ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

สมาคมเดินเรือสิงคโปร์ เตือนระวังหมอกควันช่องแคบมะละกา

เริ่มโดย mrtnews, มิ.ย 22, 13, 15:50:25 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ว่า สมาคมเดินเรือแห่งประเทศสิงคโปร์ แถลงว่า มีเรือกว่า 140 ลำ ซึ่งมีทั้งเรือบรรทุกน้ำมัน และเรือโดยสารข้ามฟาก ใช้เส้นทางเดินเรือที่พลุกพล่านอยู่แล้วของช่องแคบมะละกาในแต่ละวัน แต่ทัศนวิสัยอาจเลวร้าย อันเนื่องจากหมอกควันจากไฟป่าในประเทศอินโดนีเซีย จึงขอเตือนให้ระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นและเดินเรือด้วยความระมัดระวังผ่านช่องแคบมะละกาและสิงคโปร์


นายแดเนียล ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของสมาคมเดินเรือแห่งประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า ช่องแคบมะละกาและช่องแคบสิงคโปร์ เป็นหนึ่งในช่องแคบที่พลุกพล่านที่สุดและแคบที่สุดของการเดินเรือระหว่างประเทศ

หมอกควันจากไฟป่าบนเกาะสุมาตราประเทศอินโดนีเซีย เกิดจากการเผาและแผ้วถางที่ดิน กลายเป็นหมอกควันที่ปกคลุมสิงคโปร์ บางส่วนของมาเลเซีย และ ช่องแคบมะละกาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ที่มา -




เตือนหมอกควันไฟป่าอินโดฯก่อความเสี่ยงเรือชนกันในช่องแคบมะละกา

เอเอฟพี - เหล่าบริษัทเดินเรือนเตือนเมื่อวันศุกร์(21) หมอกควันจากไฟป่าอินโดนีเซีย อาจก่ออุบัติเหตุระหว่างเดินเรือในช่องแคบสิงคโปร์และช่องแคบมะละกาที่พลุกพล่านอยู่แล้ว ซึ่งก่อความเสี่ยงมีสิทธิ์เกิดภัยหายนะจากน้ำมันรั่ว

สมาคมเดินเรือแห่งประเทศสิงคโปร์(เอสเอสเอ)บอกว่าปกติแล้วก็มีเรือกว่า 140 ลำ ทั้งเรือบรรทุกน้ำมัน และเรือโดยสารข้ามฟาก ใช้เส้นทางเดินเรือแคบๆของช่องแคบมะละกาในแต่ละวัน แต่ด้วยทัศนวิสัยที่เลวร้าย อันเนื่องจากหมอกควันจากไฟป่าก็เป็นผลให้สภาพแวดล้อมอันตรายยิ่งขึ้น

หมอกควันจากไฟป่าอินโดนีเซียปกคลุมสิงคโปร์

"เอสเอสเอ มีความกังวลใหญ่หลวงเกี่ยวกับผลกระทบของสภาวะหมอกควันที่เลวร้ายลงเรื่อยต่อความปลอดภัยด้านการเดินเรือนผ่านช่องแคบมะละกาและช่องแคบสิงคโปร์" ถ้อยแถลงสมาคมเดินเรือแห่งประเทศสิงคโปร์ระบุ

นายแดเนียล ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของสมาคมเดินเรือแห่งประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่าช่องแคบมะละกาและช่องแคบสิงคโปร์ เป็นหนึ่งในช่องแคบที่พลุกพล่านที่สุดและแคบที่สุดของการเดินเรือระหว่างประเทศ "แน่นอนว่าทัศนวิสัยที่สั้นลงท่ามกลางการสัญจรทางเรือที่แออัด จะส่งผลต่อความปลอดภัยในการเดินเรือผ่านช่องแคบทั้งสอง"

