เรือสินค้าเทกองสิงคโปร์ MBC Bulker วิ่งติดเกยตื้นนอกฝั่งฟิลิปปินส์ ลูกเรือตาย 1

[mrtnews]

หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ออกรายงานแจ้งว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2558 ได้ทำการอพยพลูกเรือชาวฟิลิปปินส์จำนวน 20 คนออกจากเรือบรรทุกสินค้าแห้งแบบเทกอง (Bulk Carrier) ชื่อ Alam Manis ที่ประสบอุบัติเหตุแล่นเรือติดเกยตื้นที่จุดห่างประมาณ 1 ไมล์ทะเลนอกฝั่งของเมืองซานตาลูเซีย (Santa Lucia ) จังหวัด Ilocos Sur ประเทศฟิลิปปินส์

"ก่อนหน้านี้มีรายงานแจ้งว่า ลูกเรือ 2 คนจากทั้งหมด 21 คนของเรือสินค้าเทกอง  Alam Manis ได้สูญหายไป ซึ่งคนหนึ่งถูกระบุว่าเป็น C/M Henry Libo-on ผู้ที่เสียชีวิตจากโรคหัวใจล้มเหลว" หน่วยยามฝั่งกล่าว

เรือสินค้าเทกอง Alam Manis ความยาว 183 เมตร กว้าง 32 เมตรมีผู้จัดการเรือคือบริษัท LEO SHIPMANAGEMENT อยู่ในเมืองมนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีรายงานแจ้งว่า เรือโดนคลื่นทะเลขนาดใหญ่ซัดรุนแรงจนเป็นผลให้เรืออกนอกเส้นทางจนกระทั่งลอยไปติดเกยตื้น ขณะเกิดเหตุเรือกำลังขนส่งสินค้าเป็น "แร่นิกเกิล" (nickel ore cargo) ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เรือสูญเสียความมั่นคง (stability) จนในที่สุดเรือได้เอียงไปด้านหนึ่ง

เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น เรือสินค้า Alam Manis อยู่ในเส้นเดินทางไปยังช่องทางเดินเรือ  Balintang Channel ในช่องแคบ Luzon Strait โดยมีกัปตันเรือชื่อ กัปตันออร์แลนโด (Captain Orlando Cabalatungan)

ในขณะเดียวกันที่ลูกเรือส่วนที่เหลืออยู่ 20 คนได้รับการช่วยเหลือโดยเรือทักลากจูง MT Salviscount และเรือเฟอร์รี่ช่วยนำไปส่งยังท่าเรือซานเฟอร์นันโด (port of San Fernando) เมือง La Union

ยังไม่มีรายงานถึงการรั่วไหลของน้ำมันรั่วไหลลงในน่านน้ำบริเวณใกล้เคียงที่เรือสินค้า Alam Manis ติดเกยตื้นอยู่ อย่างไรก็ดีทางสถานียามฝั่ง (CGS - Coast Guard Station) Salomague ได้ทำการวางบูมกันคราบน้ำมัน (oil spill boom ) ล้อมรอบเรือสินค้า Alam Manis เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรั่วไหลของคราบน้ำมันแพร่กระจายออกไปหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

หน่วยยามฝั่งกล่าวว่า เรือทักลากจูง MT Salviscount จะยังคงรออยู่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับเรือสินค้า Alam Manis เพื่อคอยช่วยเหลือและติดตามสถานการณ์ต่อไป

เรือบรรทุกสินค้าแห้งแบบเทกอง (Bulk Carrier) ชื่อ Alam Manis รหัสหมายเลข IMO คือ 9397834 ขนาด 55652 dwt สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2007 จดทะเบียนชักธง Singapore

[youtube=640,390]http://www.youtube.com/watch?v=FbPH9fB8zVc[/youtube]

ที่มา - | แปลและเรียบเรียงข่าวโดย