป็นเป้าหมายในการโจมตีในซีเรีย แม้ อัล-นุสรา ฟรอนต์ จะอยู่ในบัญชีดำองค์กรก่อการร้ายต่างชาติที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลเคดาในซีเรีย

แต่กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (เอสโอเอชอาร์) ซึ่งติดตามสถานการณ์สงครามกลางเมืองในซีเรียมาตั้งแต่แรก รายงานว่า อัล-นุสรา ฟรอนต์ ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของสหรัฐฯจริง นอกจากนี้กลุ่ม อัล-นุสรา ฟรอนต์ เองยังออกแถลงการณ์ด้วยว่า อาบู ยูเซฟ อัล-ตูร์กี หัวหน้าของพวกเขา ถูกสังหารด้วยการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯในซีเรียเมื่อวันอังคาร (23 ก.ย. 57) พร้อมทั้งแพร่ภาพศพของนายอัล-ตูกีร์เป็นหลักฐานด้วย

กลุ่มคอราซัน

ตามข้อมูลจากคณะวิจัยของ 'กองทุนคาเนกีเพื่อความสงบสุขระหว่างประเทศ' (Carnegie Endowment for International Peace) คำว่า 'คอราซัน' ไม่มีความหมายทั้งในภาษาอาราบิก หรือภาษาอื่นๆ ไม่ได้เป็นแม้แต่ชื่อองค์กรหรือตัวย่อของคำใดๆ แต่เป็นคำในศาสนาอิสลามยุคโบราณจากโลกมุสลิมในตะวันออกไกล ซึ่งปัจจุบันกลุ่มอัลเคดามักใช้ในการสื่อถึง ภูมิภาคที่ครอบคลุมประเทศอัฟกานิสถาน ปากีสถาน และ อิหร่าน

สาขาย่อยใหม่ของอัลเคาดานี้ เพิ่งเป็นที่รู้จัก หลังนาย เจมส์ แคลปเปอร์ ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวถึงกลุ่มติดอาวุธกลุ่มมนี้เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยระบุว่า คอราซันเคลื่อนไหวในอิรักและซีเรีย คอยรวบรวมสมาชิกกลุ่มอัลเคดาที่เข้ามาในประเทศ และมุ่งส่งออกผู้ก่อการร้ายไปยังชาติตะวันตก

เป้าหมายของกลุ่มคาราซัน คือการหาวิธีใหม่ๆในการโจมตีสหรัฐฯและชาติยุโรป โดยนักวิเคราะห์บางคนระบุว่า อัลเคาดาสร้างกลุ่มคอราซันขึ้นมา เพื่อชิงความเป็นเบอร์ 1 ของกลุ่มญิฮาดทั่วโลกจากกลุ่มไอซิส โดยเลียนแบบเรื่องการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์รับสมัครนักรบชาวตะวันตกมาฝึกฝน จากนั้นจึงส่งตัวกลับบ้านเกิดของพวกเขา เพื่อก่อการร้าย

ตามรายงานของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ผู้นำกลุ่มคอราซันคือนาย มูห์ซิน อัล-ฟาดรี อายุ 33 ปี โดยเข้ามาอยู่ในซีเรียตั้งแต่เดือนเม.ย. 2013 โดยเริ่มแรกเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่ม อัล-นุสรา ฟรอนต์ ก่อนที่จะแยกตัวออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

นายแคลปเปอร์กล่าวว่า หากพิจารณาในแง่ของการเป็นภัยคุกคามต่อดินแดนสหรัฐฯแล้ว กลุ่มคอราซันอาจอันตรายเทียบเท่ากลุ่มไอซิส โดยแหล่งข่าวคนหนึ่งในหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯเผยต่อสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า กลุ่มคราซัน กำลังวางแผนโจมตีเป้าหมายในสหรัฐฯและชาติตะวันตกอื่นๆในช่วงสสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่ระบุว่าพวกเขามีเป้าหมายโจมตีที่ใด

แต่ที่สร้างความประหลาดใจให้หลายฝ่ายคือ สหรัฐฯโจมตีทางอากาศในซีเรียโดยมุ่งเป้าโจมตีกลุ่มคอราซันด้วย โดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เป็นผู้ยืนยันเรื่องนี้เอง ตอกย้ำให้เห็นถึงความอันตรายของสาขาย่อยของอัลเคดากลุ่มนี้ ที่สหรัฐฯต้องเล่นทีเผลอ แฝงไปในการโจมตีกลุ่มไอซิส

ที่มา -



..-