นายกสิงคโปร์ขายแผนนโยบายขยายสนามบินชางงี - ย้ายท่าเรือ

[mrtnews]

นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง แถลงนโยบายประจำปีเนื่องในวันชาติสิงคโปร์ ขายแผนพัฒนาสนามบินประจำชาติเพิ่มการรองรับผู้โดยสารอีกเท่าตัว, สร้างเมืองใหม่ริมน้ำ, ย้ายท่าเรือและฐานทัพอากาศ เปิดทางใช้ที่ดินเพื่อโครงการที่อยู่อาศัยและอุตสาหกรรม

ตามแผนที่ลีประกาศไว้เมื่อคืนวันอาทิตย์ การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 5 ของท่าอากาศยานนานาชาติชางงีจะเริ่มต้นในเวลาไม่ช้านี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 12-15 ปี "เทอร์มินัล 5 ฟังเหมือนเป็นแค่อาคารผู้โดยสาร แต่ที่จริงแล้วตัวอาคารนี้ก็คือสนามบินในตัวเอง โดยจะมีขนาดใหญ่โตเท่ากับสนามบินชางงีปัจจุบัน" ลีกล่าว

เขาไม่ได้เอ่ยถึงตัวเลขงบประมาณที่จะใช้ก่อสร้าง แต่กล่าวว่า แผนนี้รวมถึงรันเวย์แห่งที่ 3 ซึ่งจะเพิ่มความจุในการรองรับเที่ยวบินของชางงีอีกเท่าตัว

ท่าอากาศยานแห่งนี้เคยรองรับผู้โดยสารถึง 51.2 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขเกิน 50 ล้านคนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 31 ปีของชางงี ปีนี้ชางงียังได้รับการจัดลำดับโดยสกายแทร็ก บริษัทที่ปรึกษาจากอังกฤษ ให้เป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วย ปัจจุบันสนามบินนี้มีอาคารผู้โดยสาร  3 อาคาร สามารถรองรับนักเดินทางได้รวมกันปีละ 66 ล้านคน

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ชางงีเพิ่งเริ่มการรื้อถอนอาคารผู้โดยสารสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ เพื่อเปิดพื้นที่สำหรับการก่อสร้างอาคารใหม่ โดยเทอร์มินัล 4 มีกำหนดจะเปิดใช้งานปี 2560 คาดว่าจะรองรับผู้โดยสารได้ปีละ 16 ล้านคน

ลียังประกาศแผนสร้างรันเวย์แห่งที่ 4 ของชางงีด้วย ซึ่งจะเปิดช่องให้รัฐบาลสามารถย้ายฐานทัพอากาศจากเมืองปายาเลบาร์ในภาคกลาง มายังสนามบินนี้หลังจากปี 2573 และเปิดพื้นที่ว่าง 4,950 ไร่สำหรับโครงการที่อยู่อาศัย, โรงงาน และธุรกิจ

ผู้นำสิงคโปร์กล่าวถึงการแข่งขันอย่างดุเดือดของสนามบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กำลังท้าทายความเป็นฮับของสิงคโปร์ โดยเขาชี้ว่า ทั้งท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของไทย ต่างก็กำลังมีแผนขยายตัวอยู่เช่นกัน

"คำถามคือ เรายังต้องการเป็นฮับที่คึกคักของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือเราต้องการปล่อยให้คนอื่นมายึดตำแหน่งนี้ ยึดธุรกิจและยึดงานของเราไป?" ลีกล่าว

ชางงีมีเที่ยวบินผ่านมากกว่า 6,500 เที่ยวต่อสัปดาห์ นับข้อมูลจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2556 โดยมีสายการบิน 110 แห่งบินเชื่อมระหว่างสิงคโปร์กับ 240 เมืองใน 60 ประเทศ

นอกจากแผนขยายสนามบิน ในสุนทรพจน์ยาวนาน 3 ชั่วโมง บุตรชายของลี กวนยู ผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์ ยังกล่าวถึงระบบการศึกษา ปัญหาที่อยู่อาศัย และประกันสุขภาพของประชาชน ซึ่งเป็นประเด็นร้อนที่เป็นปัจจัยส่งให้พรรคกิจประชาชน (พีเอพี) ของเขา ซึ่งบริหารสิงคโปร์มาต่อเนื่องยาวนานกว่า 50 ปี ได้คะแนนสนับสนุนน้อยที่สุดในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2554

เขาได้กล่าวถึงแผนย้ายท่าเรือสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางรองรับตู้สินค้าทางเรือหนาแน่นเป็นอันดับ 2 ในโลก ไปยังเมืองตูแอส ทางฝั่งตะวันตกของเกาะสิงคโปร์ ภายในปี 2570 การย้ายท่าเรือจะเปิดพื้นที่ว่างในเขตตันจงปาการ์ ซึ่งอยู่ติดกับเขตธุรกิจ สำหรับการสร้างเมืองริมน้ำแห่งใหม่

สุนทรพจน์ของลีครั้งนี้ น่าจะมีเป้าหมายสื่อสารถึงคนสิงคโปร์รุ่นใหม่ ที่เริ่มตั้งคำถามและวิจารณ์นโยบายของพรรคพีเอพีอย่างเปิดเผยมากขึ้น เช่น แผนเพิ่มประชากรโดยอาศัยแรงงานต่างด้าวเป็นหลัก ซึ่งถูกวิจารณ์เรื่องการทำลายอัตลักษณ์และทำให้เกาะเล็กๆ แห่งนี้แออัดยิ่งขึ้น โดยอย่างน้อยแผนพัฒนาเหล่านี้ น่าจะคลายข้อวิตกเรื่องการขาดแคลนพื้นที่ว่างของเกาะสิงคโปร์ลงได้บ้าง.

ที่มา -