ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

TTA คาดผลงาน Q4/58 ลดลงจาก Q3/58 ตามค่าระวางเรือ เชื่อปีหน้าโตได้ดี

เริ่มโดย mrtnews, ธ.ค 03, 15, 06:19:47 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) - จันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2558 - นายวิทวัส เวชชบุษกร ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบริหารการลงทุน บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) กล่าวว่า บริษัทคาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/58 ภาพรวมน่าจะปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/58 จากอัตราค่าระวางเรือที่ปรับลดลงมาที่ราว 8,500-8,600 เหรียญสหรัฐ/ลำ/วัน จากไตรมาสก่อนหน้าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 8,700 เหรียญสหรัฐฯ/ลำ/วัน รวมถึงรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐลดลงหลังจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น


อย่างไรก็ตามแม้ผลการดำเนินงานจะปรับลดลงไปบ้าง แต่บริษัทยังสามารถรักษาการเติบโตของกำไรสุทธิให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจไว้ได้ เนื่องจากธุรกิจของ บมจ.เมอร์เมด มาริไทม์ น่าจะปรับตัวดีขึ้น หลังช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบเล็กน้อย และการประมูลงานที่ยังไม่มีออกมา ขณะที่ บมจ.พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ (PMTA)ปลายปีนี้ก็น่าจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังต้องรอดูภาพรวมการส่งออกประกอบด้วย

สำหรับปี 59 บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานโดยรวมน่าจะเติบโตดีกว่าปีนี้ เป็นผลมาจากธุรกิจในเครือ คือ เมอร์เมด มาริไทม์ ที่ยังต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง แม้ส่วนหนึ่งบริษัทยังมีสัญญาระยะยาว แต่ก็ต้องหางานใหม่เข้ามาเพิ่มอีก คาดว่าในปีหน้าจะมีการประมูลงานใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาอีกที่นอกเหนือจากงานวิศวกรรมใต้น้ำ ขณะที่ธุรกิจ ของ PMTA ที่คาดจะมียอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 ตัน

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งมีความเป็นไปได้ในลักษณะของการเข้าไปร่วมลงทุนหรือการเข้าซื้อกิจการ คาดว่าจะสามารถสรุปความชัดเจนของแผนการลงทุนว่าจะลงทุนหรือไม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 59 โดยมีธุรกิจที่สนใจ 3 ประเภท ประกอบด้วย พลังงานทดแทน, อาหารและเครื่องดื่ม และ โครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น ขณะที่แหล่งเงินลงทุนจะมาจากการออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายต่อผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP)ก่อนหน้านี้ 14,000 ล้านบาท บริษัทก็จะนำเงินดังกล่าวมาต่อยอดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

"ธุรกิจใหม่ เราก็หาดอกาสการลงทุนแบบอื่น เป็นธุรกิจที่ให้ผลกำไร ขณะนี้ก็มีหลายอุตสาหกรรมที่เรามองอยู่ เช่ พลังงานทดแทน Food&Beverrage และ Infarstructure คาดว่าน่าจะชัดเจนได้ในปี 59 ส่วนการลงทุนต่อเนื่องในธุรกิจเดิม เราก็ยังคงต้องระวังการลงทุนในธุรกิจดังกล่าว ทั้งเมอร์เมด มาริไทม์ หรือชิปปิ้ง ซึ่งต้องดูภาวะตลาดด้วยว่ามัน bottom แล้วหรือยัง โดยปีหน้าเรามองว่าภาวะตลาดดีขึ้น แต่ค่อยเป็นค่อยไป เห็นได้จากเรือต่อใหม่ปรับตัวลดลง"นายวิทวัส กล่าว



ที่มา Data & Images -