เขาเตือนต่อว่า "ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุใดๆ ชีวิตมนุษย์และสิ่งแวดล้อมทางทะเลล้วนแต่ตกอยู่ในความเสี่ยง โดยเฉพาะหากมันเกี่ยวข้องกับเรือบรรทุกน้ำมันดิบขนาดใหญ่ เหตุน้ำมันรั่วทะลักจากเรือบรรทุกน้ำมันไม่เพียงก่อผลกระทบต่อเนื่องร้ายแรงต่อชีวิตทางทะเลในช่องแคบทั้งสองแล้ว แต่มันยังส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวประมงหรือใครก็ตามที่พึ่งพาอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว"

หมอกควันจากไฟป่าบนเกาะสุมาตราประเทศอินโดนีเซีย เกิดจากการเผาและแผ้วถางที่ดิน กลายเป็นหมอกควันที่ปกคลุมสิงคโปร์ บางส่วนของมาเลเซีย และ ช่องแคบมะละกาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในขณะที่อินโดนีเซียกำลังพยายามเร่งดับไฟ ข้อมูลจากหน่วยเฝ้าระวังของรัฐบาลสิงคโปร์ระบุว่าค่าหมอกควันของสิงคโปร์ก็ขึ้นสู่ระดับ 400 ซึ่งถือเป็นระดับที่อันตรายต่อชีวิตของผู้ป่วยและผู้สูงอายุ

ที่มา -




มลพิษ 'สิงคโปร์' พุ่งค่า 'PSI' 400

ค่าดัชนีมาตรฐานมลพิษในอากาศ (PSI) สิงคโปร์ แตะ 400 สถานทูตไทย เตือนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหมด หรือสวมหน้ากาก N95 ด้าน อินโดนีเซีย สั่งระดมเร่งทำฝนเทียม

21 มิ.ย. 56  โรงพยาบาลในสังกัดของรัฐบาลสิงคโปร์ ต้องเร่งติดตั้งเครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ , เครื่องเป่าลม และพัดลม เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ป่วยจะได้รับอากาศที่สะอาดถ่ายเท เนื่องจากระดับของควันไฟที่เกิดจากไฟป่าในอินโดนีเซีย ที่กำลังปกคลุมท้องฟ้าของสิงคโปร์ ทำให้ผู้ป่วยของโรงพยาบาลในสิงคโปร์ ไม่สามารถได้รับอากาศบริสุทธิ์ ผ่านทางการเปิดหน้าต่างได้

ผู้บริหารของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติ หรือ NUH บอกว่า ถ้าต้องปิดหน้าต่างทุกบาน อากาศก็จะไม่ถ่ายเทและอับ ทำให้ต้องเอาเครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่มากกว่า 100 เครื่อง ไปติดตั้งตามแผนกต่างๆ  // โรงพยาบาลชางกี เจนเนอรัล ได้ใช้วิธีที่เรียกว่า " blasting air " ที่ใช้แรงดันที่ทำให้อากาศไหลเวียน เพื่อให้อากาศในทุกแผนกสดชื่นตลอดเวลา ส่วนโรงพยาบาล คู เต็ค พ้วก หรือ KTPH ต้องไปเช่าพัดลม และเครื่องเป่าลมมาใช้ และยังมีผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงจากควันไฟ อยู่ในแผนกพิเศษที่มีการป้องกันอย่างเข้มข้นด้วย รวมถึงจำกัดให้ญาติเข้าเยี่ยมผู้ป่วยได้ครั้งละ 2 คน

กระทรวงสาธารณสุข ได้เตือนให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้าน ขณะที่ดัชนีมาตรฐานมลพิษในอากาศ หรือ PSI เมื่อเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 10.00 น. ตามเวลาในไทย อยู่ที่ 400 หลังจากสูงถึง 371 เมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำลายสถิติสูงสุดของเมื่อปี 2540 ที่อยู่ที่ 226 // ได้มีการเตือนประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัย N95 และแม้กระทั่งผู้ใหญ่ที่สุขภาพแข็งแรง ก็ควรหลีกเลี่ยงการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน ปัจจุบัน มีประชาชนจำนวนมาก ไปพบแพทย์เพราะมีอาการต่างๆ ที่เกิดจากหมอกควัน เช่น เคืองตา แสบตา ไอ หอบหืด และเจ็บหน้าอก และแพทย์ต้องออกใบรับรองแพทย์ให้คนงานจำนวนมาก เพื่อให้พักผ่อนที่บ้าน


