“การท่าเรือ” คาดปีนี้จำนวนตู้สินค้าขยายตัวเพิ่มขึ้น 5% แม้เศรษฐกิจชะลอตัว

[mrtnews]

เรือตรีทรงธรรม จันทประสิทธิ์ ผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ รักษาการแทนผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.)  เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในการให้บริการเรือ สินค้าและตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน (ทชส.) ท่าเรือเชียงของ (ทชข.)  และท่าเรือระนอง (ทรน.) ในรอบ 9 เดือนของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม 2557 - มิถุนายน 2558) โดยเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนี้

ท่าเรือกรุงเทพ : เรือเทียบท่า 2,333 เที่ยว ลดลงร้อยละ 5.70 สินค้าผ่านท่า 16.556 ล้าน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.87 และตู้สินค้าผ่านท่า (รวมตู้เปล่า) 1.179 ล้าน ทีอียู. เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.79

ท่าเรือแหลมฉบัง : เรือเทียบท่า 4,521 เที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.40 สินค้าผ่านท่า 54.556 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.54 และตู้สินค้าผ่านท่า 5.078 ล้าน ทีอียู. เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.10

ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน : เรือเทียบท่า 7,604 เที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.09 โดยเป็นเรือจาก สปป. ลาว มากที่สุด สินค้าผ่านท่า 0.332 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.61

ท่าเรือเชียงของ : เรือเทียบท่า 517 เที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 166.5 สินค้าผ่านท่า 0.062 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 101 ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการค้าชายแดนที่ยังคงขยายตัวท่ามกลางตลาดส่งออกอื่นๆ ที่หดตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก เนื่องจาก สปป. ลาว มีความต้องการสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้างจำนวนมาก เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ

ท่าเรือระนอง : เรือเทียบท่า 265 เที่ยว ลดลงร้อยละ 7.34 สินค้าผ่านท่า 0.154 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 21.38 ตู้สินค้าผ่านท่า 4,406 ทีอียู. เพิ่มขึ้นร้อยละ 606.09

จากผลการดำเนินงานพบว่ามีการขยายตัวของสินค้าและตู้สินค้าผ่านท่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.65 และ 2.85 ตามลำดับและเมื่อพิจารณาจากผลการดำเนินงานประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะจีนคู่ค้าที่สำคัญของอาเซียนและไทยมีผลให้การส่งออกสินค้าหดตัวต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้และความเชื่อมั่นของภาคเอกชน ทำให้ภาคธุรกิจชะลอการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต อย่างไรก็ดี ภาคการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง และการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐมีบทบาทมากขึ้นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปี 

ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2558 ผลดำเนินงานของ กทท. จะขยายตัวลดลงจากปีก่อน โดยจะมีตู้สินค้าผ่านท่ารวมประมาณ 8.370 ล้าน ทีอียู. หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 โดย ทกท.จะมีตู้สินค้าผ่านท่าประมาณ 1.570 ล้าน ทีอียู. หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4  และ ทลฉ. จะมีตู้สินค้าผ่านท่าประมาณ 6.800 ล้าน ทีอียู. หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 สอดคล้องตามภาวะเศรษฐกิจและภาคการส่งของประเทศที่ชะลอตัวลง



ที่มา Data & Images -