ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา หาเงินทางเน็ต งาน Part-time MLM ทุกรูปแบบ ธุรกิจที่มี downline ปั่นลิก์ SEOเด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

พม่าเล็งๆ เรือฝรั่งเศส ไม่นานราชนาวีไทยจะตกในวงล้อมเรือดำน้ำ

เริ่มโดย mrtnews, ส.ค 20, 13, 19:56:43 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 3 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ความสงสัยของหลายฝ่ายเริ่มดูเป็นจริงเป็นจริงมากยิ่งขึ้น พม่ากำลังจดๆ จ้องๆ จะเป็นเจ้าของเรือดำน้ำอีกรายหนึ่ง ทหารเรือจำนวนหนึ่งกำลังฝึกอบรมในปากีสถานเรียนรู้ทั่วๆ ไปเกี่ยวกับ "สงครามใต้น้ำ" ในประเทศนี้ ซึ่งเป็นแหล่งต่อเรือดำน้ำดีที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของฝรั่งเศสแต่มักจะถูกมองข้าม


เรื่องนี้ผ่านมานานหลายเดือนนับตั้งแต่สำนักข่าวกลาโหมเจนส์ดีเฟ้น (Jane's Defense) เริ่มระแคะระคาย

สำนักข่าวกลาโหมในพม่าเพิ่งตั้งคำถามปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า เป็นไปได้หรือไม่พม่ากำลังจ้องไปยังเรือดำน้ำชั้นอาโกสตา -90บี (Agosta 90B) ที่ปากีสถานซื้อสิทธิบัตรและต่อเองภายใต้สัญญาถ่ายทอดเทคโนโลยีจากกลุ่ม DCNS ในฝรั่งเศส และด้วยความช่วยเหลือจากวิศวกร-ผู้เชี่ยวชาญชาวฝรั่งเศสในช่วงกว่า 10 ปีมานี้

สายการผลิตเรือดำน้ำโจมตีเร็วขนาด 1,800 ตันติดตอร์ปีโดกับจรวดเอ็กโซเซต์ชั้นนี้ยังคงเปิดอยู่ในปากีสถาน ซึ่งได้ใบอนุญาตให้ผลิตเพื่อส่งออกอีกด้วย และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายก็เป็นที่ชัดเจนคือประเทศอาเซียน

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้พม่าซุ่มพัฒนากองทัพเรือยกใหญ่ เว็บข่าวกลาโหมของชาวพม่าเองกล่าวว่า เป็นกองทัพที่ไม่ได้มุ่งเน้นขนาดกองกำลัง ไม่เน้นเรือรบขนาดใหญ่ มีทั้งจัดซื้อจัดหาจากต่างประเทศและต่อเอง เน้นเรือเร็วโจมตีขนาดกลางขนาดเล็ก ติดปืนใหญ่เรือ ตอร์ปีโดและจรวดนำวิถี มีระบบควบคุมที่ทันสมัย

แนวคิดดังกล่าวได้ทำให้เรือดำน้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับกองทัพเรือพม่า ประเทศที่มีชายฝั่งทะเลยาวเหนือจรดใต้หลายพันกิโลเมตร มีน่านน้ำและเขตเศรษฐกิจจำเพาะที่กว้างใหญ่ไพศาล รุ่มรวยด้วยทรัพยากร และห้อมล้อมด้วยเพื่อนบ้านที่มีกองทัพทันสมัยใหญ่โตกว่าทั้งสิ้น

"ในสายตาของฝ่ายยุทธศาสตร์นาวี เรือดำน้ำเป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้ กองทัพเรือกำลังศึกษาเรือดำน้ำของตะวันตกอยู่เงียบๆ" เว็บบล็อกข่าวกลาโหมพม่ารายงานอ้างคำพูดของแหล่งข่าวในกองทัพเรือ ซึ่งไม่สามารถจะให้ระบุตัวตนได้