บรรดาบริษัทหลายแห่ง ได้พยายามคุ้มครองพนักงาน และจัดหาสวัสดิการให้ โดยเฉพาะพวกที่ต้องการทำงานกลางแจ้ง เช่น บริษัทก่อสร้างต่างสรุปวิธีการและจัดหาหน้ากากป้องกันให้พนักงาน ส่วนบริษัทแม็คคอนเนลล์ โดเวลล์ ที่มีโครงการก่อสร้างในจูร่ง และออร์ชาร์ด โร้ด ได้ส่งพนักงาน 500 คน กลับบ้านตั้งแต่ช่วงบ่าย เพราะมีหลายคนไอและแสบตา และแม้อาจจะต้องผิดสัญญากับผู้ว่าจ้าง แต่ก็จำเป็น เพราะพนักงานอาจป่วยถ้าขืนทำงานต่อไป // บริษัทเฮซาคอน คอนสตรั๊คชั่น ระบุว่า จะระงับการทำงานถ้าค่า PSI ขึ้นไปถึง 400

กระทรวงแรงงาน ระบุว่า นายจ้างมีหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยให้ลูกจ้าง // ซิงโพสต์ ได้ตั้งโทรศัพท์สายด่วนสำหรับบุรุษไปรษณีย์และพนักงานส่งพัสดุ 1,400 คน ในกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือ พร้อมแจกหน้ากากอนามัยและน้ำตาเทียมให้ด้วย // นอกจากนี้ ยังมีการแจกหน้ากากอนามัยให้คนขับแท็กซี่ และเตือนให้ขับด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากทัศนวิสัยเลวร้ายมาก

ท่าเรือ เช่น ท่าเรือจูล่ง ได้ลดการทำงานกลางแจ้งลง คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ หรือการหายใจ และคนอายุมากกว่า 55 ปี ให้ทำงานอยู่ภายในอาคาร ทางคณะกรรมการบริหารวนอุทยานแห่งชาติ ได้แจ้งให้พนักงานรีบไปพบแพทย์ถ้ารู้สึกไม่สบาย

แม็คโดนัลด์ , KFC และพิซซ่า ฮัท ได้ระงับบริการส่งถึงบ้าน แต่ภายหลังได้เปลี่ยนไปใช้รถตู้และรถยนต์ส่งแทนรถจักรยานยนต์ โดยบอกว่า ไม่อาจรับปากได้ว่าจะส่งได้ทั่วถึงทุกพื้นที่ แต่ก็จะทำอย่างดีที่สุด // มีชาวสิงคโปร์จำนวนหนึ่ง ตั้งกลุ่ม เอสจี เฮซ เรสเคียว (SG Haze Rescue) เพื่้อออกไปช่วยเหลือคนอื่น โดยเริ่มจากการใช้เฟซบุ๊ก เรียกร้องให้คนออกไปช่วยเหลือและบริจาคหน้ากากอนามัย และปรากฏว่า ประกาศไปได้แค่วันเดียว ก็ได้รับหน้ากากอนามัยมากถึง 200 อัน และกลุ่มอาสาสมัครได้นำไปตระเวนแจกตามบ้านเรือน และพบว่า มีคนราว 120 คน อีเมล์ไปขอความช่วยเหลือจากกลุ่มนี้ด้วย และคาดว่าจะได้รับบริจาคหน้ากากอนามัยเพิ่มอีกราว 2 พันอัน

