ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา อาหาร ยา และเครื่องสำอางค์ รวมถึงสมุนไพรทุกชนิด ไม่ว่าจะมี อย. หรือไม่  เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

ทร.พม่าคว้ามาอีก 6 ลำ เรือเร็วเล็กติดจรวดรุ่นใหม่สุดทันสมัยสายพันธุ์อิสราเอล

เริ่มโดย mrtnews, ต.ค 10, 15, 06:59:37 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- กองทัพเรือพม่าเพิ่งจะเผยแพร่ข่าวการซื้อเรือเร็วโจมตีทันสมัย ความเร็วสูงติดจรวดนำวิถีและปืนใหญ่เรือแบบอัตโนมัติ ผลิตในอิสราเอล จำนวน 6 ลำรวด ซึ่งเป็นเหตุการณ์เมื่อต้นเดือนที่แล้ว ภาพที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้แสดงให้เห็น พล.อ.อาวุโสมินอองหล่าย (Min AUng Hlaing) กับประธานบริษัทผู้ผลิต เยี่ยมชมบนเรือความเร็วสูงลำหนึ่ง ระหว่างไปเยือนอิสราเอล


นี่คือ เรือซูเปอร์ดวอรัก มาร์ค 3 (Super Dvorak MK III) ขนาด 48-53 ตัน ซึ่งเป็นรุ่นที่สามของ "ยานโจมตีเร็ว" (Fast Attack Craft- FAC) ที่ผลิตในประเทศอิสราเอล และได้ชื่อเป็น FAC ดีที่สุดรุ่นหนึ่งของโลกในขนาดเดียวกัน ปัจจุบันยังคงประจำการในกองทัพเรืออิสราเอลจำนวน 10 ลำ และ ยังต้องการอีก 6 ลำ สามารถติดจรวดนำวิถียิงเรือได้อีกด้วย

สำหรับพม่า การซื้อเรือรุ่นนี้นับเป็นเพียงครั้งที่สองในรอบ 2-3 ปีมานี้ ในความพยายามพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพเรือ และ ยังถูกมองว่าเป็นอีกความพยายามหนึ่ง ในการกระจายความเสี่ยง หลังจากพึ่งพาอาวุธยุทโธปกรณ์เป็นหลัก ตลอด 20-30 ปีที่ผ่านมา

พม่าประสบความสำเร็จ ในการต่อเรือเร็วอีกรุ่นหนึ่ง ที่ขนาดใหญ่กว่า เมื่อปลายปี 2556 ด้วยความช่วยเหลือจากจีน และ ติดตั้งระบบเรดาร์กับระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ตลอดจนระบบจรวดนำวิถีอาวุธที่ผลิตในประเทศจีน เช่นกัน และ เพิ่งทำพิธีปล่อยลงน้ำเรือฟริเกตติดจรวดอีกลำหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว

เรือโจมตีเร็วจากอิสราเอลทั้ง 6 ลำ สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ ทั้งในปฏิบัติการชายฝั่งและตามลำน้ำ จะช่วยเพิ่มขีดความสารถของกองทัพเรืออีกเท่าทวีอย่างไม่ต้องสงสัย เว็บไซต์ข่าวของกระทรวงกลาโหมพม่า และ เว็บข่าวกลาโหมในภูมิหลายแห่งรายงานสัปดาห์นี้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับกำหนดการส่งมอบ ตลอดจนราคาซื้อขาย

เรือซูเปอร์ ดวอรัค 3 ต่อโดยบริษัทแรมทา (Ramta) แขนงหนึ่งของกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมอวกาศแห่งอิสราเอล หรือ IAI (Israel Aerospace Industries) ซึ่งเป็นกลุ่มเทคโนโลยีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของประเทศ บริษัทนี้ส่ง FAC รุ่นที่สามให้กองทัพเรือลำแรกเมื่อปี 2546 กองทัพเรือนำไปติดอาวุธ ก่อนออกแล่นทดสอบในทะเลในปี 2551 ทั้งนี้เป็นข้อมูลในเว็บไซต์ IAI

ซูเปอร์ดวอรัค 3 ยาวเพียง 27 เมตร กว้างสุด 5.7 เมตร ติดเครื่องยนต์ดีเซล V-12 ขนาด 4,000 ซีซี ให้กำลัง 4,175 แรงม้า ผลิตโดยบริษัทดีทรอยต์ดีเซล เอ็มทียู ในรัฐมิชิแกน จำนวน 2 เครื่องพร้อมติดตั้งระบบขับด้วยแรงดันน้ำ โดยบริษัทอาร์นีสัน เซอร์เฟซ ไดรว์ แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย จำนวน 2 ชุด สามารถทำความเร็ว 45-50 น็อต (83-93 กม./ชม.) และ มีระยะปฏิบัติการ 1,300 กิโลเมตร นับเป็นความเร็วสูงมาก และเสถียรมากที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง ในขณะออกแล่นปฏิบัติการ วิดีโอคลิปเกี่ยวกับการทดสอบหลายชิ้่น ที่เผยแพร่กันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้ช่วยยืนยันในเรื่องนี้

