ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

สิงคโปร์เลย์ออฟหนักรอบ 7 ปี ในบริษัทอู่ต่อเรือและบริษัทแท่นขุดเจาะน้ำมัน

เริ่มโดย mrtnews, มี.ค 22, 16, 06:26:35 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สิงคโปร์เสี่ยงปลดพนักงานครั้งใหญ่ เหตุราคาน้ำมันไม่ฟื้น ขณะที่เกาหลีใต้ว่างงานทุบสถิติ 12.5%


หนังสือพิมพ์วอลสตรีท เจอร์นัล เปิดเผยว่า ปี 2015 ถือเป็นปีที่สิงคโปร์ปลดพนักงานออกครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 เนื่องจากภาวะราคาพลังงานตกต่ำ โดยเฉพาะพนักงานในกลุ่มบริษัทสำรวจและขุดเจาะพลังงานนอกชายฝั่งและบริษัทด้านการเดินเรือ

ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา มีการปลดพนักงานในภาคการผลิตไปแล้วกว่า 5,200 อัตรา หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2014 ถึง 22% คิดเป็นพนักงาน 1,680 อัตรา ในบริษัทผู้ผลิตสินค้าที่ทำจากโลหะประดิษฐ์ เครื่องจักร และอุปกรณ์ รวมถึงแท่นขุดเจาะน้ำมันด้วย โดย เซมบ์คอร์ป มารีน บริษัทอู่ต่อเรือขนาดใหญ่ของสิงคโปร์ ปลดพนักงานราว 3,000-4,000 อัตรา ขณะที่ ไรวัล เคปเปล คอร์ป บริษัทแท่นขุดเจาะน้ำมันรายใหญ่ ปลดพนักงานกว่า 6,000 อัตรา

บรรดานักวิเคราะห์ ระบุว่า ความเสี่ยงสำหรับสิงคโปร์ยังคงมีอยู่ เนื่องจากยอดสินค้าส่งออกกว่าครึ่งของสิงคโปร์มาจาก แซชิ บราซิล ผู้ให้บริการแท่นขุดเจาะน้ำมันในบราซิล ซึ่งขณะนี้มีความเสี่ยงล้มละลาย นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบจาก ปิโตรลีโอ บราซิเลยโร (ปิโตรบาส) รัฐวิสาหกิจน้ำมันยักษ์ใหญ่ของบราซิลที่กำลังประสบปัญหาทางการคลังอย่างหนัก

โจเซฟ อิลคาลคาเทอรา นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเอชเอสบีซี ระบุว่า ราคาน้ำมันและก๊าซในตลาดโลกที่มีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสิงคโปร์อย่างมาก ในฐานะที่สิงคโปร์ถือเป็นผู้ให้บริการด้านวิศวกรรมพลังงานรายใหญ่รายหนึ่งของโลก

อย่างไรก็ดี ปัญหาการจ้างงานไม่เพียงเกิดขึ้นในภาคพลังงานเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ สำนักงานสถิติของเกาหลีใต้เปิดเผยตัวเลขการว่างงานเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 4.1% สู่ระดับสูงที่สุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากการว่างงานของเยาวชนอายุระหว่าง 15-29 ปี อยู่ที่ 12.5% ทำลายสถิติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กจบใหม่


ซิมวอนโบ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติเกาหลีใต้ ระบุว่า ตัวเลขสมัครรับราชการในเดือน ม.ค. แตะ 2.2 แสนคน ทุบสถิติ สะท้อนให้เห็นว่าการแข่งขันในตลาดแรงงานค่อนข้างสูง ส่งผลให้เด็กจบใหม่ว่างงานมากขึ้น

เช่นเดียวกับจีน ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ที่ประสบปัญหาการจ้างงาน โดยเฉพาะในภาคเหล็กและถ่านหินที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี หลี่เค่อเฉียง ยืนยันว่าจะหลีกเลี่ยงการปลดพนักงานจำนวนมาก หลังภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่และโรงงานต่างปรับลดกำลังการผลิต พร้อมระบุว่าจีนจะสามารถจัดการกับการผลิตเกินในอุตสาหกรรมเหล็กและถ่านหินได้ ควบคู่ไปกับการป้องกันการปลดพนักงานจำนวนมาก

"จีนจำเป็นต้องดำเนินการลดการผลิตส่วนเกินในภาคอุตสาหกรรม แต่แรงงานจำนวนมากก็ไม่สามารถสูญเสียความมั่นคงทางการงานได้ ดังนั้น เราจึงต้องสร้างความมั่นคงให้แรงงานเหล่านี้ใหม่" หลี่ กล่าว



ที่มา Data & Images -