ย้อนกลับไปสัปดาห์ปลายเดือน มิ.ย. เจนส์ดีเฟ้นซ์เจอร์นัล สำนักข่าวกลาโหมที่เชื่อได้มากที่สุดและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกได้รายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวทางการทูตซึ่งระบุว่า นายทหารเรือกับทหารเรือพม่าราว 20 นาย เดินทางถึงกรุงการาจีในช่วงปลาย เม.ย.กับต้น พ.ค. เพื่อศึกษาเรื่องเรือดำน้ำในปากีสถาน


"ปฏิบัติการนี้นับเป็นขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมที่สุดในความพยายามสร้างกำลังเรือดำน้ำของพม่า" เจนส์ฯ กล่าว โดยแจงรายละเอียดว่าเป็นไปได้ที่ทหารเรือพม่าจะไปศึกษาอบรมที่ฐานทัพบาฮาดูร์ (PNS Bahadur Base) ซึ่งเป็นแหล่งฝึกอบรมด้วยระบบจำลอง (Simulation) เสมือนจริง มีการสอนประดาน้ำ สอนด้วยด้วยกลไก และฝึกสอบระบบสื่อสาร ระบบควบคุม ตลอดจนการแปลความหมายรหัสต่างๆ ของเรือดำน้ำ

ปากีสถานจึงเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้และแหล่งผลิตเรือดำน้ำใกล้ตัวที่สุด การมีความสัมพันธ์ความร่วมมือที่ใกล้ชิดมากขึ้นกับอินเดียซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใหญ่โตชายแดนติดกันนั้น ไม่ได้เป็นอุปสรรคอันใดสำหรับพม่าในการสร้างความร่วมมือด้านกลาโหมกับปากีสถาน ที่เป็นศัตรูตลอดกาลกับอินเดีย นักวิเคราะห์ลงความเห็น

ปากีสถานยังมีประสบการทำสงครามทางเรือมายาวนาน ถึงแม้ว่าจะสูญเสียเรือรบไปถึง 3 ลำ ในสงครามกับอินเดียเมื่อปี พ.ศ.2516 แต่เรือดำน้ำชั้นดาฟเน่ (Daphne-Class) ของปากีสถานลำหนึ่งในยุคโน้น ก็ยิงเรือปราบเรือดำน้ำของอินเดียจมไป 1 ลำ

ปัจจุบันปากีสถานมีเรือชั้นอาโกสตาประจำการ5 ลำ เป็นอาโกสตา-70 (Agosta 70) รุ่นเก่า 2 ลำ กับ อาโกสตา 90 บี ซึ่งเป็นรุ่นใหม่อีก 3 ลำ ในนั้น 1 ลำต่อในฝรั่งเศส นำเข้าประจำการในเดือน ธ.ค.2542 อีก 2 ลำ ต่อโดยอู่การาจีของกองทัพเรือทั้งหมดด้วยมาตรฐานของฝรั่งเศส ขึ้นระวางประจำการปี 2545 และ 2549

ตามข้อมูลในเว็บไซต์ PakistanDefence.Pk เรืออาโกสตา 90 บี ที่ต่อในปากีสถานทั้ง 2 ลำ ดัดแปลงให้ขับเคลื่อนด้วยระบบ AIP (Independent Air Propulsion) ซึ่งเป็นแนวโน้มใหม่ที่หลายประเทศเริ่มใช้กับเรือดำน้ำรุ่นใหม่แทนระบบเครื่องยนต์ดีเซลกับมอเตอร์ไฟฟ้า

แม้ว่าปากีสถานกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการต่อเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ลำแรกของประเทศก็ตาม แต่ก็มีโครงการที่จะต่อเรือชั้นอาโกสตา 90 บี อีก 6 ลำ เป็นอย่างน้อย จึงไม่มีความยุ่งยากอันใดหากจะพ่วงต่อให้พม่า 2 หรือ 4 ลำ ประเดิมส่งออก

เรืออาโกสตา 90 บี มีขนาดใหญ่กว่าชั้นสกอร์ปีน (Scorpine) หรือ "ไอ้แมลงป่อง" ของมาเลเซีย ที่กองทัพเรือฝรั่งเศสต่อขึ้นในภายหลังและปัจจุบันมีประจำการในกองทัพเรืออินเดียด้วย แต่เรือดำน้ำพันธุ์ฝรั่งเศสของปากีสถานนั้นใหม่กว่าและปัจจุบันพัฒนาไปไกลกว่าในทุกด้าน

ปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับพม่าก็คือ ปัจจุบันอีซีกับสหรัฐฯ ยังไม่ยกเลิกการคว่ำบาตรในด้านการซื้อขายอาวุธ แม้ว่าสิ่งนี้จะต้องยุติลงในวันหนึ่งข้างหน้าก็ตาม แต่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจะเกิดขึ้นเมื่อไร ในขณะที่การสร้างเสริมขีดความสามารถการป้องกันประเทศมีความเร่งด่วน


ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เรือดำน้ำฝรั่งเศสที่สร้างโดยปากีสถานภายใต้สิทธิบัตรไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการคว่ำบาตรซึ่งเปิดโอกาสให้กองทัพเรือพม่าเป็นเจ้าของได้ทันที นอกจากนั้นยังเป็นเรือใหม่เอี่ยม ติดอาวุธและระบบต่างๆ ได้หลากหลาย มีอายุใช้งานอีก 30 ปี ไม่ใช่เรือที่ปลดระวางประจำการแล้ว

เพียงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ไทยเป็นประเทศที่ 5 ในอาเซียนที่มีแผนพัฒนากองเรือดำน้ำและได้เจรจาซื้อเรือ 206 หรือ U 206 ที่เยอรมนีปลดประจำการแล้วจำนวน 6 ลำ เป็นเรือติดตอร์ปีโดขนาดเล็ก ออกแบบเพื่อปฏิบัติการในทะเลเหนือซึ่งเป็นทะเลน้ำตื้น รับมือเรือรบของกลุ่มสนธิสัญญาวอร์ซอในยุคสงครามเย็น

ไทยพลาดโอกาสเป็นเจ้าของเรือดำน้ำเก่าของเยอรมนีเมื่อต้นปี 2555 ด้วยหลากหลายสาเหตุ และแผนการจัดซื้อจัดหาครั้งต่อไปยังไม่ชัดเจน ถึงแม้ราชนาวีไทยจะให้ความสนใจเรือดำน้ำชั้นชังโบโก (Chang Bogo-Class) ที่เกาหลีซื้อสิทธิบัตรจากเยอรมนีไปต่อเอง อย่างออกหน้าก็ตาม

พม่าจึงเป็นประเทศที่ 6 ในกลุ่มที่เริ่มมองหาเรือดำน้ำ แม้จะไม่เคยการประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ แต่ได้แสดงออกด้วยรูปธรรมหลายอย่าง รวมทั้งการเพิ่มเงินงบประมาณพัฒนากองทัพอย่างมากมายทุกๆ ปีในช่วงไม่กี่ปีมานี้

กองทัพเรือเวียดนามได้จัดตั้งกองกำลังเรือดำน้ำขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี 2556 นี้ ขณะเตรียมรับมอบเรือชั้นคิโล (Kilo-Class) ลำแรกจากทั้งหมด 6 ลำ ที่รัสเซียจะส่งมอบให้ในเดือน พ.ย. และลำที่ 2 มีกำหนดก่อนสิ้นปี

เรือดำน้ำของเวียดนามเป็นชั้นคิโลปรับปรุง (Improved Kilo) เป็นยุคที่ 3 ของชั้น เป็นเรือดำน้ำโจมตีเร็วขนาด 3,000 ตัน ติดตอร์ปีโดกับจรวดนำวิถีความเร็วเหนือเสียง สามารถโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดินได้ เป็นเรือชั้นคิโลคนละยุคกันกับเรือสินธุรักศักดิ์ (Sindhurakshak) ของอินเดียที่เกิดระเบิด เพลิงไหม้และจมลงในเขตทหารเรือของเมืองท่ามุมไบกลางสัปดาห์ที่แล้ว

นักวิเคราะห์กล่าวว่า กองเรือดำน้ำของเวียดนามกำลังจะทำให้ดุลยภาพการรบทางทะเลในย่านนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสำคัญ.

ที่มา -