กองทัพเรืออิสราเอลได้ติดตั้งระบบอาวุธ ที่ประกอบด้วยจรวดนำวิถียิงเรือระยะใกล้ ที่ผลิตในประเทศรุ่นหนึ่ง กับปืนกลขนาด 12.7 มม. จำนวน 2 ชุด ระบบปืนใหญ่เรือแบบยิงอัตโนมัติ ขนาด 30 มม. ของเออร์ลิคอน (Oerlikon) 1 ชุด หรือ ติดปืนระบบปืนใหญ่เรืออัตโนมัติแบบไต้ฝุ่น (Typhoon) ขนาด 25 หรือ 30 มม. ผลิตในประเทศอีก 1 ชุด ที่ส่วนท้ายเรือแทนที่จรวด ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานกลุ่มนาโต้

กองทัพเรือไต้หวัน นำเรือเร็วอิสราเอลรุ่นนี้ ไปติดตั้งระบบจรวดนำวิถีแบบเฮลไฟร์ (Hellfire) ชนิดใช้ยิงเรือแทน ในพื้นที่ส่วนท้ายเรือสำหรับติดตั้งปืนใหญ่ เช่นกัน

เว็บไซต์ข่าวของกระทรวงกลาโหมในพม่า กล่าวว่าเรือซูเปอร์ดวอรัค มีประโยชน์อย่างมากในการจัดการปัญหาในน่านน้ำ และ ในลำน้ำของประเทศ ตั้งแต่ปัญหาโจรสลัด การค้าของเถื่อน จนถึงการค้ามนุษย์ ที่เป็นปัญหาใหญ่ ทำให้พม่าได้รับความสนใจจากทั่วโลก และ ใช้ในภารกิจค้นหาและกู้ภัย กับการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมได้ด้วย

ปัจจุบันกองทัพเรือพม่ามีเรือฟริเกต 6 ลำ เรือ "ไล้ท์ฟริเกต" ซึ่งเป็นเรือติดจรวดขนาดเล็กลงอีก 2 ลำ เรือคอร์แว็ต/โอพีวี กับเรือเร็วติดจรวดนิวิถีขนาดใหญ่ (45-49 เมตร) อีก 21 ลำ เรือเร็วติดปืนขนาดใหญ่ (45 เมตร) จำนวน 11 ลำ เรือเร็วติดจรวดปราบเรือดำน้ำอีก 6 ลำ กับเรือเร็วโจมตีติดจรวดนำวิถีอีกกว่า 20 ลำ เรือเกือบทั้งหมดซื้อจากจีน หรือ ต่อเองด้วยความช่วยเหลือจากจีน ซึ่งจำนวนหนึ่งตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว แต่ส่วนใหญ่มีขึ้นตั้งแต่เริ่มสหัสวรรษใหม่เป็นต้นมา

เรือรบพม่าติดระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบโซนาร์ และ ระบบอาวุธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจรวดนำวิถี ทั้งจากอินเดีย จีนและรัสเซีย และ ตามข้อมูลของศูนย์วิจัยกลาโหมในกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ปัจจุบันพม่าเป็นลูกค้ารายใหญ่อันดับสามของอาวุธยุทโธปกรณ์จีน ถัดจากปากีสถาน กับบังกลาเทศ


รัฐบาลใหม่กึ่งพลเรือนของพม่าได้แสดงออกให้เห็นมาหลายครั้ง ในความพยายามลดการพึ่งพาอาวุธจากจีน รวมทั้งในเดือน ส.ค.ปีนี้ ระหว่างงานแสดงอาวุธรัสเซีย หรือ RAE (Russia Arms Exhibition 2015) ในเขตอูราล ซึ่งพม่าแสดงความสนใจ และ ศึกษาการจัดซื้อยานโจมตีหุ้มเกราะแบบ BMP-3 จากรัสเซีย ที่อาจจะมีจำนวนหลายสิบคัน

ปลายปีที่แล้ว พล.อ.อาวุโส มินอองหล่าย ได้เดินทางเยือนรัสเซีย เบลารุส กับอีกหลายสาธารณรัฐพันธมิตรรัสเซีย ได้ไปเยี่ยมชมอุตสาหกรรมอาวุธ ในแต่ละประเทศอย่างหลากหลาย และ ยังเป็นที่มาของข่าวที่ว่า ผู้นำทางทหารจากพม่า เจรจากับรัสเซียเกี่ยวกับการซื้อเรือดำน้ำชั้นคิโล 2-4 ลำ เฮลิคอปเตอร์สำหรับภารกิจปราบเรือดำน้ำแบบคาร์มอฟ (Kharmov) Ka-28 อีก 2 ลำ สำหรับเรือฟริเกต

เดือน เม.ย.ปีนี้ พล.อ.อาวุโสมินอองหล่าย เป็นประธานในพิธี ฝึกซ้อมครั้งใหญ่ของกองทัพเรือในทะเลอันดามัน ที่มีการระดมเรือรบรุ่นต่างๆ กว่า 10 เข้าร่วม นับเป็นการฝึกซ้อมทางนาวีครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศนี้ ซึ่งมีการทดลองยิงจรวดนำวิถีที่ผลิตจากจีนด้วย.




ที่มา Data & Images -



..-