ชี้ “น่านน้ำอาเซียน” สุดอันตราย ขึ้นแท่น “สวรรค์แห่งใหม่ของโจรสลัด” แทนโซมาเลีย

[mrtnews]

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ข้อมูลล่าสุดชี้ ปัญหาการออกอาละวาดของ"โจรสลัด"ในน่านน้ำต่างๆทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเพิ่มสูงขึ้น จนกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเดินเรือและการขนส่งสินค้าทางเรือระหว่างประเทศ ชี้ "น่านน้ำอาเซียน" กลายเป็น "สวรรค์ของโจรสลัด" แห่งใหม่ของโลก แทนที่ชายฝั่งของโซมาเลียไปแล้ว

       
รายงานล่าสุดโดยสำนักงานการเดินเรือระหว่างประเทศ (IMB) ระบุในขณะนี้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ขึ้นแท่นกลายเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของปัญหาโจรสลัดของโลกแทนที่โซมาเลียไปแล้ว หลังพบการก่อเหตุของเหล่าโจรสลัดในน่านน้ำต่างๆทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเดินเรือและการขนส่งสินค้า
       
ข้อมูลของไอเอ็มบีระบุว่า ในปี 2556 ที่ผ่านมา เหตุโจมตีของโจรสลัดนอกชายฝั่งโซมาเลียลดลงเหลือเพียง 15 ครั้ง ทั้งๆที่เมื่อปี 2554 พวกโจรสลัดโซมาเลียเคยก่อเหตุสูงถึง 237 ครั้ง ส่วนในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้จำนวนเหตุโจมตีที่เป็นฝีมือของโจรสลัดโซมาเลียเพิ่งเกิดขึ้นเพียง 14 ครั้ง
       
ขณะที่การออกอาละวาดของโจรสลัดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลับเพิ่มสูงขึ้นจนน่าตกใจ โดยเฉพาะในน่านน้ำโดยรอบอินโดนีเซียที่พบการโจมตีของโจรสลัดเพิ่มสูงขึ้นถึง 31 เปอร์เซ็นต์ เป็น 106 ครั้งในปี 2556 เช่นเดียวกับน่านน้ำบริเวณนอกชายฝั่งของสิงคโปร์ และพม่า
       
ไอเอ็มบีซึ่งมีการจัดตั้งศูนย์รับรายงานปัญหาโจรสลัด 24 ชั่วโมงอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศต่างๆในภูมิภาคซึ่งต่างเป็นสมาชิกของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) จะต้องหันหน้ามาร่วมมือกันอย่างจริงจังในการจัดการกับปัญหาโจรสลัด เช่นเดียวกับที่ประชาคมโลกเคยทำสำเร็จมาแล้วในการกวาดล้างโจรสลัดนอกชายฝั่งโซมาเลีย โดยอาศัยความร่วมมือในการลาดตระเวนของกองทัพเรือจากมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลกในน่านน้ำที่เป็นปัญหานับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา

อย่างไรก็ดี สำนักงานการเดินเรือระหว่างประเทศระบุว่า อุปสรรคสำคัญที่ทำให้การปราบปรามโจรสลัดในน่านน้ำทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เป็นเพราะประเทศต่างๆในภูมิภาคนี้ "ไม่ยินยอม" ให้กองทัพเรือของนานาชาติเข้ามาลาดตระเวนในน่านน้ำของตน ขณะที่ประเทศต่างๆในภูมิภาคเองก็ยังไม่สามารถร่วมมือในเรื่องนี้ได้อย่างจริงจัง
       
ทั้งนี้ น่านน้ำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะ"ช่องแคบมะละกา" ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือระหว่างประเทศที่มีความสำคัญที่สุดในโลก โดยนอกจากจะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิกแล้ว ช่องแคบแห่งนี้ยังเป็นเส้นทางผ่านของเรือสินค้ามากกว่า 94,000 ลำต่อปี รวมถึงเรือบรรทุกน้ำมันที่มาจากตะวันออกกลาง

ที่มา -