เจ้าท่าเร่งจดทะเบียนเรือประมงและติดตั้งระบบติดตามเรือ ตามกฎของ IUU

[mrtnews]

กรมเจ้าท่า เร่งจดทะเบียนเรือประมง และติดตั้งระบบติดตามเรือ ตามกฎของ IUU เพื่อให้เรือประมงไทยถูกกฎหมาย ระบุมีผลต่อการส่งออกสินค้าประมงในอนาคต

11 กุมภาพันธ์ 2558 - นายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวกรณีผลการดำเนินมาตรการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในรูปแบบแรงงานประมง และการทำประมงผิดกฎหมายว่า กรมเจ้าท่าได้มีการประชุมเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประมง คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ประมาณเดือนมิถุนายนนี้ รวมทั้งเร่งรัดระบบติดตามเรือประมง(Vessel Monitoring System-VMS) ขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป ที่กรมประมงรับผิดชอบ ขณะที่กรมเจ้าท่า รับผิดชอบออกกฎข้อบังคับสำหรับการตรวจเรือ เพื่อบังคับให้เรือประมงตั้งแต่ 60 ตันกรอส แต่การออกกฎข้อบังคับอยู่ระหว่างขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยคณะอนุกรรมการอยู่ระหว่างปรับปรุงร่างแผนระดับชาติ ในการป้องกันและยับยั้ง ขจัดการทำการประมงที่ผิดกฎหมาย ตามกฎระเบียบว่าด้วยการป้องกัน ต่อต้าน และขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงาน และไร้การควบคุม หรือ กฎระเบียบ IUU (Illegal, unreported and unregulated -การทำประมงที่ผิดกฎหมาย) ของสหภาพยุโรป เพื่อให้เหมาะสมกับการประมงไทย ตลอดจนการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบย้อนกลับ ตลอดสายการผลิตเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ การดำเนินการกับการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ต้องร่วมมือกันหลายภาคส่วน ทั้งกรมประมง กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และกองทัพเรือ ซึ่งกรมเจ้าท่า พยายามดำเนินการกับเรือ IUU ตั้งแต่ปี 2553 โดยวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 นี้ คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ เตรียมหารือร่วมกับสมาคมประมงนอกน่านน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งการติดตั้ง VMS และการทำประมงนอกน่านน้ำ

รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันมีเรือประมงทั้งหมด 46,000 ลำ จดทะเบียนต่ออายุแล้ว 26,000 ลำ ยังไม่ครบถ้วน อาจมีเรือที่ผิดกฎหมายอยู่ ขณะนี้กรมเจ้าท่า อยู่ระหว่างเร่งจดทะเบียนเรือให้แล้วเสร็จภายใน 28 กุมภาพันธ์นี้ ตามที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายไว้ อย่างไรก็ตาม ต้องการให้มีการแก้ไขกฎหมายที่ปัจจุบันมีความล้าสมัยไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวประมง ว่าหากไม่ดำเนินการตามกฎหมาย จะมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าประมงของไทยไปต่างประเทศในอนาคต หากยังมีเรือประมงที่ฝ่าฝืนไม่ลงทะเบียนอย่างถูกต้อง จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อไป

ที่มา -



กระทรวงเกษตรฯแก้ปัญหา IUU

พุธที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 -  กรุงเทพฯ - กองเกษตรสารนิเทศ กระทรวงเกษตรและสกรณ์

เกษตรฯ หารือหน่วยเกี่ยวข้องเร่งแผนควบคุมและเฝ้าระวังการทำประมง ผุดตั้งศูนย์การแจ้งเข้า-ออกเรือ 26 ศูนย์ พร้อมขอความร่วมมือกรมเจ้าท่าเร่งออกกฎข้อบังคับติดตั้งระบบติดตามเรือ ด้านกรมประมงเตรียมเจรจาอินโดฯ เอื้อภาคประมงไทยปรับตัว

นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังการประชุมประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ร่วมกับ พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ที่ประชุมได้หารือและซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติงานตามมาตรการแก้ไขปัญหาการประมง IUU ของไทย โดยขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับกรมประมงควบคุมและเฝ้าระวังการทำประมง ซึ่งกรมประมงเตรียมจัดตั้งศูนย์การแจ้งเข้า-ออกของเรือประมง (Portin – Portout) จำนวน 26 ศูนย์ ครอบคลุมพื้นที่ 22 จังหวัดชายทะเล เพื่อตรวจเรือขนาดตั้งแต่ 30 ตันกรอสขึ้นไป โดยจะเริ่มดำเนินการนำร่อง 2 จังหวัดได้แก่ ชุมพร และภูเก็ต เพื่อใช้เป็นศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกของเรือประมงในเดือนมีนาคมนี้ รวมถึงตั้งศูนย์เฝ้าระวังการทำประมงผิดกฏหมายจำนวน 18 แห่ง ซึ่งจะเริ่มดำเนินการประมาณเดือนเมษายน

สำหรับการจัดทำระบบติดตามตำแหน่งเรือ หรือ VMS ได้ขอความร่วมมือกับกรมเจ้าท่าเร่งรัดในการออกกฎข้อบังคับสำหรับการตรวจเรือที่กำหนดให้เรือประมงที่มีขนาด 60 ตันกรอสขึ้นไปติดตั้งระบบติดตามเรือโดยเร็ว ซึ่งกรมประมงจะจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมและติดตามตำแหน่งหรือศูนย์ควบคุม VMS รวม 15 แห่ง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคมนี้ รวมถึงจะประสานงานและเร่งรัดผู้ประกอบการเรือประมงนอกน่านน้ำเรือขนาดใหญ่ ให้ติดตั้ง VMS ภายใต้ความสมัครใจ ก่อนเข้าสู่ข้อบังคับกรมเจ้าท่า และ พ.ร.บ.การประมงมีผลบังคับใช้
นายปีติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของการแก้ไขปัญหาการทำการประมงนอกน่านน้ำในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้ออกกฎระเบียบการทำการประมงใหม่ที่ไทยจะต้องปรับตัวรับสถานการณ์ ซึ่งในสัปดาห์นี้เจ้าหน้าที่กรมประมงของไทยจะเดินทางไปเจรจากับอินโดนีเซีย ในประเด็นต่างๆ เช่น แนวทางการลงทุนในอนาคต กฎระเบียบ ข้อกำหนดต่างๆ ที่จะส่งผลต่อการทำการประมงในอินโดนีเซียที่ภาคประมงของไทยต้องปรับตัว ทั้งนี้ หากได้กรอบการพิจารณาที่ชัดเจนแล้ว จะเดินทางไปหารือในระดับรัฐมนตรีเพื่อเจรจาแนวทางการที่ไทยจะร่วมลงทุนในอนาคต ซึ่งอาจจะก้าวไปถึงการร่วมลงทุนในระดับรัฐบาลของสองประเทศ

ด้านนายจุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมประมง เปิดเผยถึงผลความคืบหน้าการจดทะเบียนเรือประมงและออกใบอนุญาตทำการประมง ที่กรมประมงได้มีการออกหน่วยเคลื่อนที่ตั้งแต่ 12 ม.ค.58 ล่าสุดขณะนี้มีการจดทะเบียนเรือประมงจำนวน 4,738 ลำ และมีใบอนุญาตทำการประมงจำนวน 8,494 ลำ ทำให้ขณะนี้มีเรือประมงที่จดทะเบียนแล้วรวม 51,205 ลำ และมีใบอนุญาตทำการประมงรวม 25,216 ลำ สำหรับการควบคุมและเฝ้าระวังการทำประมงผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.การประมง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 ถึงปัจจุบันพบผู้กระทำผิดจำนวน 176 คดี และผู้ต้องหา 878 ราย.

ที่มา -