อิหร่านจ่อผลิตน้ำมันป้อน “วันละล้านบาร์เรล” ใน 3 เดือน ไม่หวั่นราคาดิ่งเหวหนัก

[mrtnews]

เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการอิหร่านคาด อิหร่านสามารถผลิตน้ำมันดิบได้สูงถึง "วันละ 1 ล้านบาร์เรล" ภายในระยะเวลา 3 เดือนข้างหน้า หลังมาตรการคว่ำบาตรที่อิหร่านเผชิญมายาวนานถูกยกเลิก เพราะสามารถบรรลุข้อตกลงด้านนิวเคลียร์กับเหล่าชาติมหาอำนาจ

รายงานข่าวซึ่งอ้างบิจาน อาลีปูร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ "นีซอค" หนึ่งในบรรษัทน้ำมันแห่งชาติของอิหร่านซึ่งดูแลการผลิตน้ำมันดิบ ที่มีสัดส่วนมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ให้กับรัฐบาลเตหะรานระบุว่า ภายหลังจากที่มาตรการคว่ำบาตรทั้งหลายถูกยกเลิก อิหร่านจะสามารถผลิตน้ำมันป้อนตลาดโลกได้ราว 500,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงแรก แต่สามารถเพิ่มปริมาณเป็น "วันละ 1 ล้านบาร์เรล" ภายในระยะเวลา 3 เดือน

ความคิดเห็นล่าสุดของผู้บริหารบรรษัทน้ำมันแห่งชาติของอิหร่าน มีความใกล้เคียงกับการแถลงของบิจาน ซานเกเนห์ รัฐมนตรีกระทรวงปิโตรเลียมของอิหร่านก่อนหน้านี้ที่ออกมาระบุว่า อิหร่านจะสามารถผลิตน้ำมันออกสู่ตลาดโลกได้ราว 500,000 บาร์เรลต่อวันในช่วง 2 เดือนแรก หลังมาตรการคว่ำบาตรทั้งปวงถูกยกเลิก ก่อนที่จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตแตะระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันภายใน 6 เดือน

ด้านแหล่งข่าวทางการทูตในกรุงเตหะรานระบุว่า รัฐบาลอิหร่านไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใดต่อราคาน้ำมันที่ตกต่ำในตลาดโลกในเวลานี้ และพร้อมส่งออกน้ำมันของตนในทันทีโดยจะไม่รอให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกถีบตัวสูงขึ้น

ก่อนหน้านี้อับดุลเลาะห์ อัล-บาดรี เลขาธิการใหญ่กลุ่มโอเปก ออกโรงยืนยันว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกซึ่งทำสถิติดิ่งลงถึง "จุดต่ำสุด" ในรอบ 6 ปีครึ่ง มีแนวโน้มที่อาจดีดตัวสูงขึ้นได้ในไม่ช้า และยืนยันว่า ทางกลุ่มโอเปกตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่ลดกำลังการผลิตเพื่อปั่นราคาในช่วงที่ผ่านมา

อัล-บาดรีซึ่งเป็นชาวลิเบีย และอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการใหญ่กลุ่มโอเปก มาตั้งแต่ปี 2007 เผยต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงเวียนนาของออสเตรีย โดยแสดงความเชื่อมั่นว่า ระดับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเวลานี้ซึ่งโดยเฉลี่ยจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 45-55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลนั้น ถือว่าเป็นระดับราคาที่ต่ำที่สุดแล้ว และจะไม่มีการดิ่งลงของราคาน้ำมันอีก พร้อมเผยมีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจดีดตัวสูงขึ้นในไม่ช้า

เลขาธิการใหญ่กลุ่มโอเปกยืนยันว่า ในช่วงที่ผ่านมาสมาชิกกลุ่มโอเปกได้ตัดสินใจถูกต้องแล้วที่รักษาจุดยืน ในการไม่ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน เนื่องจากหากกลุ่มโอเปกตัดสินใจเช่นนั้น จะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อตลาดพลังงาน การค้า การลงทุนทั่วโลก และจะทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกได้รับความเดือดร้อนอย่างที่ไม่ควรจะเป็น พร้อมย้ำ สมาชิกกลุ่มโอเปกควรให้ความสำคัญกับการลงทุนในแหล่งพลังงานใหม่ ๆ แทนการเป็นกังวลกับระดับราคาน้ำมันที่ต่ำเตี้ยในปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี อัล-บาดรีระบุว่า ทางกลุ่มโอเปกอาจต้องหารือกันอีกครั้งในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า หากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังไม่มีวี่แววกระเตื้องขึ้นสู่ระดับราคาที่ควรจะเป็น



ที่มา Data & Images -