สถานทูตไทยในสิงคโปร์ เตือนค่ามลพิษระดับ 400 อันตราย

เว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศสิงคโปร์ ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์หมอกควันและมลพิษในประเทศสิงคโปร์ของวันที่ 21 มิ.ย. 2556 ซึ่งได้แจ้งว่า สถานการณ์หมอกควันและมลพิษในสิงคโปร์จะยังคงอยู่อีกระยะหนึ่ง หรือประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยสถานทูตขอให้คนไทยในสิงคโปร์ได้ติดตามการเฝ้าระวังล่าสุดที่ เกี่ยวข้องกับสถานการณ์หมอกควันและมลพิษในสิงคโปร์อย่างใกล้ชิด ได้จากเว็บไซต์ขององค์กร สิ่งแวดล้อมแห่งชาติสิงคโปร์ (National Environment Agency) ที่ http://nea.gov.sg/

ในแถลงการณ์ของสถานทูต ระบุว่า ระดับมลพิษตามมาตรวัด PSI ณ วันที่ 21 มิ.ย. 2556 เวลา 11.00 น. อยู่ที่ระดับ 400 ซึ่งเป็นระดับที่เข้าข่ายอันตราย (hazardous) โดยทางการสิงคโปร์ได้แนะนำให้ผู้มีโรคประจำตัวโดยเฉพาะเกี่ยวกับหัวใจและปอด เด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหมด หรือสวมหน้ากากประเภท N95 หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และบุคคลทั่วไปขอให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานและกิจกรรม ทางกายภาพนอกอาคาร โดยหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้สวมหน้ากากประเภท N95 เช่นกัน

สำหรับแรงงานไทยในสิงคโปร์ ทางสถานทูตได้ประสานกับสำนักงานแรงงานในประเทศสิงคโปร์ให้แรงงานไทยในสิงคโปร์ติดตาม สถานการณ์และข้อมูลกับสำนักงานแรงงานฯ อย่างใกล้ชิด โดยสำนักงานแรงงานในประเทศสิงคโปร์ได้ประสานกับนายจ้างของแรงงานไทยแล้ว เพื่อให้มีมาตรการดูแลแรงงานไทยอย่างใกล้ชิด โดยจัดให้สวมหน้ากากขณะทำงานและอาจพิจารณาให้หยุดงานโดยได้รับค่าจ้างหาก สถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม

ขณะที่นักท่องเที่ยวและคนไทยที่เดินทางไปสิงคโปร์ ทางสถานทูตขอให้ติดตามสถานการณ์และการเฝ้าระวังของหน่วยงานของสิงคโปร์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบุคคลที่มีโรคเกี่ยวกับหัวใจและปอด รวมทั้งเด็ ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ (ตามที่ฝ่ายสิงคโปร์ได้แจ้งเตือน) หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมการกลางแจ้งในสิงคโปร์ หรือชะลอการเดินทางไปยังสิงคโปร์ (หากไม่มีความจำเป็น) ในช่วงที่ยังคงมีสถานการณ์หมอกควันและมลพิษในช่วงนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวและคนไทยกลุ่มอื่นอาจพิจารณานำหน้ากากป้องกันหมอกควัน (ประเภท N95) ติดตัวมาด้วย เนื่องจากสถานการณ์นี้อาจยังคงมีอยู่อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์

สถาน เอกอัครราชทูตฯ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจในสถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถติดต่อได้ หมายเลขโทรศัพท์ +65 8421 0105 และ +65 8289 8934 email : haze@thaiembassy.sg

'อินโดนีเซีย' เร่งทำฝนเทียม - ขนน้ำดับไฟป่า

ในการประชุมฉุกเฉิน เมื่อคืนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ของอินโดนีเซีย ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายนรับมือภัยพิบัติ เร่งใช้ทรัพยากรทั้งหมด ดับไฟบนเกาะสุมาตราโดยทันที หลังเกิดควันไฟหนาทึบลอยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน // วิกฤติด้านสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่าหนึ่งทศวรรษ สามารถมองเห็นได้จากควันไฟที่ลอยปกคลุมอยู่ตามที่อยู่อาศัยของประชาชน รวมถึงตึกระฟ้าใจกลางเมืองด้วย ซึ่งนายลี เซียง หลุง นายกรัฐมนตรี ได้เตือนว่า อาจจะต้องเผชิญสถานการณ์แบบนี้ไปอีกหลายสัปดาห์

