ข่าว:

ห้ามโพส ปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

เฟ้นหา "ดาวเด่น" ภารกิจใหม่ TTA

เริ่มโดย mrtnews, ต.ค 14, 14, 19:55:37 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

คืนกำไรสู่ผู้ถือหุ้น "เฉลิมชัย มหากิจศิริ" หุ้นใหญ่ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ กล้ารับปาก พร้อมเปิดสเต็ปต่อไป "กระจายความเสี่ยง"


กลยุทธ์บริหาร บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ หรือ TTA ที่ "ตระกูลมหากิจศิริ" ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่คิดแล้วว่า "ดีที่สุด" หลังใช้เวลาประมาณ 3 ปี ในการปรับโครงสร้างธุรกิจและการบริหารภายใน

ล่าสุด TTA ตัดสินใจให้ บริษัท โซลีอาโด โฮลดิ้งส์ พีทีอี แอลทีดี จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจการลงทุน (investment holding company) เพื่อการลงทุนในโครงการต่างๆ สินทรัพย์ หรือลงทุนในบริษัทนอกประเทศไทย ในฐานะบริษัทย่อย ซื้อหุ้นเพิ่มทุน 86,000,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 0.610 ดอลลาร์สิงคโปร์

ซึ่งเป็นราคาที่มีส่วนลด 8 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับราคาตลาด ณ ปัจจุบัน มูลค่าลงทุน 36,966,631 ดอลลาร์สิงคโปร์ คิดเป็นเงินไทย 954,293,588 บาท ของ บริษัท ไซโน แกรนด์เนส ฟู้ด อินดัตรี กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่มีฐานการผลิตอยู่ที่เซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยบริษัทดังกล่าวจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์

หลังกระบวนการแล้วเสร็จบริษัทย่อยของ TTA จะถือหุ้นอันดับ 2 สัดส่วน 9 เปอร์เซ็นต์ ใน "ไซโน แกรนด์เนส ฟู้ด อินดัสตรี กรุ๊ป" รองจาก "หวง ยู่เผิง" ในฐานะประธานและผู้ก่อตั้ง "ไซโน แกรนด์เนสฯ ที่มีสัดส่วนจำนวน 35 เปอร์เซ็นต์ ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างการรอพิจารณาจากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เพื่อขออนุมัติการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน คาดว่าจะทราบผลภายในเดือน ต.ค.นี้

"ไซโน แกรนด์เนส ฟู้ด อินดัสตรี กรุ๊ป" ปัจจุบันดำเนินธุรกิจหลัก 2 อย่าง คือ เครื่องดื่มและผักผลไม้บรรจุกระป๋อง โดยในปี 2553 บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มโลโคทหรือลูกแพร์ยักษ์ (loquat juice) ภายใต้ตราสินค้า Garden Fresh ปัจจุบันเครื่องดื่มโลโคทมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ โดยมียอดขายมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของรายได้รวมในปี 2556 ล่าสุดบริษัทดังกล่าวมีแผนนำธุรกิจน้ำผลไม้เข้าสู่ตลาดต่างประเทศ

ในปี 2556 "ไซโน แกรนด์เนส ฟู้ด อินดัสตรี กรุ๊ป" มีกำไรสุทธิ 401.1 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,166.7 ล้านบาท โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทดังกล่าวมีกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 49 เปอร์เซ็นต์

แผนขยายพอร์ตสู่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มครั้งนี้ นักวิเคราะห์หลายรายทำนายในลักษณะใกล้เคียงกันว่า TTA อาจได้รับกำไรจากการลงทุนประมาณปีละ 180 ล้านบาท ฉะนั้นอาจถึง "จุดคุ้มทุน" ภายใน 4 ปี ขณะเดียวกันการโดดเข้าสู่ธุรกิจที่มีการเติบโตที่ดีจะทำให้ภาพลักษณ์และราคาหุ้นของ TTA ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของ "ตระกูลมหากิจศิริ" อยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น

