คมนาคมเตรียมเพิ่มมาตรการควบคุมเรือที่เข้ามาในน่านน้ำไทย หลังเรือท่องเที่ยวจีนล่ม

[mrtnews]

รมว.คมนาคม เตรียมเพิ่มมาตรการควบคุมเรือที่เข้ามาในน่านน้ำไทย หลังเกิดเหตุเรือท่องเที่ยวจีนล่ม บริเวณท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ขณะที่การกำจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหล วันที่ 3 พบปริมาณน้ำมันลดลง คาดใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะกู้ซากเรือได้

นี่เป็นสภาพน้ำทะเลบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี บริเวณจุดที่เรือท่องเที่ยวโอเชี่ยน ดรีม จมลงในทะเล ห่างจากฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร พบว่าวันนี้ (29 ก.พ. 59) มีปริมาณคราบน้ำมันสีดำลดลง หลังกรมเจ้าท่าและการท่าเรือ นำเรือปฏิบัติการออกฉีดสารเคมีขจัดคราบน้ำมันต่อเนื่องเป็นวันที่ 3

ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าแก้ปัญหาน้ำมันรั่วไหล คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงจะกำจัดแล้วเสร็จ จากนั้นจึงดำเนินการกู้เรือ ซึ่งจะใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท โดยบริษัทเจ้าของเรือต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

สำหรับมาตรการหลังจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กำชับให้เพิ่มความเข้มงวดเรือทุกลำที่เข้ามาในน่านน้ำไทย เพื่อป้องกันการนำเรือมาจอดในลักษณะนี้ เพราะจะส่งผลกระทบกับความปลอดภัยและการเดินเรือ ส่วนกรณีของเรือโอเชี่ยน ดรีม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาทำให้เกิดมลพิษ

ทั้งนี้เรือลำดังกล่าวเป็นของบริษัท เจซี มารีน เข้ามาจอดใกล้กับท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รับผิดชอบของกรมเจ้าท่า ตั้งแต่ปี 2557 โดยไม่มีผู้เข้ามาดูแล จนทำให้เรือผุกร่อนและจมลงในทะเล

กระทรวงคมนาคม (กรมเจ้าท่า) ได้นำเรือขจัดคราบน้ำมัน "เด่นสุทธิ" ควบคุมและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง โดยในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 ได้มีปริมาณน้ำมันไหลออกจากเรือ Ocean Dream มีปริมาณน้อยลง น้ำมันที่ลอดออกจากทุ่นกักคราบน้ำมัน(บูม) ได้ทำการฉีดพ่นสารเคมีขจัดคราบน้ำมันแตกสลายได้หมด และเฝ้าระวังช่วงน้ำลงต่ำ (เวลา 15.30 น.) ว่าจะมีน้ำมันออกจากเรือเพิ่มขึ้นหรือไม่

พร้อมกันนี้ ได้เฝ้าสังเกตการณ์น้ำมันที่รั่วไหลมิให้เข้าสู่ชายฝั่ง ซึ่งเป็นบริเวณที่ท่องเที่ยว เช่น อ่าวพัทยาในระยะประมาณอีก 1 สัปดาห์ และได้ขอความร่วมมือกับตัวแทนเรือ ในการจัดส่งชุดสำรวจหรือนักประดาน้ำเข้าสำรวจสภาพในตัวเรือ Ocean.Dream และสภาพพื้นท้องทะเล ตลอดจนความปลอดภัยในระหว่างการปฏิบัติการกู้เรือ อันมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งวางแผนจัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ในการกู้เรือและตรวจสอบน้ำมันที่ลอยอยู่ในตัวเรือ ปิดรอยรั่วของน้ำมันที่จะรั่วไหลออกมา และปิดท่อวาล์วต่าง ๆ รวมทั้งท่อปล่องระวางเรือ เพื่อยับยั้งการรั่วไหลน้ำมันออกจากห้องเครื่องเรือ และทำการกู้เรืออย่างเร่งด่วนภายใน 30 วัน โดยดำเนินการตามในขั้นตอนตามกฎหมาย มาตรา 121 พ.ร.บ. การเดินเรือในน่านน้ำไทยฯ

กรมเจ้าท่า ได้นำเรือขจัดคราบน้ำมัน "เด่นสุทธิ" เรือตรวจการณ์เจ้าท่า 804 บูรณาการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ทัพเรือภาคที่ 1 เรือลากจูง 204 ,เรือลากจูง 208 และเรือเล็ก 206 ของท่าเรือ แหลมฉบัง สมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (IESG) กรมควบคุมมลพิษ จังหวัดชลบุรี ป้องกันภัยจังหวัดชลบุรี เทศบาลแหลมฉบัง ในการสนับสนุนการปฏิบัติการและยับยั้งการรั่วไหลของน้ำมัน พร้อมกันนี้กลุ่มสิ่งแวดล้อม สำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ กรมเจ้าท่า ได้เก็บตัวอย่างน้ำมาวิเคราะห์ เพื่อเฝ้าระวังผลกระทบสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำมันเนื่องจากน้ำมัน ณ กลุ่มสิ่งแวดล้อม กรมเจ้าท่า กรุงเทพมหานคร โทร 02-234-3832 และศูนย์ควบคุมการปฏิบัติงานขจัดคราบน้ำมัน ณ สำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล สำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ.กรมเจ้าท่า.โทร038-495161-2,  038-400270

Drone specialist: วัชรากร มะลิทอง



ที่มา Data & Images -

[youtube=640,390]http://www.youtube.com/watch?v=HjtFsh8jMoY[/youtube]

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- จมแล้ว! เรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่จอดทอดสมอเอียงหน้าอ่าวแหลมฉบัง

- หวาดเสียว..เรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่จอดทอดสมอเอียงหน้าอ่าวแหลมฉบัง

..-