ไฟลุกไหม้เรือขนส่งก๊าซ LPG ขนาดพันตัน กลางปากอ่าวบางปะกง เจ็บ4 สาหัส 1

[mrtnews]

ฉะเชิงเทรา - ชาวบางปะกงสุดหวาดเสียว หลังไฟลุกพรึบไหม้เรือขนส่งก๊าซ LPG ขนาดใหญ่ ความจุกว่า 1 พันตัน กลางปากอ่าวบางปะกง ทำให้ลูกเรือพร้อมนายท้ายเจ็บ 4 ราย สาหัส 1 ราย โชคดีเป็นแค่เรือเปล่าที่กำลังจะจอดระบายเศษไอก๊าซทิ้ง ตัวเรือไม่ได้รับความเสียหาย คาดพัดลมระบายอากาศต้นเหตุก่อประกายไฟ

วันนี้ (29 มิ.ย. 59) เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.อ.ประกอบ พุ่มประเสริฐ ร้อยเวรสอบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากสาเหตุไฟครอก ถูกลำเลียงนำส่งเข้ามารักษาตัวยังที่ห้องฉุกเฉิน รพ.บางปะกง เป็นชาย จำนวน 4 คน โดยมีหนึ่งรายได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสถูกไฟคลอกเกือบหมดทั้งตัว จึงเดินทางไปสอบสวนยังจุดที่ได้รับแจ้ง

ภายในห้องฉุกเฉิน รพ.บางปะกง พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย กำลังได้รับความช่วยเหลือทำการปฐมพยาบาล และทำความสะอาดบาดแผลจากทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน ให้แก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกันอย่างวุ่นวาย โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกไฟคลอกหมดทั้งตัว 1 ราย คือ นายสมศักดิ์ หนูเสือ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174 ม.5 ต.ปรางหมู่ อ.เมือง จ.พัทลุง ถูกแยกเข้าไปทำการรักษาพยาบาลอยู่ในห้องทำบาดแผลชั้นใน

ส่วนอีก 3 ราย ประกอบด้วย นายคชาวุฒิ สายรวมญาติ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/2 ม.12 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับบาดเจ็บถูกประกายไฟที่ขา ที่ปาก และศีรษะเล็กน้อย นายศรายุธ จันทร์แป้น อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141/2 ม.3 ต.เขาพังไกร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ถูกไปคลอกที่ใบหน้าทั้งศีรษะ และบริเวณข้อมือทั้งสองข้าง นายชำนาญ ราชรองเมือง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 313/75 ม.11 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้รับบาดเจ็บถูกไฟคลอกที่บริเวณท่อนแขนซ้าย และท่อนขาทั้งสองข้าง

นายคชาวุฒิ นายท้ายเรือ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุหลังจากเรือได้บรรทุกก๊าซมาจาก ปตท. ในเขต จ.ชลบุรี จำนวนกว่า 1 พันตัน ได้นำมาลงสู่ท่าขนถ่ายที่บริเวณปากอ่าวบางปะกงจนหมดแล้ว ตนจึงได้นำเรือไปจอดทิ้งสมอที่บริเวณกลางปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง ระยะห่างจากฝั่งประมาณ 2 กม. ในเขตน่านน้ำ ม.8 ต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อที่จะทำการระบายเศษไอก๊าซ LPG ที่หลงเหลืออยู่ในถังทิ้งไป โดยมีคนงาน จำนวน 4-5 คน ขึ้นไปช่วยกันอยู่ที่ด้านบนปากถัง