เพราะก่อนหน้านี้นักลงทุนหลายรายมีประสบการณ์ที่ไม่สู้ดีนักกับ "เสี่ยเป้า-ประยุทธ มหากิจศิริ" จากการบริหารบมจ.ไทยฟิล์มอินดัสตรี่ หรือ TFI และบมจ.ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส หรือ INOX ปัจจุบัน INOX เปลี่ยนชื่อเป็นบมจ.โพสโค-ไทยน๊อคซ์ ยกตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่งบมจ.ไทยฟิล์มอินดัสตรี่ เคยนำเงินเพิ่มทุน 1,600 ล้านบาท ไปซื้อหุ้น ไทย คอปเปอร์ ซึ่ง "ประยุทธ" เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จนสำนักงาน ก.ล.ต.ต้องเรียกตรวจสอบและขอคำชี้แจง เป็นต้น

TTA เป็น Holding company ที่มีธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม คือ 1.ธุรกิจขนส่งให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือ และให้บริการเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกอง 2.ธุรกิจพลังงาน ให้บริการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่ง เหมืองถ่านหิน 3.ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ ธุรกิจปุ๋ย และโลจิสติกส์สำหรับถ่านหิน

"กึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ" กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในฐานะผู้หุ้นถือใหญ่สัดส่วน 15.92 เปอร์เซ็นต์ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ เล่าเรื่องแผนลงทุนต่อไปให้ฟังว่า แม้วันนี้เราจะเข้าไปลงทุนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่มีอนาคตยั่งยืนแล้ว แต่บริษัทไม่คิดที่จะหยุดมองหา

"Star ตัวต่อไป"

เล็งลงทุนประเทศไหนเป็นหลัก "ชายวัย 35 ปี" บอกว่า วันนี้กำลังมองการลงทุนไปในภูมิภาคเอเชีย ลักษณะการลงทุนจะเหมือนที่เข้าไปในลงทุนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม คือ เข้าถือครองกิจการที่ดี เพราะเราอยากคืนกำไรให้กับผู้ถือหุ้นบ้าง

จากการตรวจสอบข้อมูลของทีมบิสวีคพบว่า TTA จ่ายเงินปันผลครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ก.พ.2555 ในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน 4.65 เปอร์เซ็นต์ โดยบริษัทมีนโยบายเงินปันผลอย่างน้อย 25 เปอร์เซ็นต์ของกำไรสุทธิ

เขา เล่าต่อว่า TTA อยากเห็นธุรกิจใหม่ที่มีความเป็น "ดาวเด่น" เหมือนบริษัทย่อย บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ PMTA ซึ่ง TTA ถือหุ้นอยู่ 99.99 เปอร์เซ็นต์ รวมถึง บริษัท บาคองโค จำกัด (บาคองโค) ผู้ประกอบการขายและจัดจำหน่ายสินค้าในหมวดผลิตภัณฑ์ปุ๋ยและเคมีเพื่อการเกษตรที่มียอดผลิตเป็นอันดับ 2 ในประเทศเวียดนาม ซึ่งบริษัท โซลีอาโด โฮลดิ้งส์ พีทีอี แอลทีดี จำกัด ในฐานะบริษัทย่อย TTA ได้เข้าลงทุน "ร้อยเปอร์เซ็นต์" เมื่อปี 2552 ซึ่งทั้งสองบริษัทสามารถคืนทุนได้ภายใน 3 ปี ล่าสุดสร้างกำไรกลับมาในช่วงไตรมาส 3 จำนวน 300 ล้านบาท

"ธุรกิจใหม่ต้องเป็นงานที่ดีมีการเติบโตในอนาคต ที่สำคัญราคาซื้อต้องไม่แพง"

แม้ TTA จะกระจายการลงทุนไปในธุรกิจต่างๆ แต่เป้าหมายการลงทุนของเราชัดเจน นั่นคือ ต้องเป็นอุตสาหกรรมแนวหน้า ยอมรับว่า เงื่อนไขนี้ทำให้การหาของดีไม่สามาถทำได้ง่ายๆ ล่าสุดกำลังเจรจากับเจ้าของกิจการทั้งในประเทศและต่างประเทศประมาณ 2-3 ราย ขนาดกิจการ 100-1,000 ล้านบาท เรื่องเงินลงทุนนักลงทุนไม่ต้องเป็นห่วง วันนี้เรามีเงินสดอยู่ในมือประมาณ 3,000 ล้านบาท

"เป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ต้องไม่ต่ำกว่า 11 เปอร์เซ็นต์"

