ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา อาหาร ยา และเครื่องสำอางค์ รวมถึงสมุนไพรทุกชนิด ไม่ว่าจะมี อย. หรือไม่  เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

แผ่นน้ำแข็งแอนตาร์กติกขั้่วโลกใต้ละลายเร็วกว่าที่คิดมาก

เริ่มโดย mrtnews, มี.ค 07, 15, 10:19:51 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแผ่นน้ำแข็งและกลาเซียร์ ทั้งจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และชิลี เตือนว่า แผ่นน้ำแข็งขั้่วโลกใต้ละลายเร็วกว่าที่คิดมาก จนสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างแผ่นดินของโลกได้ภายใน 1-2 ศตวรรษ


นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้มีตั้งแต่ เจอร์รี ไมโตรวิกา นักธรณีฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา, ปีเตอร์ คอนเวย์ และพอล ฮอลแลนด์ จากทีมสำรวจแอนตาร์กติกแห่งอังกฤษ, ริคาร์โด ยานา นักกลาเซียร์วิทยา จากสถาบันแอนตาร์กติกชิลี รวมไปถึง เอริค รีโญต์ ศาสตราจารย์ด้านระบบโลกขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา)

ในการสำรวจพื้นที่คาบสมุทรแอนตาร์กติก ทีมสำรวจแอนตาร์กติกของอังกฤษพบว่า ในบริเวณดังกล่าวน้ำแข็งละลายเร็วกว่าที่คิดไว้มาก น้ำที่อุ่นกว่าทำให้น้ำแข็งละลายหดตัวขึ้นไปอยู่บนส่วนที่เป็นแผ่นดิน ในเวลาเดียวกันก็ทำให้อุณหภูมิของอากาศในบริเวณนั้นอุ่นขึ้นตามไปด้วย ตามข้อมูลของริคาร์โด ยานา แสดงให้เห็นว่า ในช่วงระยะเวลาเพียง 50 ปีที่ผ่านมา บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นถึง 3 องศาเซลเซียส สูงเกินกว่าค่าเฉลี่ยของการปรับตัวสูงขึ้นของอุณหภูมิทั่วโลก

ข้อมูลจากดาวเทียมขององค์การนาซาแสดงให้เห็นภาพรวมที่น่าวิตกกว่านั้น น้ำแข็งของทวีปแอนตาร์กติกละลายในทุกๆ ที่ที่สัมผัสกับน้ำทะเล เพิ่มน้ำจำนวนมหาศาลให้กับมหาสมุทร รวมแล้ว 118,000 ล้านเมตริกตันต่อปี ปริมาณน้ำดังกล่าวนั้นมีน้ำหนักมากกว่าตึกเอ็มไพร์สเตทรวมกัน 356,000 ตึก หรือสามารถนำไปเติมเต็มให้กับสระว่ายน้ำสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ได้มากกว่า 1.3 ล้านสระ

ที่สำคัญอัตราการหลอมละลายยิ่งนับวันยิ่งเร่งเร็วขึ้นกว่าเดิม


สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นก็คือ น้ำที่อุ่นขึ้นกำลังไล่ละลายน้ำแข็งไปเรื่อยๆ จากด้านใต้ผืนน้ำแข็ง ยิ่งนานไปน้ำแข็งที่เคยจับตัวแข็งอยู่เหนือน้ำทะเลก็บางลงและแตกกระจัดกระจายละลายตามไปด้วย เหตุผลสำคัญก็คือภาวะโลกร้อนทำให้รูปแบบของกระแสลมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม พัดพากระแสน้ำอุ่นให้เยื้องขึ้นเหนือมาอยู่ใต้ผืนน้ำแข็ง บริเวณคาบสมุทรแอนตาร์กติก ส่งผลให้อุณหภูมิโดยรวมของบริเวณดังกล่าวอุ่นขึ้น น้ำแข็งบางลงราว 0.34 มิลลิเมตรต่อปี และถูกไล่ร่นขึ้นไปเหนือพื้นดินเรื่อยๆ

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ถ้าหากยังปล่อยไว้ให้ทุกอย่างดำเนินไปเช่นนี้ การหลอมละลายของน้ำแข็งจะทำให้น้ำในมหาสมุทรเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คิดจนไม่มีเวลาเตรียมตัวรับมือ การคำนวณในกรณีที่เลวร้ายที่สุดพบว่า อาจเป็นภายใน 100-200 ปีข้างหน้า น้ำแข็งที่ละลายลงมาจะทำให้น้ำในมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้นถึง 3 เมตร บ่าท่วมพื้นที่แนวชายฝั่งและเปลี่ยนแปลงรูปร่างของแผ่นดินชายฝั่งไปโดยสิ้นเชิง

แต่ในระหว่างนั้น ในช่วงอีกเพียง 2-3 ทศวรรษข้างหน้า เมืองใหญ่ริมทะเลเหล่านั้นต้องใช้งบประมาณไม่น้อยกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อรองรับความเสียหายอันเกิดขึ้นจากภาวะน้ำท่วม

เอริค รีโญต์ แห่งนาซาบอกว่า มนุษย์ต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อยับยั้งหรือทำให้การละลายดังกล่าวนี้เป็นไปช้าที่สุดตั้งแต่บัดนี้

ที่มา -