ส่วนตนนั้นได้ลงไปยกเอาพัดลมดูดอากาศจากด้านล่างเพื่อที่จะนำขึ้นไปช่วยในการดูดระบายเอาเศษไอก๊าซออกมาจากถังที่ปลายป่องด้านบนของถังบรรทุกสินค้า แต่พอขึ้นไปถึงก็ได้เกิดไฟลุกขึ้นที่บริเวณปากถังบรรจุสินค้าแล้ว จึงยังไม่รู้ว่าเกิดประกายไฟขึ้นได้อย่างไร โดยเปลวไฟได้ลุกไหม้ที่ปลายปากป่องซึ่งมีเศษไอก๊าซหลงเหลืออยู่ในถังบรรทุกสินค้าเป็นเวลานานประมาณ 1 ชม. จนกระทั่งไอก๊าซหมดจากถังไฟจึงดับลง และมีคนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นนี้เปลวไฟได้ลุกไหม้ไอก๊าซขึ้นที่ปลายปากป่องเท่านั้น โดยที่ไม่ได้มีการระเบิดเกิดขึ้นบนเรือแต่อย่างใด เพราะเรือได้นำสินค้าซึ่งเป็นก๊าซแอลพีจี (LPG) จำนวนกว่า 1 พันตันไปถ่ายลงสู่ท่าจนหมดแล้ว นายคชาวุฒิ กล่าว

ด้าน นายชำนาญ พนักงานบนเรือ กล่าวว่า เรือลำดังกล่าวนี้มีลูกเรือ จำนวน 15 คน แต่ได้ขึ้นไปเปิดปากถังเพื่อช่วยกันระบายก๊าซออก จำนวน 4-5 คน ซึ่งเป็นถังเปล่า เพราะได้นำก๊าซไปลงก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้าจนหมดแล้ว โดยขณะเกิดเหตุนั้นเป็นเวลาประมาณ 09.00 น. และไฟได้ไหม้เศษไอก๊าซจนหมดลงในเวลา 10.00 น. โดยตัวเรือนั้นไม่ได้รับความเสียหาย เพราะเปลวไฟได้ลุกไหม้แต่เฉพาะเศษไอก๊าซที่บริเวณด้านบนเหนือปากป่องของถังสินค้าเท่านั้น ส่วนประกายไฟเกิดขึ้นได้อย่างไรนั้นตนไม่เห็นเพราะกำลังหันหลังอยู่พอดีขณะเกิดเหตุ

สำหรับชื่อเรือ และชื่อบริษัทเดินเรือนั้นตนยังไม่ขอเปิดเผย ขอให้ทางสำนักงานของบริษัทเป็นผู้ให้ข้อมูลหลังเกิดเหตุ จึงได้อาศัยเรือสำปั้นซึ่งเป็นเรือที่มารับจ้างรับส่งลูกเรือ จากเรือสินค้าขนาดใหญ่กลับขึ้นลงสู่ฝั่งไปยังที่บริเวณท่าเทียบเรือของกลุ่มเกษตรกรประมงบางปะกงที่บริเวณตลาดล่างบางปะกง ก่อนที่จะมีหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรามารับตัวส่งมายัง รพ.บางปะกง อีกต่อหนึ่ง



ที่มา Data & Images -



ไฟไหม้เรือขนส่งก๊าซLPGขนาดพันตันกลางปากอ่าวบางปะกง
 
วันที่ 29 มิ.ย. 59 เวลา 11.00 น. ร.ต.อ.ประกอบ พุ่มประเสริฐ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 รายจากการถูกไฟครอกมาเข้ารับการรักษาตัวที่ห้องฉุกเฉิน รพ.บางปะกง โดยมีหนึ่งรายได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ถูกไฟครอกเกือบทั้งตัว จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงโรงพยาบาลพบผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดกำลังได้รับความช่วยเหลือทำการปฐมพยาบาล และทำความสะอาดบาดแผลจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน โดยผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกไฟครอกหมดทั้งตัว 1 ราย คือ นายสมศักดิ์ หนูเสือ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174 ม.5 ต.ปรางหมู่ อ.เมือง จ.พัทลุง ถูกแยกเข้าไปทำการรักษาพยาบาลอยู่ในห้องทำบาดแผลชั้นใน

ส่วนอีก 3 ราย ประกอบด้วย นายคชาวุฒิ สายรวมญาติ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/2 ม.12 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับบาดเจ็บถูกประกายไฟที่ขา ที่ปาก และศีรษะเล็กน้อย นายศรายุธ จันทร์แป้น อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141/2 ม.3 ต.เขาพังไกร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ถูกไฟครอกที่ใบหน้าทั้งศีรษะ และบริเวณข้อมือทั้งสองข้าง นายชำนาญ ราชรองเมือง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 313/75 ม.11 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้รับบาดเจ็บถูกไฟครอกที่บริเวณท่อนแขนซ้าย และท่อนขาทั้งสองข้าง