"เฉลิมชัย" ไม่ลืมที่จะเล่าถึงธุรกิจพลังงาน และธุรกิจขนส่ง ซึ่งเป็นงานหลักของ TTA โดยมีสัดส่วนรายได้ในปี 2556 (สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2556) คิดเป็น 44 และ 26 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับว่า นักลงทุนอาจได้เห็นทั้งสองธุรกิจหลักกลับมา "เทิร์นอะราวด์" ในงบปี 2557 (สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2557) เนื่องจากต้นทุนเกือบทุกอย่างในธุรกิจขนค่อนข้างต่ำออกแนว fixed cost ฉะนั้นหากดัชนีค่าระวางเรือปรับขึ้นไปอีก เท่ากับว่าส่วนเราจะได้กำไร

สำหรับแผนซื้อเรือใหม่ ปีนี้จะซื้อเข้ามาอีก 6 ลำ ส่งผลให้กองเรือของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 24 ลำ จากแผนของบริษัทที่ต้องการมีกองเรือขนาด 23-25 ลำ ส่วนใหญ่เป็นเรือซุปเปอร์แม็กซ์ สำหรับธุรกิจพลังงาน เขาบอกสั้นๆว่า วันนี้มีกำไรแล้ว เพราะเราทำสัญญาระยะยาวกับลูกค้า ส่วนธุรกิจปุ๋ยน่าจะสร้างกำไรสุทธิได้ปีละ 300 ล้านบาท

"ปัจจุบันธุรกิจเดินเรือ ถือว่าเติบโตขึ้นจากเดิม แต่ไม่หวือหวา ออกแนวโตไปเรื่อยๆ เมื่อเป็นเช่นนั้นเราจึงจำเป็นต้องหาธุรกิจใหม่เข้ามาทำให้บริษัทมีการขยายตัวมากขึ้น"

เขา ย้ำว่า เมื่อธุรกิจหลัก "เทิร์นอะราวด์" เราหวังว่ารายได้รวมในปี 2558 (สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2558) จะเติบโตมากกว่าปี 2557 ที่คาดว่าจะขยายตัวประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนในแง่ของกำไรสุทธิคงได้เห็นในงบปี 2557 หลังในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (สิ้นสุด 30 มิ.ย.2557) บริษัทมีกำไรสุทธิแล้วกว่า 686 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่มีผลขาดทุน 5,000 ล้านบาท

ปัจจุบันธุรกิจหลักทั้ง 3 บริษัท ได้แก่ บมจ.เมอร์เมด มาริไทม์ ,บมจ.โทรีเซนชิปปิ้ง สิงคโปร์ และบมจ.บาคองโค ยังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่วนบมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส หรือUMS ผู้นำเข้าถ่านหินคุณภาพดี มีค่าพลังงานความร้อนสูง TTA ยังคงพยายามที่จะสร้างความสมดุลให้แก่โครงสร้างเงินทุนและเร่งฟื้นฟูสถานภาพทางการเงินต่อไป ฉะนั้นปีนี้ยังคงแสดง "ผลขาดทุนสุทธิ" ในช่วงปี 2555-งวด 9 เดือนของปี 2557 UMS มีผลขาดทุนสุทธิ 288-375-86.36 ล้านบาท ตามลำดับ

ส่วนแผนการนำบริษัทย่อยคือ บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ PMTA เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เขายอมรับว่า คงเลื่อนไปเป็นต้นปี 2558 จากเดิมที่คาดว่าจะผลักดันเข้าตลาดหุ้นปลายปีนี้ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจให้ "โซลีอาโด โฮลดิ้งส์ พีทีอี แอลทีดี"เข้าลงทุนใน "ไซโน แกรนด์เนส ฟู้ด อินดัตรี กรุ๊ป" แทนจากเดิมจะใช้ PMTA เป็นผู้ลงทุน

บริษัทเตรียมจะแจ้งให้สำนักงานก.ล.ต.รับทราบ เพื่อพิจารณาอนุมัติให้เริ่มนับหนึ่งไฟลิ่งของหุ้น PMTA หลังบริษัทเตรียมข้อมูลไว้ครบแล้ว จริงๆเราไม่ได้รีบร้อนนำ PMTA เข้าจดทะเบียน เพราะยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินในขณะนี้

ที่มา -