สำนักงานภัยพิบัติฉุกเฉินของอินโดนีเซีย ระบุว่า ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ พร้อมอุปกรณ์ทำฝนเทียม จากกรุงจาการ์ต้าและเกาะบอเนียว ไปยังจังหวัดริอู ที่พื้นที่ป่าหลายร้อยไร่ที่เรียกว่า พีทแลนด์ หรือ แหล่งทับถมของซากพืชที่สลายตัวที่เป็นขั้นตอนแรกของการเกิดถ่านหิน และกำลังติดไฟลุกไหม้อยู่ในปัจจุบัน

ทางการได้ตั้่งความหวังว่าจะสามารถทำฝนเทียมได้ภายในวันนี้ และยังจะส่งเฮลิคอปเตอร์อีกหลายลำ เพื่อนำน้ำไปดับไฟด้วย แต่ยังไม่สามารถกำหนดกรอบของเวลาได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่อยู่ภาคพื้นดินก็ยังคงทำงานอย่างขะมักเขม้น ในการดับไฟที่อยู่บนพื้นผิวของพีทแลนด์

ในขณะที่อินโดนีเซีย พยายามเร่งดับไฟ ค่าดัชนีมาตรฐานมลพิษในอากาศ หรือ PSI ของสิงคโปร์ ได้ขึ้นไปที่ 401 แล้ว เมื่อเวลา 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 11.00 น. ตามเวลาในไทย ซึ่งเป็นระดับที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้ป่วยและคนชรา

หมอกควันล่าสุดนี้ ถูกระบุว่า เป็นผลมจากการไฟป่าในอินโดนีเซีย ที่น่าจะเกิดการแผ้วถางเพื่อทำการเกษตรด้วยวิธีที่ง่ายและราคาถูก จนเกิดไฟไหม้ลุกลามเนื่องจากตรงกับช่วงหน้าแล้ง ที่เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน พื้นที่หลายส่วนของมาเลเซีย ด้านที่ติดกับสิงคโปร์ ได้รับผลกระทบจากหมอกควัน ในสัปดาห์นี้ ส่วนชาวสิงคโปร์ได้รับผลกระทบเต็มที่ต่อการดำรงชีวิตประจำวัน เนื่องจากไม่สามารถทำกิจกรรมตามปกติ เพื่อปกป้องตัวเอง / ร้านอาหารจานด่วน หรือฟาสต์ฟู้ด ยกเลิกการส่งอาหาร กองทัพระงับการฝึก และการแข่งวิ่งมาราธอน ต้องย้ายไปจัดในร่ม

ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัย ในขณะเดินทางหรือออกจากบ้าน ร้านขายยาบอกว่า หน้ากากขายดีจนขาดตลาด และไม่กล้ารับสั่งจองล่วงหน้า // วิเวียน บาลากริสนัน รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรน้ำของสิงคโปร์ ที่เรียกร้องให้อินโดนีเซียเร่งจัดการกับไฟป่า ได้มีกำหนดจะพบกับรัฐมนตรีของอินโดนีเซียในวันนี้

วิกฤติไฟป่า ทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างสิงคโปร์กับอินโดนีเซีย หลังสิงคโปร์เรียกร้องไปหลายครั้งให้อินโดนีเซียแก้ปัญหาให้เด็ดขาด ด้านเจ้าหน้าที่ทางการอินโดนีเซียได้แสดงความไม่พอใจต่อข้อเรียกร้องของสิงคโปร์ และมีการตอบโต้ไปว่า สิงคโปร์ทำเหมือนเด็กๆ

ที่มา -