ข่าว:

ห้ามโพส ปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

ยามฝั่งสหรัฐเผยเกิดเหตุท่อน้ำมันรั่วมากกว่า 100,000 แกลลอนในอ่าวแคลิฟอร์เนีย

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 21, 15, 19:29:26 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สหรัฐเผยท่อน้ำมัน เพลนส์ ออล อเมริกัน (Plains All-American Pipeline) ขนาด 24 นิ้ว รั่วนอกชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย แต่ยังหาสาเหตุการรั่วไม่ได้


โฆษกหน่วยยามฝั่งสหรัฐ นาวาเรือหญิง แอนเดรีย แอนเดอร์สัน แถลงว่า เกิดเหตุท่อน้ำมันของบริษัทเพลนส์ ออล อเมริกัน ไพพ์ไลน์ รั่วที่นอกแนวชายฝั่งใกล้กับเมืองซานตา บาร์บาราในรัฐแคลิฟอร์เนีย ส่งผลให้มีน้ำมันประมาณมากกว่า 100,000 แกลลอนไหลลงสู่มหาสมุทรและชายหาด โดยไหลไปไกลราว 6.4 กิโลเมตรตลอดชายหาดเรฟูจิโอ สเตท และลอยกระจายอยู่ในทะเลเป็นวงกว้างราว 46 เมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการรั่วได้ และกำลังระดมเจ้าหน้าที่ยามฝั่ง กรมปลาและสัตว์ป่า และเขตปกครอง ซันตา บาร์บารา เร่งจัดการคราบน้ำมันดังกล่าว

ที่มา -




มะกันเร่งกำจัดคราบน้ำมัน 21,000 แกลลอน รั่วเต็มหาดแคลิฟอร์เนีย

เกิดน้ำมันรั่วจากท่อส่งน้ำมันบริเวณชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ส่งผลให้น้ำมันกว่า 21,000 แกลลอนรั่วไหลลงทะเล และบางส่วนถูกน้ำซัดเปรอะเปื้อนเต็มชายหาด...


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯเริ่มปฏิบัติการกำจัดคราบน้ำมันบริเวณชายฝั่งของซานตา บาร์บารา เคาน์ตี ของรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกครั้งเมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ 20 พ.ค.58 หลังจากเกิดเหตุน้ำมันจำนวนถึง 21,000 แกลลอน (ราว 80,000 ลิตร) รั่วไหลออกจากท่อส่งน้ำมันใต้ดินความยาว 11 ไมล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายส่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของเคิร์น เคาน์ตี

เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดน้ำมันรั่วไหลครั้งแรกเมื่อเวลาประมาณเที่ยงวันอังคาร หลังจากผู้หญิงคนหนึ่งที่ชายหาด 'รีฟูจิโอ สเตท' ในเมืองโกเลตา ได้กลิ่นเหม็นน้ำมันอย่างรุนแรง โดยเจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งสามารถหยุดการรั่วไหลของน้ำมันได้ในเวลาประมาณ 15:00 น. แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดการรั่วไหล และกำลังพยายามประเมินความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ ท่อส่งน้ำมันใต้ดินความยาว 11 ไมล์ดังกล่าว เป็นของบริษัท 'แพลนส์ ออล อเมริกัน ไพพ์ไลน์' ถูกสร้างขึ้นในปี 1991 และถูกออกแบบให้รองรับการส่งน้ำมันได้วันละ 150,000 บาร์เรล

ในวันพุธ บริษัท แพลนส์ ออล อเมริกัน ไพพ์ไลน์ ส่งเจ้าหน้าที่ 60-70 คนไปช่วยเหลือหน่วยยามฝั่งกำจัดคราบน้ำมันในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งน้ำมันบางส่วนลอยมาเปรอะเปื้อนเต็มชายหาดแล้ว ขณะที่ สำนักงานสภาพอากาศแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) เตือนว่าอิทธิพลจากกระแสลม ทำให้น้ำมันในทะเลลอยเข้าใกล้ชายหาดของเมือง อิสลา วิสตา มากขึ้น

ที่มา -




แคลิฟอร์เนียประกาศภาวะฉุกเฉินหลังท่อน้ำมันระเบิด

แคลิฟอร์เนียประกาศภาวะฉุกเฉินหลังเกิดเหตุท่อน้ำมันระเบิดทำให้น้ำมันหลายพันบาร์เรลรั่วและเกิดคราบบนหาดทราย-ทะเล


วันนี้ (21 พ.ค. 58) เจอร์รี่ บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุท่อส่งน้ำมันใต้ดินระเบิดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทำให้น้ำมันดิบจำนวน 2,500 บาร์เรลหรือ105,000 แกลลอน รั่วไหลออกมา เกิดเป็นคราบน้ำมันเปื้อนทั่วชายหาดในเมืองซานตาบาร์บาร่าของแคลิฟอร์เนีย โดย 1 ใน 5 ของน้ำมันดิบ รั่วลงในมหาสมุทรแปซิฟิกด้วย โดยปริมาณน้ำมันที่รั่วจริงนี้ สูงกว่าที่ประเมินไว้ตอนแรกถึง 5 เท่า และทำให้เหตุน้ำมันรั่วครั้งนี้ ร้ายแรงที่สุดในรอบ 46 ปีของแคลิฟอร์เนียนับตั้งแต่ปี 2512 เป็นต้นมา

คนงานราว 300 คนกำลังเก็บกวาดคราบน้ำมันบนหาดทราย และเรืออีก 9 ลำเก็บกวาดคราบน้ำมันในทะเล โดยเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันแรกของการเก็บกวาด สามารถเก็บคราบน้ำมันไปได้ประมาณ 120 บาร์เรล จากทั้งหมด 2,500 บาร์เรล โดยคราบน้ำมันทำให้หาดทรายกลายเป็นสีดำเป็นพื้นที่ราว 6 กิโลเมตร และเกิดคราบน้ำมันเป็นพื้นที่กว่า 14 กิโลเมตรในทะเล

ด้านบริษัทเพลนส์ ออล อเมริกัน ไปป์ไลน์ เจ้าของท่อน้ำมันที่ระเบิด ได้ปิดท่อส่งน้ำมันที่ระเบิดแล้ว ส่วนหาดรีฟิวจิโอ้ สเตท และหาดเอล แคปปิตัน สเตท ชายหาด 2 แห่งในแคลิฟอร์เนียที่นักท่องเที่ยวนิยมมาตั้งแคมป์ ต้องปิดไปจนถึงช่วงสุดสัปดาห์ และมีคำสั่งห้ามการจับปลาและหอยในพื้นที่เกิดเหตุด้วย 

มีรายงานว่านกเพลิแกนและสัตว์ทะเลอื่นๆ ที่ตัวเปื้อนคราบน้ำมัน ถูกน้ำทะเลซัดขึ้นฝั่งแล้ว ขณะนี้ทีมพิทักษ์ชีวิตป่าได้ลงพื้นที่เพื่อช่วยชีวิตนกทะเล สัตว์น้ำประเภทสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และชีวิตสัตว์อื่นๆ โดยเน้นที่สถานที่อ่อนไหว 3 แห่ง ซึ่งเป็นพื้นที่วางไข่ของนกชายฝั่ง โดยจุดที่น้ำมันรั่วอยู่ใกล้กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งเป็นที่อยู่ของสัตว์น้ำประเภทสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 25 สายพันธ์ และนกทะเลอีก 60 สายพันธุ์

ที่มา -




..-