พาณิชย์ประกาศยอดส่งออกผิด ขอแก้ไขจากขยายตัว 10.52% วูบเหลือ 2.89%

[mrtnews]

"พาณิชย์" มึนกรมศุลกากรบันทึกข้อมูลส่งออกไปฮ่องกงผิดพลาด ต้องแก้ตัวเลขส่งออกเดือน เม.ย.ใหม่ จากเดิมคิดว่าขยายตัว 10.52% มีมูลค่า 1.86 หมื่นล้านเหรียญฯ กลับกลายเป็นขยายตัวแค่ 2.89% มูลค่าหายไปกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐฯ แถมคิดเป็นเงินบาทติดลบ สรท.เตรียมลดคาดการณ์ส่งออกปีนี้โตไม่ถึง 5% ด้าน สศค.กังวลเศรษฐกิจไทยปี 2556 แผ่วลง ชี้ กนง.ควรลดดอกเบี้ยลงอีก

นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ขอปรับตัวเลขมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในเดือน เม.ย.2556 ใหม่ เป็นมีมูลค่าการส่งออก 17,409.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.89% เมื่อคิดเป็นเงินบาท มีมูลค่า 506,210.9 ล้านบาท ลดลง 1.89% จากการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 23 พ.ค.56 มีมูลค่าการส่งออก 18,698.9 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 10.52% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 543,707.7ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5.37% เพราะได้รับแจ้งจากกรมศุลกากรว่ามูลค่าการส่งออกไปฮ่องกงมีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากได้เกิดความผิดพลาดในระบบบันทึกข้อมูล โดยมียอดส่งออกจริงเพียง 887 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 12.6% จากเดิมที่แถลงไว้ มีมูลค่าส่งออก 2,177 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 176.6%

"ตัวเลขส่งออกที่ปรับลดลงไม่ใช่เป็นความผิดพลาดในการจัดทำตัวเลข แต่เป็นความผิดพลาดในระบบบันทึกข้อมูลของกรมศุลกากร กระทรวงพาณิชย์จึงต้องมีการปรับแก้ไขตัวเลขการส่งออกให้ถูกต้อง ให้ตรงตามความเป็นจริง"

ด้านนายไพบูลย์ พลสุวรรณา ที่ปรึกษาประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า สรท.เตรียมปรับลดคาดการณ์ส่งออกปี 2556 ลง โดยคาดว่าทั้งปีจะขยายตัวเพียง 4.92% จากปีก่อน เพราะแนวโน้มค่าเงินบาทจะแข็งค่าต่อเนื่อง แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% แต่สัญญาณการเก็งกำไรค่าเงินยังคงมีอยู่ ประกอบกับมาตรการที่รัฐบาลเคยประกาศออกมาเพื่อดูแลค่าเงินยังไม่ได้ดำเนินการ

ส่วนนายนพพร เทพสิทธา ประธาน สรท. กล่าวว่า สรท.กำลังจะจัดทำสมุดปกขาวเรื่องการแก้ไขปัญหาการส่งออก เสนอนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีสาระสำคัญ ขอให้รัฐบาลกำหนดการแก้ปัญหาและพัฒนาการส่งออกเป็นวาระแห่งชาติ ให้ควบคุมดูแลค่าเงินบาท ไม่ให้ผันผวนจนเกินไป และไม่แข็งค่ามากกว่าค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค ขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับสิทธิประโยชน์ทางการค้าและข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่จะทำให้การส่งออกไทยไม่เสียเปรียบชาติอื่น และเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันด้วยการเจรจาทางการค้าของรัฐบาล

นายผณิศวร ชำนาญเวช กรรมการสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่า การส่งออกสินค้าอาหารแช่เยือกแข็งปีนี้คาดว่าจะติดลบ 10-13% เพราะส่งออกกุ้งที่มีสัดส่วนสูงถึง 70% ของสินค้าอาหารแช่แข็งทั้งหมด จะลดลง 13-15% ในปีนี้ ปลา สัดส่วน 20% จะส่งออกเพิ่มขึ้น 10% และปลาหมึก สัดส่วน 10% ไม่เปลี่ยนแปลง

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เริ่มเห็นสัญญาณภาวะเศรษฐกิจที่แผ่วลง แต่ก็ยังมีความมั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสที่ 2 จะขยายตัวดีกว่าไตรมาสแรกที่ติดลบ 2.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของ
ปีที่แล้ว

"ในเดือนหน้า สศค.จะทบทวนอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจของปีนี้อีกครั้ง หลังจากตัวเลขที่แท้จริงของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไตรมาสแรกออกไม่ดี ทำให้ สศค.ต้องปรับตัวเลขใหม่ ซึ่งยอมรับว่า ขณะนี้เศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การที่เงินบาทแข็งค่าในช่วงที่ผ่านมา ทำให้กำลังซื้อภายในประเทศหดตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งสอดคล้องกับรายได้ของเกษตรกร ที่คิดเป็น 40% ของจีดีพีประเทศ ก็เกิดภาวะหดตัวเนื่องจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เช่น ยางพาราและอื่นๆ ทำให้กำลังซื้อหลักของประเทศลดลง"

นายเอกนิติ กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยช้าไป แม้ว่าเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมาจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 2.50% แล้วก็ตาม แต่สัญญาณดังกล่าว ยังไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น กนง.ควรลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอีก เพราะความล่าช้าที่เกิดจากแนวคิดที่ว่า ยังมีเวลาเพียงพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ อาจไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกปัจจุบัน

"ที่ผ่านมา สศค. สศช. และ ธปท.ในระดับปฏิบัติการมีการหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างใกล้ชิด ตัวเลขของ สศช.ถือเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่แท้จริง แต่ของกระทรวงการคลังและ ธปท.ที่แถลงข่าวประจำทุกเดือนเราเรียกว่า เครื่องชี้วัดภาวะเศรษฐกิจ ที่ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต เมื่อตัวเลขที่แท้จริงของ สศช.ออกแล้ว ธปท.ก็ควรยอมรับ ไม่เช่นนั้นก็เกิดความกังวลใจว่า สศช.ไม่น่าเชื่อถือ ยิ่งก่อให้เกิดความมั่นใจในภาพรวมของเศรษฐกิจไทยตามขึ้นมาอีก"

อย่างไรก็ตาม สศค.ยังมองว่าตัวเลขการส่งออกในเดือน เม.ย.2556 ที่กระทรวงพาณิชย์แถลงขยายตัวถึง 10.5% นั้นแม้จะเป็นตัวเลขที่ทำให้สบายใจได้ว่าการส่งออกเติบโตได้ดี แต่อัตราการส่งออกในระดับดังกล่าวค่อนข้างสูงผิดปกติ จึงขอให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยไปประสานกับกรมศุลกากรเพื่อตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง

ที่มา -