นายคชาวุฒิ นายท้ายเรือ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุหลังจากเรือได้บรรทุกก๊าซมาจาก ปตท.ในเขต จ.ชลบุรี จำนวนกว่า 1 พันตัน เพื่อนำมาลงสู่ท่าขนถ่ายที่บริเวณปากอ่าวบางปะกงจนหมดแล้ว ตนจึงได้นำเรือไปจอดทิ้งสมอที่บริเวณกลางปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง ระยะห่างจากฝั่งประมาณ 2 ชม. ในเขตน่านน้ำ ม.8 ต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อจะทำการระบายเศษไอก๊าซ LPG ที่หลงเหลืออยู่ในถังทิ้งไป โดยมีคนงานจำนวน 4-5 คนขึ้นไปช่วยกันอยู่ที่ด้านบนปากถัง ส่วนตนได้ลงไปยกเอาพัดลมดูดอากาศจากด้านล่างนำขึ้นไปช่วยในการดูดระบายเอาเศษไอก๊าซออกมาจากถังที่ปลายป่องด้านบนของถังบรรทุกสินค้า แต่พอขึ้นไปถึงก็ได้เกิดไฟลุกขึ้นที่บริเวณปากถังบรรจุสินค้าแล้ว จึงยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร โดยเปลวไฟได้ลุกไหม้ที่ปลายปากป่อง ซึ่งมีเศษไอก๊าซหลงเหลืออยู่ในถังบรรทุกสินค้าเป็นเวลานานประมาณ 1 ชม. จนกระทั่งไอก๊าซหมดจากถังไฟจึงดับลง และมีคนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว โดยเปลวไฟได้ลุกไหม้ไอก๊าซขึ้นที่ปลายปากป่องเท่านั้น จึงโชคดีที่ไม่ได้เกิดระเบิดเกิดขึ้นบนเรือ

นายชำนาญ พนักงานบนเรือ กล่าวว่า เรือลำดังกล่าวนี้มีลูกเรือจำนวน 15 คน แต่ได้ขึ้นไปเปิดปากถังเพื่อช่วยกันระบายก๊าซออกจำนวน 4-5 คน ซึ่งเป็นถังเปล่า เพราะได้นำก๊าซไปลงก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้าจนหมดแล้ว โดยขณะเกิดเหตุนั้นเป็นเวลาประมาณ 09.00 น. โดยไฟได้ไหม้เศษไอก๊าซจนหมดลงในเวลา 10.00 น. ทำให้ตัวเรือไม่ได้รับความเสียหาย เพราะเปลวไฟได้ลุกไหม้แต่เฉพาะเศษไอก๊าซที่บริเวณด้านบนเหนือปากป่องของถังเท่านั้น ส่วนประกายไฟเกิดขึ้นได้อย่างไรนั้น ตนไม่เห็นเพราะกำลังหันหลังอยู่ขณะเกิดเหตุ

"สำหรับชื่อเรือและชื่อบริษัทเดินเรือนั้น ผมไม่ขอเปิดเผย ขอให้ทางสำนักงานของบริษัทเป็นผู้ให้ข้อมูล หลังเกิดเหตุจึงได้อาศัยเรือที่มารับจ้างรับส่งลูกเรือจากเรือสินค้าขนาดใหญ่กลับขึ้นฝั่งไปยังที่บริเวณท่าเทียบเรือของกลุ่มเกษตรกรประมงบางปะกงที่บริเวณตลาดล่างบางปะกง ก่อนที่จะมีหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรามารับตัวส่งมายัง รพ.บางปะกง อีกต่อหนึ่ง นายชำนาญ กล่าว
 
ขณะที่ ร.ต.อ.ประกอบ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ จึงยังไม่ขอสรุปถึงสาเหตุและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ โดยต้องรอการสอบสวนอย่างละเอียดก่อนจึงจะสามารถให้ข้อมูลได้ ร.ต.อ.ประกอบ กล่าว



ที่มา Data & Images -

[youtube=640,390]http://www.youtube.com/watch?v=9fPodbMkwwU[/youtube]