แทปไลน์จ่อชงบอร์ดอนุมัติเชื่อมท่อ ลุ้น เอสซี-ทีอาร์ซี ชิงท่อเส้นอีสานหมื่นล้าน

[mrtnews]

โปรเจ็กต์วางท่อน้ำมันขึ้นอีสานคืบ แทปไลน์ขอข้อมูลเอสซี กรุ๊ป-ทีอาร์ซีฯเพิ่ม หลังพรีเซนต์ข้อมูลไปแล้ว 1 รอบ รายละเอียดดีทั้งคู่ คาดภายใน 2 เดือนเคาะให้รายใดเชื่อมต่อ ด้านเอสซี กรุ๊ปมั่นใจเตรียมข้อมูลมาดี

นายถวัลย์ศักดิ์ กราพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด หรือแทปไลน์ (Thappline) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงการพิจารณาให้ผู้ประกอบการที่สนใจเชื่อมต่อท่อน้ำมันบริเวณพื้นที่จังหวัดสระบุรี เพื่อขยายท่อใหม่ขึ้นไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้เชิญบริษัท เอสซี กรุ๊ป จำกัด และบริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เข้ามานำเสนอรายละเอียดโครงการไปแล้ว หลังจากนั้น ยังได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของผลตอบแทนเพื่อนำมาเปรียบเทียบว่ารายใดตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดมากที่สุด รวมถึงรายละเอียดการเชื่อมต่อทางเทคนิคที่ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบเดิมของแทปไลน์ ขั้นตอนต่อจากนี้คณะกรรมการจะนำเสนอผลพิจารณาต่อคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) และรายงานต่อผู้ถือหุ้นต่อไป

"ตามรายละเอียดของทั้ง 2 บริษัท ที่เสนอมาค่อนข้างสูสีกัน คงต้องใช้เวลาในการพิจารณา คาดว่าภายในเดือน พ.ค.-มิ.ย.น่าจะตัดสินใจได้ว่าจะให้บริษัทใดเชื่อมต่อท่อน้ำมัน ถือเป็นโครงการที่ดีและเป็นประโยชน์ในระยะยาวของประเทศ"

ลุ้นท่อน้ำมันใหม่ - เร็วๆ นี้บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด เตรียมพิจารณาให้ผู้ประกอบการ 1 ใน 2 รายคือ เอสซีกรุ๊ปฯ และทีอาร์ซีฯ เชื่อมต่อระบบท่อในพื้นที่จังหวัดสระบุรี เพื่อขยายท่อน้ำมันเส้นใหม่ขึ้นไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน

ด้านนายณัฐพงษ์ รัตนสุวรรณทวี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซี กรุ๊ป จำกัดกล่าวว่า หลังจากนำเสนอโครงการเชื่อมต่อท่อน้ำมันของแทปไลน์เพื่อขยายท่อขึ้นไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้วนั้น ล่าสุดได้ส่งเอกสารเป็นรายละเอียด

ที่เกี่ยวข้อง คือ 1) ตัวเลขสมมุติฐานปริมาณน้ำมันที่จะผ่านระบบ 2) อัตราค่าเช่าพื้นที่ต่อตารางเมตร และ 3) อัตราค่าผ่านท่อ หลังจากนี้ เป็นกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการ นำเสนอคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) ของแทปไลน์ โครงการดังกล่าวมูลค่ารวมทั้งสิ้น 10,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินลงทุนของบริษัทเอสซี กรุ๊ป และกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

ในระหว่างรอผลการพิจารณานั้น บริษัทเอสซี กรุ๊ปได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางด้านวิศวกรรมเพื่อออกแบบทางเทคนิคทั้งระบบการเชื่อมต่อและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ ยังมองว่าความต้องการใช้น้ำมันในภาคอีสานยังมีโอกาสที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 2.5 รวมถึงยังมองส่งออกน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอนาคตได้อีกด้วย

"ข้อมูลโครงการที่เอสซี กรุ๊ปเสนอแทปไลน์ไปนั้น ค่อนข้างมั่นใจเพราะมีการเตรียมตัวมาค่อนข้างนาน ส่วนหนึ่งเพราะเราอยู่ในธุรกิจขนส่งน้ำมันด้วยรถบรรทุกมาก่อน ฉะนั้น เมื่อภาครัฐต้องการพัฒนาท่อส่งน้ำมัน ผู้ประกอบการก็ต้องปรับตัวมาลงทุนในธุรกิจท่อน้ำมัน ความจริงเอสซี กรุ๊ปยังมีความสามารถที่จะพัฒนาท่อน้ำมันขึ้นไปยังภาคเหนือได้ด้วย หากว่าผู้ประกอบการรายอื่นไม่สามารถดำเนินการได้"

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการพัฒนาท่อส่งน้ำมันไปยังพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นนโยบายของกระทรวงพลังงานที่ต้องการให้มีการขนส่งน้ำมันผ่านระบบท่อ เพื่อลดอุบัติเหตุจากการขนส่งด้วยรถยนต์ ลดการใช้พลังงาน และที่สำคัญเพื่อความมั่นคงทางพลังงานที่รองรับการใช้ได้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยการวางท่อน้ำมันขึ้นไปยังภาคเหนือนั้น ลงทุนโดยบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด หรือ FPT ด้วยเงินลงทุน 7,500 ล้านบาท ส่วนโครงการวางท่อน้ำมันไปยังภาคอีสานอยู่ในระหว่างการเจรจาเชื่อมต่อท่อน้ำมันของแทปไลน์ เพื่อลดการลงทุนซ้ำซ้อน



ที่มา Data & Images -